MotoMotion ได้รับเกียรติสุดพิเศษ ร่วมสัมภาษณ์ มร. จิอานลูกา ฟิอูเม ผู้บริหาร บริษัท พิอาจิโอ ที่มีรถแบรนด์ดังระดับโลกอยู่ในเครือข่ายถึง 4 แบรนด์ คือ พิอาจิโอ เวสป้า อาพริเลีย และ โมโต กุซซี่ ไปดูกันเลยว่าเขามีแนวคิดในการทำตลาดในไทยแบบไหน รถไฟฟ้าจะมาไหม บริการหลังการขายล่ะ? และ “อาพริเลีย” รถสปอร์ตแบรนด์ท็อปของโลกจะครองใจคนไทยได้อย่างไร?
คำถาม : ความเป็นมาของเวสป้าที่เข้ามาในประเทศไทย
มร. จิอานลูกา : “เวสป้าคือแบรนด์รถจากอิตาลีที่มีประวัติมากว่า 70 ปี ผมอยากจะโฟกัสใน 10 ปีที่ผ่านมาที่ผมได้มีโอกาสมาร่วมทำงานกับ “พิอาจิโอ” ซึ่งใน 10 ปีที่ผ่านมานี้มีการเติบโตในทุกๆ ด้านของเวสปาริโอ และในปีที่ผ่านมาเวสปาริโอก็ได้ฉายแสงความเป็นตัวตนที่ได้รับการถ่ายทอด DNA มาจากอดีต ผ่าน Branding ผ่าน Marketing ต่างๆ เราจะปล่อยรถเวสป้ารุ่นใหม่ๆ ออกมาตลอดเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า”
“ซึ่งรถที่ปล่อยออกมาทุกรุ่นก็ถูกนำเสนออยู่ในตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทย และทางเวสปาริโอเองก็ได้สื่อสารกับลูกค้าผ่านเครื่องมือต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่สื่อสารก็เป็นการตอกย้ำ DNA ของแบรนด์ทุกแบรนด์ คือ เวสป้า พิอาจิโอ อาพริเลีย และ โมโตกุซซี่ ซึ่งถ้าพูดถึงเป้าหมายของเวสปาริโอจริงๆแล้ว เราต้องการสร้างยานยนต์ให้กับอนาคตและเพื่อที่จะทำสิ่งๆ นั้นออกมาได้ ก็ต้องมี Portfolio brand ของทุกแบรนด์ ที่อยู่ใน พิอาจิโอ แล้วแบรนด์เหล่านี้จะรวมตัวกันอย่างสวยงามเมื่ออยู่ในโครงสร้างของบริษัทที่แข็งแกร่ง”
คำถาม : มองพฤติกรรมผู้บริโภค ของประเทศไทยอย่างไรเกี่ยวกับสกู๊ตเตอร์และจักรยานยนต์ระดับพรีเมี่ยม ว่าคนไทยมีพฤติกรรมอย่างไร และเวสป้าจะมีแนวทางการตลาดอย่างไร
มร. จิอานลูกา : “เราต้องการที่จะสื่อสารและตอบโจทย์ลูกค้า แล้วก็ดึงลูกค้าที่ชอบความเป็นตัวตนของเรา สำหรับคนที่ต้องการตามแตกต่างและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองก็คือกลุ่มลูกค้าของเรา ใครก็ตามที่รู้สึกดึงดูดกับแบรนด์ DNA หรือทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นผลิตภัณฑ์ของเรา รวมถึงอะไรที่เป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง อะไรก็ตามที่ทำให้เขาปล่อยความเป็นตัวเองได้มากที่สุด ใครก็ตามที่ชอบดีไซน์ ชอบในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ทุกอย่างถูกถ่ายทอดมาในแบบอิตาเลี่ยนสไตล์”
“ซึ่งในเอเชียก็มีกลุ่มลูกค้าที่ชอบใน Branding ที่เป็นเรา ตอบโจทย์ในสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ และนอกจากนั้นคนกลุ่มนี้ก็ชอบที่จะโชว์ของที่เป็นเอกลักษณ์จริงๆ เพราะได้สื่อสารความเป็นตัวของตัวเอง ฉะนั้นทุกๆ แบรนด์ที่อยู่ภายใต้พิอาจิโอจะตอบโจทย์พวกเขาได้จริงๆ หนึ่งในกลยุทย์ของพิอาจิโอคือได้แพ็ครวมทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกค้าเหล่านี้ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความอิสระ ความมีเอกลักษณ์ ความที่ได้เป็นเจ้าของของที่เป็น Iconic (โดดเด่น) ต่างๆ มอบให้แก่ลูกค้า จึงเป็นเหตุผลที่เราเชื่อมั่นว่าลูกค้าจะตื่นตาตื่นใจ เพราะทุกสิ่งจะตอบโจทย์ลูกค้าแน่นอน”
คำถาม : ความยากในการทำตลาดในประเทศไทย
มร. จิอานลูกา : “ความยาก ความท้าทายคือการที่เราต้องไปอย่างรวดเร็ว ในปีที่แล้วเราก็ไปอย่างรวดเร็วในตลาด และเราก็ปิดปี 2018 ไปด้วยความสำเร็จที่น่าประทับใจ สำหรับในปี 2019 นี้ กลยุทธ์คือเราต้องการจะโฟกัสไปทาง Sport Racing และเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายจุดนั้นได้เราต้องทำตามกลยุทธ์ 3 อย่างคือ คุณภาพ ชื่อเสียง และการขับเคลื่อนไปด้านหน้าและเราต้องเริ่มด้วยการให้ความรู้ให้ข้อมูลกับพนักงานในบริษัทก่อนเป็นสำคัญ ต่อจากนั้นก็เป็นตัวแทนจำหน่ายต่างๆ รวมถึงสื่อมวลชน ซึ่งสุดท้ายคนที่มาร่วมงานกับเราก็จะเข้าใจแก่นแท้ DNA ของความเป็นเวสป้า ความเป็นพาจิโอ ทำให้ผู้คนเหล่านี้สามารถเป็น Brand Ambassadors ให้กับทุกแบรนด์ในเครือของพิอาจิโอได้”
คำถาม : มีเป้าหมายปีนี้อย่างไร มองภาพรวมตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในไทยเป็นอย่างไร
มร. จิอานลูกา : “เป้าหมายแรกคือเราต้องชนะใจลูกค้าต่อไปเรื่อยๆ และต้องสร้างความแน่นแฟ้นในคอมมูนิตี้ ในกลุ่มผู้ใช้ให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ทุกคนรู้สึกถึงความอิสระและทำให้ลูกค้าเข้ามาอยู่ในคลับของเราได้ง่ายมากขึ้น กระบวนการการเป็นคลับจะเกิดขึ้นง่ายมาก ถ้าพูดถึงธุรกิจของสองล้อโดยรวม พิอาจิโอ กรุ๊ป เราเป็นผู้นำของธุรกิจสองล้อ และทุกแบรนด์ในเครือก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่อยู่ในระดับโลกทั้งหมด ซึ่งเราเชื่อมั่นในธุรกิจสองล้อมาก เราเชื่อมั่นในการเชื่อมต่อระหว่างคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่ง การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน เราทำทุกอย่างให้มันง่าย ใช้ง่าย สื่อสารถึงกันอย่างง่ายดาย กับกลุ่มคนที่มีความชอบตรงกันจะสร้างความสัมพันธ์กันได้ง่าย และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องทำในรูปแบบที่เราถนัด”
คำถาม : พิอาจิโอ กรุ๊ป มีความสนใจจะเปิดหรือขยายโรงงานแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งในประเทศไทยไหม
มร. จิอานลูกา : “ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเราเปิดโรงงานในเวียดนาม เราสร้าง Engine plant รวมถึงสร้างสถาบันวิจัย ( Research) เพื่อพัฒนาข้อมูลต่างๆ ที่เราตัดสินใจทำแบบนี้เพราะจะให้เวียดนามจะเป็น Hub สำหรับตลาดในเอเชียแปซิฟิก และเวสป้าก็เป็นบริษัทแรกที่ตัดสินใจที่จะมีฐานตั้งอยู่ที่เวียดนาม ซึ่งก็ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เราตัดสินใจให้เป็นแบบนี้”
คำถาม : กระแสของรถไฟฟ้าถือว่ามาแรงมากๆ แล้วกระแสตอบรับของ เวสป้า อิเลททริกา (Vespa Elettrica) เป็นอย่างไรบ้าง รวมถึงแบรนด์ต่างๆ ในเครือมีแพลนที่จะผลิตเป็นรถไฟฟ้าไหม
มร. จิอานลูกา : “เวสป้า อิเลททริกา (Vespa Elettrica) เปิดตัวเป็นครั้งแรกปี 2017 ในงาน EICMA ที่มิลาน ประเทศอิตาลี ตอกย้ำความเชื่อของเรา เพราะเราเชื่อมั่นในเทคโนโลยีรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจจะเปิดตัว เวสป้า อิเลททริกา ออกมา ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและใหม่ล่าสุดจริงๆ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด”
“กระบวนการการที่จะเปิดตัวหรือการที่จะสร้างรถเวสป้า อิเลททริกา ออกมานั้น พิอาจิโอได้ใช้ทั้งพลังงานและการลงทุนที่มหาศาล และที่เห็นตอนนี้ก็เป็นเพียงหนึ่งในผลลัพธ์ที่เราได้ลงทุนบวกกับการเรียนรู้มาหลายปี ที่จะเห็นได้คือ Piaggio MP3 Hybrid และ Piaggio liberty Electric และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือจักรยานไฟฟ้า Piaggio Wi-Bike ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงการเริ่มต้น การเดินทางสู่การที่จะสร้างรถไฟฟ้า”
คำถาม : ถ้าในอนาคตมีผู้ใช้หรือผู้สนใจรถไฟฟ้ามากขึ้นทางพิอาจิโอมีแนวทางการสร้างความเชื่อมั่น ในเรื่องอะไหล่ หรือชิ้นส่วนต่างๆ หรือการบริการในอนาคตอย่างไร
มร. จิอานลูกา : “เป็นคำถามที่ค่อนข้างใหญ่ จนสามารถเขียนเป็น Business Proposal เพื่อตอบคำถามได้เลย เพราะปกติแล้วเวลาที่ขายรถก็ต้องมีข้อมูลในการขายแล้วว่าจุดเด่นของรถคันนี้มีอะไร แต่คำถามนี้จะเป็นเรื่องของบริการหลังการขาย และทางเวสปาริโอก็มีอยู่แล้ว ซึ่งการที่เราขายรถไปแล้วมันไม่จบแค่นั้น เพราะเราต้องการให้ผู้บริโภคหรือผู้ที่ใช้รถเวสป้าเป็นลูกค้าที่ยั่งยืน”
“เพราะฉะนั้นการบริการหลังการขายจึงเป็นสิ่งสำคัญ และขอตอบย้ำอีกครั้งว่าการบริการหลังการขายของเวสปาริโอเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับเรา กลับมาที่ เวสป้า อิเลททริกา เราต้องการสร้างความสุข ความสนุกในการใช้รถให้แก่ผู้บริโภค เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องบริการหลังการขายต่างๆ ที่จะรองรับ ในส่วนของการบริการก็ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายของเราด้วย และก่อนที่จะเปิดตัว เวสป้า อิเลททริกา เราก็ได้มอบข้อมูล ความรู้ต่างๆ รวมถึงการเทรนนิ่งให้กับทางเครือข่ายหรือตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ก่อนจะขายรถรุ่นนี้ เพื่อให้เข้าใจชัดเจนว่าระบบมันเป็นอย่างไร ทำงานอย่างไร มีอะไรบ้างที่จำเป็นต้องรู้ ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องทำต่อไปเรื่อยๆ เพราะผลิตภัณฑ์เราพัฒนาอยู่เสมอ”
คำถาม : ในส่วนของตลาดรถสปอร์ตอย่างแบรนด์ Aprilia มีแนวทางอย่างไร
มร. จิอานลูกา : เริ่มต้นก็ต้องให้ผู้สนใจเข้าใจในแก่นแท้ใน DNA ของแบรนด์ก่อน ว่ามีความเป็นมาอย่างไรซึ่งจะทำให้เขาสนใจมากขึ้น โดยแบรนด์ Aprilia จะสื่อสารถึงเทคโนโลยี ความเร็ว ความเท่ และอันนี้ทำให้ Aprilia มีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก เพราะแบรนด์ Aprilia ได้บ่งบอกความเป็นตัวเขามากที่สุด ซึ่งสุดท้ายแล้วนั่นก็ทำให้เราต้องทำ Branding อย่างจริงจัง รวมถึงเรื่องการกระจายสินค้า”
“และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ผมเชื่อว่าเราต้องเดินสายออกไปเจอ ไปคุยกับลูกค้าจริงๆ เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้เขาได้เข้าใจแบรนด์ คนเหล่านี้เขาจะเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบ Aprilia จริงๆ และนำไปบอกต่อ ที่อิตาลีก็เพิ่งมีงาน Aprilia Day มีคนมาร่วมงานนับหมื่น คนเหล่านี้เขาจะชื่นชอบในแบรนด์ Aprilia จริงๆ ทำให้เราได้เข้าใจว่าแบรนด์ Aprilia เติบโตได้เพราะมีคนที่สนับสนุนจริงๆ เหมือนเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง Branding กับผู้ใช้ ในเมืองไทยก็มีพื้นที่ให้ Aprilia ได้เติบโตและเราก็มุ่งมันที่จะทำสิ่งนั้น”
จากบทสัมภาษณ์เราก็จะเห็นทิศทางหลายอย่างของ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จํากัด ที่เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมแบรนด์ทั้ง 4 แบรนด์ คือ พิอาจิโอ เวสป้า อาพริเลีย และ โมโต กุซซี่ โดยเฉพาะในเรื่องของรถพลังงานไฟฟ้า ที่อยู่ไม่ไกลตัวเรานัก
รวมถึงทิศทางการตลาดด้าน Sport Racing ซึ่งนอกจากจะมีแบรนด์ Aprilia ที่ตรงโฟกัสแล้ว เรายังได้เห็นกิจกรรม Burn Rubber Riding Academy & Track days ที่ไม่จำกัดค่ายรถ จัดโดยบริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ซึ่งก็เป็นอีกบริษัทของทีมผู้บริหาร บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จํากัด นั่นเอง
สำหรับ “เวสป้า” ที่ต้องบอกว่าดีหนีคู่แข่งขึ้นไปเรื่อยๆ แม้ว่าในปัจจุบันจะมีค่ายรถในสไตล์เดียวกันออกมาให้เลือกหลายแบรนด์ แต่ผมก็ยังมองถึงความที่เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีความมั่นคง เป็นบริษัทขนาดใหญ่สายป่ายยาว มีแบรนด์รอยัลตี้เยอะก็ยังได้เปรียบ โดยเฉพาะในเรื่องการบริการหลังการขาย ใครที่ตัดสินใจกับรถพรีเมี่ยมสไตล์นี้อยู่ “เวสป้า” ตอบโจทย์ได้ดีที่สุดครับ
กิจกรรม Burn Rubber Riding Academy & Track days คลิกอ่านต่อที่นี่
รีวิว ขี่เวสป้า Super GTS300 ไปกลับ กทม.-สนามช้างฯ คลิกอ่านที่นี่