Yamaha YZF-R7 สปอร์ตรุ่นล่าสุด เสริมทัพในตระกูล R-Series เติมเต็มในฝั่ง Yamaha Bigbike ด้วยเครื่องยนต์แบบ CP2 จาก MT-07 ที่แตกต่างจากทั้ง R1 และ R6 ที่ขายอยู่ก่อนหน้า กับราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
Design Concept ทางยามาฮ่าวางไว้ว่า “A Fun Way to Master a Supersport” คือดีไซน์และวางให้อยู่ในประเภทรถ Supersport ที่มีเครื่องยนต์ CP2 และเท่าที่ผมดูเฟรมคร่าวๆ ก็น่าจะมาจาก MT เช่นกันแต่มุมเปลี่ยนองศาคอ และยังกล่าวเพิ่มอีกว่า “Skinny Proportion for Perfect Control” ดีไซน์ที่เพรียวบางเพื่อการควบคุมที่ดี
องศาท่านั่งของ YZF-R7 จะอยู่ระหว่าง YZF-R6 รถ Supersport แท้ๆ หมอบพร้อมแข่ง กับ YZF-R3 สปอร์ตที่มีท่านั่งเพื่อขี่ใช้งานได้สะดวกและผ่อนคลาย อีกอย่างที่ต้องบอกคือ R7 จะมีดีไซน์ที่เพรียวหรือแคบที่สุดในตระกูล R-Series ทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็น R15 , R3 , R6 และ R1 การออกแบบที่จะบอกว่าเป็นรถสปอร์ตที่ใช้งานทั่วไปได้ง่ายและก็นำไปซิ่งในแทร็คเดย์ก็ได้
เครื่องยนต์ CP2 พก 76 ม้าบนไดโนเทส
เครื่องยนต์อย่างที่ทราบกัยว่ายกมาจาก MT-07 ที่เน้นทอร์คหรือแรงบิด ซึ่งข้อมูลที่ได้ในวันทดสอบยามาฮ่าก็ไม่ได้บอกเจาะลึกว่าปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง สเป็คหลักๆ คือเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง Crossplane Crankshaft (CP2) หมุนจุดระเบิดที่ 270 องศา เด่นแรงบิดในรอบต่ำและกลาง แถมด้วยซุ่มเสียงที่มีเอกลักษณ์
เครืองยนต์ CP2 ขนาด 689 ซีซี DOHC 4 วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด73.4 แรงม้าที่ 8,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 67 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ/นาที แต่ผมก็ได้ข้อมูลจาก พี่เป็ด-วรวุฒิ พุทโธ ว่าทาง Yamaha Riders Club ได้ลองเอาขึ้นไดโนเทส ได้กำลังถึง 76 ตัวเลยทีเดียว!! และที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ Assist & Slipper Clutch
ช่วงล่างแน่น สไตล์สปอร์ต
ระบบกันสะเทือนค่อนข้างจัดเต็ม โช้คอัพหน้าแบบ Upside Down ขนาด 41 มม. ปรับได้ทั้ง Preload , Rebound และ Compression โช้คอัพหลังเดี่ยวปรับ Preload และ Rebound ระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 298 มม. กับคาลิปเปอร์ 4 พอร์ท แบบเรเดียลเม้าท์ ดิสก์เบรกหลังเดี่ยวขนาด 245 มม. คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ มีระบบ ABS ทั้งหน้า-หลัง
Press Test
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และ Yamaha Rider’s Club จัดให้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบ R7 กันครั้งแรกที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ หลังรายการแข่ง OR BRIC Superbike สนาม 3 กันแบบสดๆ ร้อนๆ แต่ด้วยช่วงนั้นโดนมรสุมพอดี ฝนจึงเป็นอุปสรรคในครั้งนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
ลองขี่กันกลางฝน
การทดสอบขี่แบ่งเป็นกลุ่ม ผมเองอยู่กลุ่มที่ 4 นู้นเลย หลังจากได้รับข้อมูลตัวรถก็รอกันพักนึง แต่สายฝนก็ตกลงมาตลอด สนามและผิวแทร็คอยู่ในสภาพที่เปียกฉ่ำ การทดลองขี่ครั้งนี้จึงเป็น Wet Test อย่างเลี่ยงไม่ได้ การลองขี่ครั้งนี้จึงไม่ได้เต็มสมรรถนะเท่าไหร่ แต่ก็พอบอกอะไรได้อยู่
อย่างแรกเลยคือท่านั่ง หรือ Riding Position เป็นรถสปอร์ตที่นั่งสบายนะ แฮนด์ไม่ก้มมาก พักเท้าก็ไม่ยกสูงมากนัก ขาหนีบตรงถังน้ำมันเชื้อเพลิงแคบกระชับ และที่ผมชอบคือเบาะนั่งที่มีระยะยาว สไลด์ก้นเพื่อหมอบหลบลมหรือเปลี่ยนอิริยาบทเพื่อผ่อนคลายได้เลย รวมๆ คือท่านั่งที่มีสามารถควบคุมรถได้ดี และใช้งานได้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้งานทุกๆ วันหรือใช้ในการเดินทางไกล คนขี่เมื่อยล้าน้อยกว่าแน่นอน
เครื่องยนต์ CP2 เน้นแรงบิดในรอบต่ำ-กลาง ในร่างสปอร์ต ต่างจากเครื่องยนต์รอบสูงในรถซูเปอร์สปอร์ตทั่วไป จุดเด่นคือเรียกแรงบิดได้เร็ว ใช้งานได้ง่าย เร่งแซงได้ง่ายโดนไม่ต้องเชนเกียร์ และจากข้อมูลเหมือนว่ามีการปรับให้เกียร์ 5 ยาวขึ้นต่างจากที่อยู่ใน MT-07
ผมได้ลองช่วงเกียร์และกำลังนิดหน่อย จากโค้ง 1 ไปโค้ง 3 สนามช้าง ได้ความเร็วได้ราว 205-210 กิโลเมตร/ชม. เนื่องจากสนามเปียก การออกจากโค้ง 1 จึงไม่ได้เร็วนัก และต้องใช้ระยะเบรกก่อนเข้าโค้ง 3 ที่เยอะกว่าเดิม
แต่ก็พอบอกได้ว่าเกียร์ 5 ยาวอยู่นะ และจากข้อมูลของ “ครูเป็ด” ที่ขี่ไปก่อนหน้าในสภาพสนามแห้ง ทำความเร็วได้ถึง 230 กม./ชม ที่เกียร์ 5 แต่เกียร์ 6 จะเป็นเกียร์ที่ช่วยทดรอบให้รอบต่ำลงแต่ความเร็วเท่าเดิมนั่นเอง
Assist & Slipper Clutch ที่ใส่มาในเครื่องยนต์ลูกนี้ ผมได้ลองหลายครั้งในสภาพสนามเปียกแบบนี้ ชัดๆ คือก่อนเข้าโค้ง 5 และก่อนเข้าโค้ง 12 ที่ต้องลดความเร็วลงในระยะที่สั้น การรวบเชนเกียร์ลงทันทีทำให้แรงเบรกจากเครื่องยนต์ดึงล้อหลังจนท้ายปัด
แต่ด้วยที่มีสลิปเปอร์คลัทช์เข้ามาจักการ อาการเอนจิ้นเบรกดึงล้อหลังจนถึงขั้นล้อหลังล็อคก็เบาบางลงไป แต่ผมไม่ได้บอกนะว่าอาการจะหายไป 100% คือยังมีอาการอยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในการควบคุมให้เลี้ยวไปได้ หรือให้ปลอดภัยได้ในระดับนึง
ยางหน้าขนาด 120 และยางหลัง 180 พอเหมาะกับขนาดของรถ ยางติดรถเป็น Bridgestone Battlax S22 ขี่ในสนามเปียกได้ดีเกินคาดอันนี้ต้องชม เกาะผิวแทร็กได้ดี ทำให้คอนโทรลรถได้มั่นใจพอสมควรเลยล่ะนะ และก็ทำให้รู้ว่า R7 เป็นรถที่คอนโทรลได้ง่าย เบาแรง พริ้ว น้ำหนักตัวที่รวมของเหลวแล้วเบาเพียง 188 กิโลกรัมกับช่วงล่างที่ให้มาก็ถือเป็นจุดเด่นเลยล่ะ
All New YAMAHA YZF-R7 เปิดราคาที่ 339,000 บาท
R7 เป็นรถสปอร์ตที่มีท่านั่งสบายกว่าทั้ง R1 และ R6 กับเครื่องยนต์ CP2 พร้อม Assist & Slipper Clutch มีแรงบิดในรอบต่ำกลางใช้งานได้สบายกว่าในด้านการใช้งานทุกวันหรือในการขี่เที่ยวทางไกล ไม่มีระบบช่วยขับขี่หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ให้ปลั๊กสำหรับติดตั้ง Quick Shifter มาด้วย แน่นอน Quick Shifter ตรงรุ่น R7 มีขายเป็น Option และ R7 เป็นรถที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น ผู้ที่เป็นเจ้าของยังมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับ Yamaha Rider’s Club ทั้งปี กับราคาเพียง 339,000 บาท เล่นได้ครับผม
Special Thank : บริษัท ไทยยามาฮ๋ามอเตอร์ จำกัด , Yamaha Rider’s Club , PANDA RIDER
เปิดราคา Yamaha YZF-R7
Yamaha R7 แต่ง GYTR
คลิปรีวิว Yamaha YZF-R1
รีวิว All New Yamaha Aerox คลิก
MT07 แต่งสปอร์ต
คลิปทดสอบ รีวิว Yamaha WR155 คลิก
บทความ รีวิว ทดสอบ WR155 คลิก
รีวิว Yamaha Lexi คลิก
รีวิว All New Yamaha NMAX คลิก
คลิป รีวิว All New Yamaha NMAX คลิก
คลิป รีวิว Yamaha YZF-R1 คลิก