จากกระแสของการแข่งขันกีฬารถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตระดับโลกที่เก่าแก่ที่สุดอย่างโมโตจีพี ที่เดินทางมาจัดในประเทศไทยเป็นครั้งแรกที่จังหวัดบุรีรัมย์ในปีนี้ ทำให้กีฬามอเตอร์สปอร์ตเป็นที่สนใจของผู้คนในวงกว้างขึ้น หนึ่งในคนดังที่ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษกับการมาเยือนของโมโตจีพี ก็น่าจะหนีไม่พ้นหนุ่มนักชกจากบุรีรัมย์ เจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ปี 2014 เหรียญทองซีเกมส์ปี 2013, 2015, 2017 และรางวัลจากรายการอื่นๆ อีกมากมายอย่าง เรืออากาศตรีวุฒิชัย มาสุข หรือ “เอ็ม” นั่นเอง
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของ เอ็ม หรือ เรืออากาศตรีวุฒิชัย มาสุข ในฐานะวีรบุรุษนักมวยสากลทีมชาติที่สร้างความภาคภูมิใจ ความสุขให้แฟนมวยทั่วประเทศ แต่กว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จบนสังเวียนได้ เขาต้องต่อสู้ ฟันฝ่าอุปสรรคมากมายมาตั้งแต่เด็ก เอ็มเริ่มหัดชกมวยไทยตอนอายุเพียง 7 ปี และเข้าร่วมรายการแข่งขันชกมวยตั้งแต่วัยประถมเพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง ยอมเจ็บตัว กัดฟันสู้เพื่ออนาคต ก่อนที่จะระหกระเหินไปเรียนและต่อยมวยในกรุงเทพฯ แล้วย้ายตามครอบครัวไปอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา หันมาต่อยมวยสากลสมัครเล่นเมื่อขึ้นเรียนชั้นมัธยมปลายแทน ซึ่งเอ็มก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กัน ด้วยความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อม รวมทั้งผลงานโดดเด่น คว้าเหรียญทองในระดับมัธยมมาหลายรายการ ฉายแววอนาคตไกล จึงมีแมวมองมาทาบทามเจ้าตัวให้เข้าไปติดทีมชาติและต่อยมวยเป็นอาชีพหลักมาจนถึงปัจจุบัน
แม้จะเป็นที่รู้จักในฐานะนักชกฮีโร่ขวัญใจคนไทย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า “เอ็ม” มีความสนใจในกีฬามอเตอร์สปอร์ตไม่แพ้กับมวย เอ็มในวัยเด็กนั้นหลงใหลในรูปลักษณ์ของรถบิ๊กไบค์ ชอบวาดรูปรถมอเตอร์ไซค์เล่น และใฝ่ฝันว่าสักวันจะได้ครอบครองบิ๊กไบค์ในดวงใจสักคัน เมื่อประสบความสำเร็จกับเส้นทางบนสังเวียนแล้ว เอ็มจึงได้เติมเต็มความฝันในวัยเด็ก ด้วยการเริ่มเส้นทางของ “ไบค์เกอร์” เริ่มจากเป็นเจ้าของบิ๊กไบค์ ที่เจ้าตัวทั้งรักทั้งหวง แม้ตารางการซ้อมในฐานะความหวังของสังเวียนไทยจะแน่นขนัด แต่เอ็ม ก็สามารถหาเวลากลับไปเยี่ยมบิ๊กไบค์คู่ใจ ที่ฝากให้เพื่อนสนิทดูแลให้ได้ทุกสัปดาห์
“ผมพบว่าการพุ่งทะยานไปข้างหน้าบนบิ๊กไบค์คู่ใจ กับการขึ้นชกบนสังเวียน ให้ความรู้สึกเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือความท้าทายในการมุ่งทะยานสู่เป้าหมาย สำหรับบิ๊กไบค์ ก็คือการบิดทะยานสู่จุดหมายปลายทาง เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ ส่วนการขึ้นชก ก็คือความท้าทายในการมุ่งหน้าสู่การเป็นที่หนึ่ง เป็นความตั้งใจทุกครั้งที่ผมก้าวขึ้นบนสังเวียน ว่าจะพุ่งทะยานสู่การเป็นที่หนึ่งให้จงได้” เอ็ม หรือ เรืออากาศตรีวุฒิชัย กล่าว
ปัจจุบัน หนุ่มนักชกวัย 28 ปีคนนี้ยังคงต้องซ้อมเพื่อลงแข่งรายการใหญ่ และเตรียมร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ เอ็มวางแผนไว้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาปลดระวางจากการเป็นนักมวยสากลสมัครเล่นแล้ว จะลองเบนเข็มสู่วงการมอเตอร์สปอร์ต อีกกีฬาหนึ่งที่เขาชื่นชอบ ที่มาพร้อมความเร็วสุดเร้าใจ และตื่นเต้นของยานพาหนะที่มีมอเตอร์ไซค์ ยานพาหนะที่เขารักเป็นส่วนประกอบด้วยความศรัทธาว่าหากตั้งใจทำในสิ่งที่รัก ทุ่มเทเต็มที่กับมัน ผลลัพธ์จะออกมาดีตามที่หวังไว้ ไม่ว่าในฐานะนักมวย หรือนักแข่งรถ เขาพร้อมที่จะเดินหน้าด้วยหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้ ทำให้เรื่องราวของเอ็ม สามารถเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ เชลล์ แอ๊ดว้านซ์ อยากแบ่งปันให้กับนักบิดทุกคนได้บิดทะยานสู่ทุกเป้าหมาย เอาชนะทุกความท้าทายตลอดการเดินทาง เหมือนกับข้อความที่แบรนด์ตั้งใจสื่อสารผ่านแบรนด์แคมเปญ “Outride Anything” นั่นเอง