ขี่ Honda CBR650R เที่ยว “ปาย” หน้าฝน

0

“โควิด-19” ทำให้งานอีเวนท์ กิจกรรม ต่างๆ รวมถึง งานทดสอบรถที่ต้องเลิกหรือเลื่อนออกไป ผมจึงมีโอกาส(เวลา)ได้มาเขียนบทความ “ท่องเที่ยว” ที่ผมเดินทางไปเมื่อปลายฝนปีที่แล้ว เป็นทริปขี่ Honda CBR650R ขึ้นเที่ยว อ.ปาย จ.เชียงใหม่ พักที่ “ภูริปาย วิลล่า” กับกิจกรรมในช่วงเวลา 2 วัน 1 คืนอันน่าประทับใจ ตามมาเลยครับ

สนามบินสุวรรณภูมิ คือจุดเริ่มต้นการเดินทางจาก กทม. ของเราทุกคน ใช่ครับพวกเรานั่งเครื่องบินไปลงที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อไปขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยว ซึ่งพฤติกรรมการท่องเที่ยวแบบนี้ในปัจจุบันก็จะมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ของนักบิดจาก กทม. โดยเฉพาะการขี่ไปและนั่งเครื่องบินกลับ

รอรับกระเป๋าจากสายพาน หน้าสนามบินก็มีรถตู้มารับไปต่อทันที จุดหมายก็คือ Honda Bigwing เชียงใหม่ ที่นี่เราจะมาเปลี่ยนชุด และรับรถมอเตอร์ไซค์ที่จะใช้ในทริปนี้ยนั่นคือ Honda CBR Series จะเป็น CBR650R และ CBR500R ผมได้ Honda CBR650R เป็นพาหนะคู่ใจ  ตั้งขบวนพร้อมออกเดินทางกันต่อเลย

ขบวน CBR กว่า 10 คันเคลื่อนออกจาก Honda Bigwing ก็เป็นที่สนใจรอบข้างอย่างมาก หล่อเลย เราใช้รูปขบวนขับขี่แบบสลับฟันปลา ใช้ความเร็วเฉลี่ยๆ 120 -140 แต่รถติดก็เรียงเดี่ยวไหลตามๆ กัน ไม่นานก็ถึงทางแยกเลี้ยวขวาที่จะขึ้นปาย

เราเลี้ยวเข้ามาไม่นานก็แวะพักกินกาแฟ ของหวานกัน แก้ร้อนกันก่อน สิ่งที่ตามมาคือเงาเมฆที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ไม่รอช้าดีกว่าครับ ใส่ชุด รีบไปกันต่อ แต่ก็ไม่ทัน สายฝนห่าใหญ่ลงมาเต็มๆ ถึงกับเปียก จนต้องจอดหลบ รอจนฝนจะซาลงถึงจะเดินทางกันต่อ

ส่วนตัวผมเองล่าสุดที่ขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นปายก็ก่อนหน้าทริปนี้เพียงปีเดียว ตอนนั้นใช้บิ๊กสกู๊ตเตอร์ขึ้นมาขนาด 650 ซีซี แบรนด์จากเยอรมันขึ้นมา แน่นอนที่จะเหนือกว่าในความสบาย และความมันส์ ความสนุกในแบบรถสปอร์ตนั้นคงเทียบไม่ได้กับ CBR650R ที่ผมใช้ในทริปนี้ และยังเป็นฝันของใครหลายๆ คน ที่ซักครั้งจะต้องได้ขี่สปอร์ต 4 สูบเล่นโค้งขึ้นปาย

 สำหรับ CBR650R เป็นรถที่ใช้งานได้ครอบคลุมหลายอย่าง คือด้วยท่านั่งที่ไม่ถึงกับก้มมาก แม้เป็นรถสปอร์ต ก็สามารถใช้เดินทางไกลได้อย่างไม่เหนื่อยตัวผู้ขี่นัก พละกำลังก็อยู่ในเกณฑ์ดีเลยล่ะครับ เร่งแซงได้ดั่งใจ อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงก็ไม่สูง ยิ่งถ้าใช้ความเร็วเดินทางในช่วง 120 -140 นะ สบายๆ เลย และด้วยความเป็นรถสปอร์ตเจอโค้งเยอะๆ แบบนี้ก็สนุกสิครับ

ระหว่างทางก็เจอสายฝนบางๆ เป็นช่วงๆ เช่นกับผิวถนนที่จะแห้งใช้เราได้ยืดเส้นยืดสายเป็นช่วงๆ เช่นกัน แต่ที่มีให้สัมผัสตลอดทางคืออากาศที่เย็นสบาย กับโอโซนที่เข้ามาฟอกปอด พร้อมกับกลิ่นดินที่โดนสายฝน ฟินเลย แวบเดียวก็ขึ้นมาถึง “อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง” จุดแวะอีกจุด เราขี่เข้ามาถ่ายรูป “ดอยกิ่วลม” บรรยากาศหลังฝนคือดีมาก เย็นสบาย

และที่พลาดไม่ได้ที่ขึ้นมาเที่ยวปาย คือต้องแวะถ่ายรูปสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย จากจุดนี้ก็มุ่งตรงเข้าไปยัง “ภูริปาย วิลล่า” ที่พักของเราในทริปนี้ ด้วยระยะทางการเดินทางที่มีไม่ไกลนัก และทำเวลาได้ดี เราจึงมีเวลาเสพบรรยากาศดีๆ ในที่พักได้อย่างเต็มที่ ขี่รถแล้วได้พักที่พักดีๆ นี่สบายจริงๆ ใครมีแผนเที่ยวปาย ลองมาพักดูครับ

กิจกรรมเรายังไม่หมด หลังมื้อค่ำที่ “คุณภูริ” มาร่วมโต๊ะกับเราด้วย ก็ได้พากันไปเดินเที่ยวกันต่อที่ถนนคนเดินปาย ดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนกันเต็มอิ่ม

รุ่งขึ้นไปต่อกันด้วยกิจกรรมขี่รถ ATV ในเส้นทาง Unseen ลัดเลาะป่าเขาพร้อมกับวิวที่สวยงามมาก จนบ่ายเราก็ Check-Out เพื่อเดินทางกลับ ซึ่งขากลับเรานั่งรถตู้กลับและมุ่งตรงไปยังสนามบินกันเลย ก็ถือเป็นทริปที่ Exclusive ที่ทาง บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด, Honda Bigbike Excited the World จัดให้อย่างน่าประทับใจ

สุดท้ายก็เป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ และคนไทยทุกๆ คน ในภาวการณ์ที่เราต้องร่วมกัน ช่วยกันรับมือ “โควิด-19” ในครั้งนี้  หวังว่าจะผ่านไปในเร็ววัน เราจะได้ออกทริปบนรถคู่ใจกันอีกครั้งครับ

ส่งท้ายอีกนิดด้วยข้อมูลของ CBR500R และ CBR650R

Honda CBR500R และ 500 Series

สำหรับโฉมใหม่ในตระกูล 500 ทั้งที่เป็นสายสปอร์ต CBR500R,  สายเนคเคดไบค์  (Naked Bike)  CB500F และสายเอนดูโร ( Enduro )  CB500X เครื่องยนต์ 2 สูบ 500 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง รวมถึงการออกแบบและสีสันใหม่ทั้งคัน  โดยรุ่น CBR500R ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสนุกสนานในการขับขี่แบบเรซซิ่งสปอร์ต มีการปรับตำแหน่งที่นั่งและระยะมือจับใหม่ (Handle Bar) ช่วยให้ท่านั่งผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้คล่องแคล่วและสะดวกสบายมากขึ้น

CBR500R

นอกจากนี้ยังเพิ่ม Feature ทันสมัยให้ทั้ง 3 รุ่น CBR500R , CB500F และ CB500X อย่างไฟหน้า-หลังแบบ Full LED มาตรวัดดิจิตอลใหม่พร้อมแสดงตำแหน่งเกียร์ และระบบ Emergency Stop Tail Light แสดงไฟฉุกเฉินเมื่อรถเบรกกะทันหัน เหมือนที่ใช้ในกลุ่มรถซูเปอร์สปอร์ต ตลอดจนระบบ Assist & Slipper Clutch ช่วยลดอาการกระชากของล้อหลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ เพิ่มความปลอดภัยและขับขี่ได้นุ่มนวล ขณะที่รุ่น CB500X สไตล์เอนดูโร สำหรับคนชอบขี่ออกทริปท่องเที่ยวยังมาพร้อมล้อขนาดใหญ่ขึ้นอีกด้วย

CBR500R ราคา 217,000 บาท CB500F ราคา 212,000 บาท และ CB500X  ราคา 222,000 บาท

Honda CBR650R และ CB650R

นอกจากตระกูล 500 Series โฉมใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมแล้ว เอ.พี. ฮอนด้า ยังเอาใจผู้ที่ชื่นชอบเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 650 ซีซี ทั้งสปอร์ตแบบฟูลแฟริ่ง CBR650R และสไตล์ นีโอ สปอร์ต คาเฟ่ CB650R โดยในรุ่น CBR650R มาพร้อมรูปลักษณ์สปอร์ตแบบเต็มขั้น ขณะที่ CB650R เน้นความเท่แบบมีสไตล์เป็นของตนเอง แต่ทั้ง 2 รุ่น เร้าใจด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่ถอดแบบ DNA มาจากรุ่นใหญ่ CBR1000RR

ในด้านอุปกรณ์ติดรถ ฮอนด้า 650 Series 2 รุ่นนี้ ยังเท่ด้วยมาตรวัดใหม่แบบดิจิตอลพร้อมไฟแสดงตำแหน่งเกียร์      เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่แม่นยำขึ้น โดยรุ่น CBR650R ยังวางตำแหน่งมือจับ (Handle Bar) และถังน้ำมันใหม่ เพื่อความสมดุลและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม พร้อมไฟหน้าแบบ Duo Head Light ใช้หลอด LED รอบคัน ส่วนรุ่น CB650R ใช้ไฟหน้าทรงกลมที่โดดเด่นด้วย LED แบบวงแหวน

ด้านความปลอดภัยทั้ง CBR650R และ CB650R มาพร้อมโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับขนาดใหญ่ (Upside down) และ   ดิสก์เบรกคาลิปเปอร์ 4 พอร์ต มั่นใจด้วย Assist & Slipper Clutch  ช่วยลดอาการกระชากของล้อหลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ ระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) เทคโนโลยีจากสนามแข่ง ช่วยปรับกำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสมตามสภาพการขับขี่ และป้องกันล้อหมุนฟรี  ติดตั้งระบบ Emergency Stop Tail Light แสดงไฟฉุกเฉินเมื่อรถเบรกกะทันหันแบบที่ใช้ในรถระดับซูเปอร์สปอร์ต

CBR650R ราคา 320,000 บาท และ CB650R ราคา 305,000 บาท

ระบบเกียร์ DCT เป็นอย่างไร X-ADV ลุยได้ไหม คลิก
คลิปทดสอบ รีวิว ท่องเที่ยว กดติดตามได้ที่นี่

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่