News

2026 BMW R 1300 R เผยข้อมูลครบ! โร้ดสเตอร์สุดล้ำรุ่นล่าสุด

โดย

เมษายน 14, 2025

2026 BMW R 1300 R เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ต่อยอดความสำเร็จของ BMW R 1300 GS ..แทนที่ BMW R 1250 R รุ่นเดิมเต็มระบบ ด้วยเครื่องยนต์และโครงสร้างใหม่หมดจด ผสานสมรรถนะและความสปอร์ตอย่างลงตัว

เครื่องยนต์ใหม่ 1,300 ซีซี.

แรงขึ้น ช่วงชักสั้นกว่าเดิม – BMW R 1300 R ใช้เครื่องบ็อกเซอร์ 2 สูบ ขนาด 1,300 ซีซี. แบบเดียวกับ R 1300 GS ซึ่งให้กำลังสูงสุด 145 PS (หรือ 143.5 HP) ที่ 7,750 รอบ พร้อมแรงบิดสูงสุดจากเดิม 143 นิวตันเมตร เป็น 149 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที (เพิ่มจากเดิม 250 รอบ) โดยเรดไลน์จะอยู่ที่ 9,000 รอบ/นาที

ทั้งนี้ การอัปเกรดความจุจาก 1,254 ซีซี. เป็น 1,300 ซีซี. ไม่ใช่แค่การเพิ่มขนาดกระบอกสูบเฉยๆ แต่เป็นการออกแบบใหม่ทั้งระบบ ทั้งการลดช่วงชักลงจาก 76 มม. เหลือ 73 มม. และขยายขนาดกระบอกสูบจาก 102.5 มม. เป็น 106.5 มม. ส่งผลให้ต้องใช้วาล์วไอดีและไอเสียขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมอัตราส่วนกำลังอัดใหม่ที่ 13.3:1 จากเดิม 12.5:1 ใช้ระบบระบายความร้อนทั้งหม้อลมและหม้อน้ำ พร้อมฝาสูบ DOHC และระบบ ShiftCam ของ BMW ซึ่งจะเปลี่ยนองศาวาล์วตามรอบเครื่องยนต์ที่ใช้งาน..

ระบบส่งกำลังใหม่ : น้ำหนักเบาลง

หนึ่งในจุดเด่นใหม่คือ การย้ายตำแหน่งเกียร์จากด้านหลังเครื่องยนต์ไปไว้ใต้เครื่อง และใช้เคสเครื่องยนต์ร่วมกัน ทำให้ลดน้ำหนักลงได้มากถึง 6.3 กิโลกรัม .. ทำให้เครื่องยนต์และเกียร์มีขนาดกะทัดรัดและศูนย์ถ่วงดีขึ้น ส่งผลให้การควบคุมรถทำได้เฉียบคมขึ้นตามไปด้วย

เฟรมใหม่ ช่วงล่างแน่น

เมนเฟรมของ R 1300 R นั้นใช้โครงเหล็กอัดเหมือนกับที่อยู่ใน R 1300 GS พร้อมซับเฟรมอลูมิเนียม ด้านหน้าใช้โช้คหัวกลับ ขนาด 47 มม. ด้านหลังเป็น สวิงอาร์มแขนเดี่ยว EVO Paralever พร้อมระบบขับเพลา .. ล้อใหม่เป็นแบบก้านกลวงที่ลดน้ำหนักลงไปได้อีก 1.36 กิโลกรัม

ระบบกันสะเทือนหลังนั้นเลือกติดตั้งออปชั่นเสริมอย่าง Dynamic Suspension Adjustment (DSA) ซึ่งจะได้โช้คปรับไฟฟ้าที่ปรับค่าการหน่วง, พรีโหลด และสปริงเรตได้ด้วยแบบ Real Time และยังตั้งค่าได้ง่ายๆผ่านหน้าปัดเรือนไมล์ที่ให้มา รวมถึง “โช้คหน้าไฟฟ้า” ซึ่ง BMW ใส่ระบบปรับสปริงไฟฟ้าให้เป็นครั้งแรกอีกด้วย!

ในส่วนรุ่น Performance จะพิเศษขึ้นมาอีกนิดด้วยการยกความสูงโช้คหน้าและหลังขึ้นอีก 10 มม. เพิ่มองศาการเอียงและระยะยุบช่วงล่าง พร้อมเซ็ตช่วงล่างให้หนึบขึ้นกว่า DSA ในรุ่นปกติ

จัดเต็มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

นอกจากช่วงล่างปรับไฟฟ้าแล้ว ยังมีการเซ็ตช่วงล่างให้เหมาะกับลักษณะการบรรทุกสัมภาระ โดยจะมีโหมดให้เลือกว่าตอนนี้ขับขี่คนเดียว, มีผู้โดยสาร หรือมีสัมภาระแบกขึ้นรถมาด้วยหรือไม่.. และยังตั้งค่านั้นๆให้เข้ากับโหมดขับขี่ได้อีกด้วย พร้อมระบบช่วยยกขาตั้งคู่

ออปชั่นเสริมล้ำ ๆ ยังมีอีก ได้แก่..

Adaptive Cruise Control พร้อมเรดาร์
ระบบเตือนการชนด้านหน้า
ASA (Automated Shift Assistant) เกียร์กึ่งอัตโนมัติควบคุมด้วยไฟฟ้า ที่เปลี่ยนเกียร์ให้อัตโนมัติ หรือจะเลือกเปลี่ยนเกียร์เองก็ได้ล่อยให้รถเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติได้
DTC – Shift Traction Control พร้อมระบบ Cornering ABS

ดีไซน์ท่านั่งใหม่ สปอร์ตแต่สบาย
BMW ปรับตำแหน่งแฮนด์ให้ต่ำลงกว่ารุ่น R 1250 R ก่อนหน้านี้ และขยับพักเท้าไปด้านหลัง เพื่อให้น้ำหนักถ่ายไปด้านหน้า.. เพิ่มความคล่องตัวและการควบคุมรถได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงความสบายด้วยกระปุกแฮนด์ที่ปรับองศาได้ถึง 180 องศา, พักเท้าปรับได้ 4 ระดับ และเบาะให้เลือกหลากหลายขนาด ที่มาพร้อมพร้อมระบบทำความร้อน

4 รุ่นย่อยให้เลือก
Standard: โช้คดำ ท่อไอเสียสเตนเลส

Exclusive: ท่อไอเสียโครเมียมสีดำ + สปอยเลอร์เครื่องยนต์

Performance: โช้คสีทอง + โช้คไฟฟ้า Dynamic Package พร้อม DTC-Shift

Option 719 Kilauea: ตกแต่งพิเศษพร้อมชุดแต่งจาก BMW Option 719

ข้อมูลสเป็คอื่นๆ :

น้ำหนักตัว (รวมของเหลว) : 239 กก.

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 3.4 วินาที

ความเร็วสูงสุด: มากกว่า 200 กม./ชม.

หน้าจอ TFT 6.5 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อ Bluetooth ได้

ไฟหน้า LED พร้อม Cornering Light (ออปชั่นเสริม)

กล่องสัมภาระระบบเซ็นทรัลล็อค + ช่องเสียบ USB-C

สรุป
2026 BMW R 1300 R คือโรดสเตอร์ตัวแรงที่ถูกพัฒนาขึ้นในทุกมิติ.. ทั้งเรื่องยนต์ใหม่ ที่มี แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 149 นิวตันเมตร, ระบบเกียร์และช่วงล่างใหม่ที่เบาและแม่นยำขึ้น, ฟีเจอร์จัดเต็ม, ระบบช่วยขับขี่และช่วงล่างไฟฟ้า, ท่านั่งสปอร์ตแต่ไม่ทิ้งความสบาย, ใครที่มองหารถ Naked Roadster พลังดิบ ฟีลสปอร์ต ทันสมัย จัดว่าไม่ควรพลาด! ..แต่จะขายไทยมั้ยก็อีกเรื่องเนอะ..