Honda NT1100 รถสไตล์สปอร์ตทัวริ่ง ที่มีพัฒนาการมาจากรถสไตล์แอดเวนเจอร์ทัวริ่ง นำข้อดีมาใช้ในรูปแบบรถทางดำ อะไรไม่จำเป็นก็ตัดออก เป็นความลงตัวที่พอดีไม่มากหรือน้อยไปที่ยังคงคอนเซ็ป Total Control ควบคุมได้ง่ายและสนุก
Sport Touring
NT1100 ถูกจัดให้อยู่ในประเภทสปอร์ตทัวริ่ง ซึ่งรถสไตล์สปอร์ตทัวริ่งในช่วง 20 กว่าปีก่อนจะเป็นรถสปอร์ตมาผสมกับรถทัวริ่งจะได้ทรงรถ เช่น CBR1000F, CBR1100XX Superblackbird ในรุ่นใหม่หน่อยก็จะเป็น VFR1200F หรือรุ่นกลางอย่าง CBR650F ก็ใช่
แต่ด้วยกาลเวลา มีการพัฒนาและผลิตรถให้เจาะจงกับการใช้งานมีมากและหลากหลายกว่าเดิมมาก การเรียกประเภทหรือสไตล์ของรถที่เรียกเหมือนกันแต่ทรงรถอาจจะต่างกัน อย่างสไตล์ Adventure Touring ก็พัฒนามาจากรถ Big Enduro หรือ Dual Purpose เช่นกัน
กลับมาที่ NT1100 เป็นสปอร์ตทัวริ่งที่พัฒนามาจากรถแอดเวนเจอร์ทัวริ่ง นำข้อดีของแอดเวนเจอร์ทัวริ่งที่ใช้บนทางดำ มาปรับเพิ่มให้ตรงการใช้งานมากขึ้น และลดหรือตัดออกในสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือไม่ตรงสไตล์รถหรือการใช้งานออกไป
เพิ่มและลด จนลงตัว
ชัดเจนคือตำแหน่งท่านั่งขับขี่ที่ยกมาจาก CRF1100L Africa Twin รถแอดเวนเจอร์ทัวริ่งของค่าย เป็นทางนั่งแบบ Uprigth Position คือนั่งขี่แบบหลังตรง
แต่ผมรู้สึกว่าใน NT1100 มีตุ๊กตาแฮนด์ที่ต่ำกว่า Africa Twin เล็กน้อย จากตำแหน่งแฮนด์ทำให้รู้สึกว่าท่านั่งจะโน้มไปข้าหน้ามากกว่า ให้ความสปอร์ตก้มหลบลมมากกว่า เพราะความยาวช็อคอัพและล้อขนาด 17 นิ้ว และตุ๊กตาแฮนด์ที่อาจจะสั้นกว่ากันหรือเปล่าต้องดูอีกทีครับ หรือไม่ก็ต้องจอดเทียบกันดู
ช่วงล่างปรับใหม่
ช็อคอัพหน้าแบบ Upside Down ของ Showa ขนาด 43 มม. ปรับพรีโหลดได้อย่างเดียวต่างจากที่อยู่ใน Africa Twin ที่ปรับได้มากกว่า โช้คอัพหลังเดี่ยว Showa ปรับพลีโหลด โดยมีรีโมทแยกออกมาเพื่อสะดวกในการหมุนปรับ ช็อคหลังจะทำงานร่วมกับสวิงอาร์มในระบบ Pro-Link
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 310 มม. คาลิปเปอร์ Nissin ขนาด 4 ลูกสูบ ดิสก์เบรกหลังเดี่ยวขนาด 256 มม. คาลิปเปอร์ Nissin ขนาด 2 ลูกสูบ มีระบบ ABS ทั้งหน้าหลังเป็นมาตรฐาน จะเห็นได้ว่าระบบเบรกอัพเกรดให้ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพให้หยุดรถในความเร็วสูงได้ดี เมื่อเที่ยบกับที่อยู่ใน Africa Twin
ล้อแม็กขนาด 17 นิ้วรัดด้วยยางหน้าขนาด 120/70R17 ยางหลังขนาด 180/55R17 ทั้งขนาดล้อและยางรวมถึงรุ่นของยางคือ Dunlop Sportmax สเป็ควิ่งถนนทางดำ 100%
แม้จะปรับช่วงล่างเป็นทางดำแบบ 100% แล้วท้องรถยังมีระยะห่างพื้นถึง 175 mm. แถมมีการ์ดกันแคร้งใต้เครื่องมาด้วย นี่คือการผสมผสานเผื่อใครอยากจะลงดินปีนไหล่ทางออกนอกทางหลักก็ยังทำได้อยู่ แต่ถ้าจะลุย Off Road ไป Africa Twin เหอะนะ
เครื่องยนต์ 1100 จาก Africa Twin
เครื่องยนต์ยกมาจาก CRF1100L Africa Twin เป็นเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง Parallel Twin ระบายความร้อนด้วยน้ำ 1,084 ซีซี 4 วาล์วต่อสูบ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-FI ให้กำลัง 100.58 แรงม้าที่ 7,500 รอบ แรงบิด 104 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบ อัตราส่วนการอัด 10.1:1
NT1100 ทุกคันจะมากับระบบขับเคลื่อนเกียร์ DCT 6 สปีด ไม่มีขับโซ่ให้เลือกนะครับ และสำหรับ NT1100 ถือเป็นรุ่นที่ 3 แล้วที่ใช้เครื่องยนต์ลูกนี้ (CRF1100L, Rebel1100 และ NT1100)
เปิดตัวไม่ว้าวเท่าตอนได้ลองขี่
ตอน NT1100 มาเปิดตัวครั้งแรกในไทย ผมเองไม่ค่อยว้าวกับดีไซน์หรืออะไรของรถเท่าไหร่นัก ส่วนตัวมองว่าจืดไปนิด แต่ถ้าขายพร้อมกระเป๋า 3 ใบก็จะหล่อเข้าที นั่นเป็นความคิดตั้งแต่เห็นยาวมาจนวันได้ลองขี่
คร่อมลงไปมันคือความคุ้นเคย คล้ายกับ Africa Twin ที่ผมมีโอกาสได้ขี่บ่อยครั้ง แต่มีความต่างกันอยู่ไม่มากนัก เรื่องตำแหน่งแฮนด์ที่ผมบอกในตอนต้นก็ด้วย ถังน้ำมันขนาด 20.4 ลิตรเท่ากันและทรงเหมือนกัน ไม่กล้าจะบอกว่ายกมาเลยหรือเปล่า แต่โดยรวมคือดี ทะมัดทะแมง ไม่เทอะทะ ให้ความรู้สึกคล่องตัว
DCT ระบบเทพที่สุดระบบหนึ่งในโลก
รุ่นนี้เป็นเกียร์ DCT 6 สปีด ผมเองมีความชอบเกียร์ DCT เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในหลายๆ คลิปของผมที่รีวิวรถรุ่นเดียวกันที่มีเกียร์ธรรมดาและเกียร์ DCT ให้เลือก ผมมักจะเชียร์ให้เอาตัว DCT อย่างเช่นคลิปรีวิว Goldwing
วันที่ทดลองขี่ NT1100 และถ่ายคอนเทนต์นี้ เป็นช่วงที่มรสุมเข้า ผมเจอฝนตั้งแต่เช้าที่มาพร้อมรถติด จากถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าสำโรงข้ามไปพระปะแดงก่อนเข้าพระราม 2 รถติดอย่างหนัก
ขี่รถเปียกฝนไม่เท่าไหร่ ผมมาท้อใจเกือบจะกลับเข้าบ้านก็ตอนเห็นรถติดแทบไม่ขยับนี่ล่ะ แต่ก็ฮึบๆ เอาๆ ออกมาแล้ว และก็เห็นว่า NT1100 ก็ให้ความคล่องตัวมากกกว่าที่คิด คือมากกว่า Africa Twin ที่ผมคุ้นเคย อาจเพราะไม่มีการ์ดแฮนด์และความกระชับของเบาะนั่งขายันพื้นถึงสบายๆ หลุดรถติดมาอย่างพริ้วเลยขอบอก
จอ TFT ระบบสัมผัส โหมดขี่ และระบบอิเล็กทรอนิกส์
หน้าจอ TFT สีขนาด 6.5 นิ้ว รุ่นนี้เป็น Touchscreen หรือระบบสัมผัสด้วย ใช้นิ้วจิ้มเลือกฟังก์ชั้นที่หน้าจอได้เลย เพิ่มความสะดวกไปอีกขั้น เชื่อมต่อกับมือถือได้ทั้ง Android และ IOS และ IOS สามารถใช้ Apple Car Play ได้ ใช้ระบบนำทางแสดงแผนทีนำทางบนหน้าจอได้เลย
แต่การเชื่อมต่อยังต้องใช้สายชาร์จที่ปลายอีกข้างเป็น USB-A และเชื่อมต่อกับ Bluetooth ที่ติดหมวกกันน็อคด้วย นอกจากช่องต่อ USB-A ก็ยังมีช่องต่อแบบ 12V ให้อีก 1 จุด
โหมดขับขี่มี 5 โหมด โดย 3 โหมดแรกจะเป็นโหมด Tour, Urban และ Rain อีก 2 โหมดจะเป็นโหมด USER ให้ปรับตั้งค่าระบบอิเล็กทรอนิกช่วยขี่คือ P (Power), T (Torque Control), EB (Engine Bake Control) ซึ่งในแต่ละระบบมีให้เลือก 3 ระดับความเข้มข้น นอกจากนี้ยังมีระบบ Cruise Control มี Heater Grip ให้มาด้วย
การขี่ในรูปแบบออกทริปทางไกลของผมยังไม่จบ หลังลุยฝนและรถติดหนักๆ ออกมาได้ก็ได้ลองกำลังและช่วงล่างในทางตรงยาวจากพระราม 2 สู่ทางเลี้ยวเข้าบางตะบูน คลองโคน เครื่องยนต์จาก Africa Twin แต่เมื่อมาอยู่ใน NT1100 ทีมีช่วงล่างรองรับการขี่ความเร็วสูงบนทางดำ ยิ่งทำให้น่าประทับใจ
กำลังของเครื่องยนต์วระดับ 1100 ซีซี แรงหายห่วง กับระบบเกียร์ DCT เพิ่มลดเกียร์เองใน Auto โหมด และยังเลือกได้ว่าจะเป็น D โหมด หรือ S โหมด และใน S โหมดยังเลือกค่าการตอบสนองได้อีก 3 ระดับ ใน Auto โหมดถ้ารถเพิ่มหรือลดเกียร์เองไม่ได้ดั่งใจเราก็สามารถฝืนเพิ่มหรือลดเกียร์เองได้
นอกจากนี้ถ้าไม่ถึงใจยังมี Manual โหมดให้เลือกเปลี่ยนเกียร์เองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย กดเพิ่มหรือลดเกียร์ที่สวิทซ์แฮนด์ด้านซ้ายแบบเดียวกับ Paddle Shift ในรถยนต์ เป็นมาตรฐานของรถเกียร์ DCT รุ่นใหม่ของฮอนด้า และมันฉลาดมาก
ความเร็วที่ผมใช้เดินทางค่อนข้างสูงอยู่ที่ 140 – 210 กม./ชม. เนื่องจากอยากทดลองช่วงล่าง การเร่งแซงหรือการร่อนแซงรถยนต์ในความเร็วสูง NT1100 ทำได้ดีมากเลย ช็อคอัพที่ปรับมาใหม่มีความหนึบแน่น มีระยะยุบที่มีน้อยกว่า Africa Twin รวมถึงขนาดล้อและยางในทางดำแบบนี้ NT1100 จึงเหนือกว่าชัดเจนและแยกประเภทรถให้ตรงกับการใช้งานได้อย่างเด็ดขาด
โดยความเร็วสูงสุดที่ผมทำได้อยู่ที่ 218 กม./ชม. รถขี่และควบคุมได้ง่ายแม้อยู่ในความเร็วสูง ง่ายและรู้สึกปลอดภัยกว่า Africa Twin ด้วยช่วงล่างที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ขี่ง่ายมาก ขี่สนุกเลยละครับ เข้าเส้นคลองโคนมีโค้งให้ได้ลองบ้าง รถเลี้ยวได้ง่ายมาก สั่งได้ อยู่ในคอนโทรลทุกอย่าง การควบคุมที่ง่ายและดีอันนี้แหล่ะที่ว้าว
Honda NT1100 ราคา 515,000 บาท เป็นเกียร์ DCT และถ้าต้องการกระเป๋า 3 ใบต้องเพิ่มอีก 85,000 บาท
สรุปยาวหน่อย
NT1100 เป็นรถที่ขี่และควบคุมได้ง่าย กำลังเครื่องยนต์เหลือเฟือ เกียร์ DCT ฉลาดมาก เป็นรถทางดำสมชื่อ Sport Touring แต่ได้รวมข้อดีจาก Adventure Touring ทั้งท่าขี่ ทั้งความกระชับกะทัดรัดจากเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง
คล่องตัวในทุกการใช้งาน รถแอบมีความสูงใต้ท้องที่ยังถือว่าสูงอยู่ มีการ์ดแคร้ง บอกเป็นนัยว่าลุยได้นะ เช่น ถนนปะพัง ใน กทม. นี่รูดสบาย ลงไหล่ทาง หรือลูกรังแน่นๆ นี่ หวดได้เลย แต่ถ้าจะเอา “ลุย” ไปหา Africa Twin เหอะ เชื่อดิ
ส่วนตัวผมอยากจะบอกว่า NT1100 คือ SUV Bike เพราะใช้งานได้อรรถประโยชน์จริงๆ จะใช้ในชีวิตประจำวันก็ได้ ถนนในเมืองนี่รูดสบาย ออกทริปดีมาก เกียร์ DCT อันนี้ผมอวยเลยล่ะ และขี่ออกนอกเส้นทางได้ ระบบไม่มากไปไม่น้อยไป เป็นรถที่ครบเครื่องเลยล่ะ
ข้อสังเกตุ
- กุญแจยังต้องเสียบใช้งานอยู่ ไม่ใช่กุญแจ Keyless แต่มีระบบ HISS กันขโมยมาให้
- ขาตั้งคู่มีมาให้ แต่จะใช้ให้ถนัดต้องเอาขาตั้งข้างลงก่อน เพราะตำแหน่งเหยียบแทบจะติดกัน
- ชิลด์บังลมสั้นปรับไม่ได้ ในความเร็วสูงทั้งชิลด์และแฟริ่งหน้าสร้างแอโร่ไดนามิกส์ได้ดี แต่ถ้าชิลด์สูงกว่านี้หรือมีชิลด์แต่งมาให้เลือกก็น่าจะดี
- สายไฟฮีทกริ๊ปที่แฮนด์ขวา แอบเกะกะนิดนึง
- กล่องตรงรุ่น 3 ใบหล่อมากแต่ราคาค่อนข้างสูง ซึ่งกล่องจากแบรนด์ที่ขายทั่วไปน่าจะถูกกว่า
#RidingPassion2024 #JapanPassion #HondaBigBike #HondaBigBikeThailand #Excitestheworld
รีวิว Honda Rebel 1100 เกียร์ DCT
คลิป รีวิว 2022 Honda Rebel 1100
รีวิว 2022 NC750X
คลิปรีวิว 2022 Honda NC750X
รีวิว NEW CBR500R กดเวลาที่สนามช้าง
รีวิว New CB500X โช้คกลับ ดิสก์คู่
คลิป รีวิว CRF1100L Africa Twin ทั้ง DCT และ MT
คลิป รีวิว CBR250RR SP
