ตามหัวเรื่องเลยครับ ผมขี่ YAMAHA XMAX ไป จ.น่าน ขี่เที่ยวแบบวนขวา จากตัวเมืองไปปัว เที่ยวดอยสกาด บ่อเกลือ นอนหมู่บ้านยสะปัน บนเส้นทางลอยฟ้า โค้งพับผ้า ถนนที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในไทย ไปกันเลย
สตาร์ทจากหน้าบ้านผมย่านประเวศราว 3 ทุ่ม ก็ว่าดึกแล้วการจราจรน่าจะคลี่คลาย แต่แล้วก็รถเยอะเช่นเดิม ตั้งแต่พระราม 9 ยาวไปจนวิภาวดี-รังสิต ใช้เวลาฝ่าออกมานานพอสมควร มาคลี่คลายก็จะถึงนวนครแล้ว ผมแวะเข้าห้องน้ำทีนึงก่อนเลี้ยวเข้า ถนนหมายเลข 32 สายเอเซีย
ผมไปนครสวรรค์เลี้ยวขวาไปเส้นทางหมายเลข 117 เก้าเลี้ยวที่จะไปยังพิษณุโลก ซึ่งเส้นทางนี้มีก่ีทำถนนอยู่หลายช่วงยาวๆ ทำให้ช้าลงไปพอสมควร วิ่งยาวไปยังอุตรดิตถ์ แพร่ ในช่วงจากจังหวัดแพร่ก็เจอฝนถล่มยาว มืดมีโค้งและฝนหนักต้องลดความเร็วพอประมาณ จนถึงตัวเมืองน่านดูนาฬิกาก็ ตี 5 ครึ่ง ผมแวะจอดพักและเติมน้ำมันไป 5 ครั้ง Yamaha XAMX ก็พาผมและคนซ้อนมาถึงได้อย่างปลอดภัยและทำเวลาได้ดีแม้มีอุปสรรค
ตี 5 ครึ่ง ผมเช่าโรงแรมในตัวเมืองเพื่อนอนพักเอาแรงนิดนึง และในเวลา 9.30 น. เราก็พร้อมเที่ยวต่อ ที่แรกที่ไปคือวัดภูมินทร์ กลางตัวเมือง จ.น่าน และใกล้ที่พักที่ผมนอนไม่กี่กิโลเมตร เพียง 5 นาทีผมก็ถึงวัดภูมินทร์ ที่นี่ผมนัดเจอกับต่อ(แอดมิน MotoMotion อีกคน) ที่ขับรถยนต์ KIA EV5 มาด้วย ถ้ามีโอกาสผมจะทำรีวิวรถไฟฟ้า KIA EV5 หลังใช้งานมาจะ 2 ปีแล้วบ้าง
มาต่อกับเรื่องเที่ยวของเราต่อ จากวัดภูมินทร์ รถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน รถยนต์ 1 คัน คน 3 คนก็มุ่งหน้าอำเภอปัว ปัว คือที่เราจองห้องพักคืนแรกไว้ ก่อนจะเข้าที่พักเราแวะเติมชาเขียวกันที่โรงบ่มปัว คาเฟ่ แอนด์ อีทเทอรี่ กันก่อน ตุดเด่นคือเป็นโรงบ่มยาเส้นเก่าที่ตัวอาคารเป็นอิฐแดงเก่าหลายอาคาร เป็นแบ็คกราวน์ให้ถ่ายรูปได้ดี รวมถึงในตัวคาเฟ่ก็สวยมาก เรานั่งตากแอร์กันเพลินชั่วโมงนึงได้เลย
ออกจากโรงบ่มปัวคาเฟ่มุ่งหน้า หินผาโฮมสเตย์ ที่พักของเรา ซึ่งแผนแรกเราจองบนดอยสกาดแต่เต็มทุกที่ มาได้ที่หินผาโฮมสเตย์ในราคา 2600 บาท เป็นเหมาหลังใน 1 หลังมี 2 ห้องติดกัน มีดาดฟ้า มีอาหารเช้าและหมูกระทะชุดใหญ่ที่คิดรวมแล้ว หลังเช็คอินเก็บของนั่งพัก เราก็ขึ้นไปเที่ยวบนดอยสกาดกันต่อ
ถึงไม่ได้ที่พักบนนี้แต่ก็ขึ้นมาเที่ยวหน่อย เราเลือกไปที่ “ม่อนสกาดคาเฟ่” ที่นี่มีที่พักด้วย แต่นั่นแหล่ะต้องจองกันแต่เนิ่นๆ นะครับ ฮอตฮิต เต็มยาว ใครพลาดไม่ต้องเสียใจเข้ามาเที่ยวในส่วนของคาเฟ่แบบผมได้ เครื่องดื่ม ขนม เคล้า วิวยอดนิยมของดอยสกาด แต่ตอน 4-5 เย็น พระอาทิตย์กำลังตก แสงแดดจะส่องเข้ามาในคาเฟ่เต็มๆ ก็อาจจะร้อนหน่อย ใครมานั่งเล่นก่อนเวลานี้ก็ชิลล์เลย
ลงจากดอยสกาดเราไปแวะ 7-11 ในเมืองปัวก่อน ซื้อขนมจุ๊กจิ๊กขาดไม่ได้จริงๆ กลับมาถึงที่พัก ที่นี้เขามีโซนที่จัดเป็นร้านหมูกระทะ แต่นั่งกึ่งๆ แบบแคมป์ปิ้ง บวกกับอากาศที่เย็นสบาย หมูกระทะคือดีงาม และคืนนี้ผมก็หลับอย่างกะตุยเพราะคืนที่ขี่รถมาไม่ได้นอนเลย
เช้าวันที่ 2 จุดหมายคือหมู่บ้านสะปัน เส้นทางจากนี้เราก็จะผ่านไฮไลท์ของทางเที่ยวน่านหลายจุด ที่แรกคือถนนลอยฟ้าที่จะไปอุทยานดอยภูคา(ถ้าวนขวา) และก็ผ่านอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ต่อด้วยโค้งพับผ้า จุดชมวิว 1715 และลงมาพักกินมื้อกลางวันที่บ่อเกลือ ระหว่างนี้มีฝนตกลงมาเราจึงพักอยู่ที่บ่อเกลือนานหน่อย
จากบ่อเกลือไปสะปันมีทำทางอยู่ แต่ก็ผ่านได้สบายๆ มีจุดเดียวที่รถยนต์อาจจะต้องคลานหน่อยแต่ไม่ใช่ปัญหาอีกนั่นแหล่ะ เราตรงยาวเข้ามาที่หมู่บ้านสะปัน เข้าเช็คอินที่ “ขุนเขาธารา” ก่อนเพราะอยู่ต้นๆ ของทางเลย ที่พักที่เราจองไว้ราคา 4,500 บาทเป็นบ้านหลัง นอนได้ 4 คน มีที่นอน 2 หลัง แยกชั้นล่างกับบนเหล่าเต๊งหรือชั้นลอย แอร์ ไวไฟ เครื่องทำน้ำอุ่นครบเครื่องความสะดวกสบาย หน้าบ้านติดคลองหรือลำธานของสะปัน ถ้าใครจะลงเล่นน้ำก็ได้หรือเอาชุดเก้าอี้แคมป์ลงไปนั่นก็ได้
ราคาที่พักยังรวมข้าวซอยที่เป็นเป็นมื้อต้อนรับ หมูกระทะชุดใหญ่มื้อเย็น ไม่อิ่มสั่งข้าวผัดหรือผัดกระเพรามากินเพิ่มได้ มื้อเช้านอกจากกาแฟขนมปังยังมีข้าวขาหมูหรือข้าวมันไก่ให้เลือก แต่ข้าวขาหมูอร่อยมากเชื่อผม
เช็คอินกินข้าวซอยเรียบร้อยผมก็ขี่ XMAX ขึ้นไปเที่ยวที่หยุดเวลาคาเฟ่ คาเฟ่ที่กำลังมาในช่วงนี้ วิวบบนี้จะเห็นหมู่บ้านสะปันกว้างไกลมาก สบายตา สั่งเครื่องดื่มและขนมมากินนั่งเพลินๆ ไปอีกเกือบชั่วโมงพอดีวันที่ผมไปมี MotoGP พอดี เลยได้ที่นั่งดูถ่ายทอดสดพอดี(แทนที่จะขึ้นมาดูวิว) ออกจากหยุดเวลาคาเฟ่ก็เข้าที่พัก เก็บของเปลี่ยนชุดผมก็ขี่ XMAX ออกมาอีก
ไปถนนคนเดินสะปันที่ใหม่ ที่ผมบอกที่ใหม่เพราะเดิมทีผมเห็นจัดที่สะพานสะปันฝั่งนึงเป็นร้านค้าอีกฝั่งเป็นที่นั่งกินแบบขันโตก และถนนคนเดินที่ใหม่อยู่ทางเข้าน้ำตกสะปันมีที่นั่งกินขันโตกตรงกลางและมีร้านค้าโอบล้อมมีดนตรีสดด้วย บรรยากาศดี ของกินเล่นกินจริงมีให้เลือกพอสมควรเลย
เกือบมืดผมก็ขี่รถกลับเข้าที่พัก ซึ่งก็ได้เวลาเสิร์ฟหมูกระทะพอดี เขาจะเสิร์ฟมาให้ถึงระเบียงหน้าบ้านเลย แต่เราจะกินเมื่อไหร่ก็ต้องจุดเตาเองซึ่งเขามีแอลกอฮอล์ช่วยจุดมาให้ ชุดหมูกระทะก็ให้มาเยอะพอสมควรกอน 3 คนอิ่ม แต่ถ้าไม่อิ่มสั่งข้าวผัดหรือข้าวผัดกระเพรามากินได้โดยไม่เสียเงินเพิ่ม
เช้าวันที่ 3 ของทริปเราตื่นเช้าแต่ไม่ได้ออกไปชมวิวหรือดูทะเลหมอกที่ไหน ได้แต่เสพบรรยากาศในที่พักและกินข้าวขาหมูที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้ อร่อยนะบอกเลย สายๆ เราก็พร้อมเดินทางกันต่อ เริ่มจากย้อนไปที่หยุดเวลาคาเฟ่ เสี่ยงไปดูทะเลหมอกที่คิดว่าจะทันเห็นหมอกบ้างแต่ก็สายไป เราขี่และขับรถลงจากหยุดเวลาคาเฟ่ ออกจากหมู่บ้านสะปัน
วันนี้เราจะกลับเข้าตัวเมืองน่าน ในเส้นทางระหว่างนี้จะผ่านถนนหมายเลข 3 เราแวะถ่ายรูปและคลิปวีดีโอราวครึ่ง ชม. และก็ไปต่อ แวะถ่ายรูปถนนเลขศูนย์ และก็ยิงยาวไม่แวะเลย แต่จะผ่านถนนตัวยู ผ่านจุดถ่ายรูปบาหลี รวมถึงหลากหลายคาเฟ่ริมทางที่น่าแวะเที่ยว ไม่นานนักก็ถึงตัวเมือง
จุดหมายของเราคือที่ หจก. คูกวงหลี โชว์รูมและศูนย์บริการยามาฮ่า ผมนำ YAMAHA XMAX มาให้ตรวจสภาพหลังใช้งานต่อเนื่องนับพันกิโลเมตร ที่นี่มีบริการครบวงจร กว้างขวาง สะอาด ทันสมัย ใครที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่ามาเที่ยวน่าน หรือผ่านน่านไปจังหวัดอื่นอีก มาแวะใช้บริการตรวจเช็ครถได้ อุ่นใจกว่า
จบทริปที่ หจก.คูกวงหลี ใครจะมาเที่ยวน่านมีที่พักที่หมายตาก็จองแต่เนิ่นๆ ครับจะได้ไม่ต้องลุ้น ส่วน KIA EV5 วิ่งไประยะทาง 1,703 กม. ชาร์จไฟไปทั้งหมด 1,610 บาท โดยยังเหลือแบตเตอรี่ให้ใช้ได้อีกนับร้อยกิโลเมตร
คลิป ขี่รถเที่ยวน่าน วนขวา
คลิป 3 พิกัดไปมูเตลูกับ XMAX
คลิปรีวิว All New Yamaha Aerox ปี 2025
คลิป 2025 NMAX YECVT หรือ NMAX Turbo
คลิปรีวิว 2024 XMAX 300 TECHMAX
รีวิว 2024 XMAX TechMax
รีวิว 2025 Aerox ใหม่ใส่ดิสก์หลัง
คลิป One Day Trip กับ GrandFilano
คลิปรีวิว YAMAHA FAZZIO FILA ลิมิเต็ด 2,500 คัน
บทความ Yamaha Fazzio Fila
