ผมบิด GTS Super 300 สุดคันเร่งล็อคความเร็วสูงสุดลากยาวแต่ละช่วงหลายสิบกิโลเมตร สลับกับเค้นกำลัง 80-90% ของกำลังเครื่องยนต์ตลอดทาง ด้วยเหตุที่ผมต้องรีบไปทำงานและเพื่อนร่วมทริปที่หวดคันเร่งไปด้วยกันยังเป็น Scooter ขนาด 300 ซีซี ค่ายญี่ปุ่นรุ่นยอดนิยม ที่มีกำลังเครื่องยนต์แรงที่สุดในขณะนี้(แถมยังโมเพิ่มมาอีก) ก็ 300 เท่ากัน จะห่างซักแค่ไหนเชียว!!
หลังจาก GTS 300 พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์รุ่นใหญ่สุดของ Vespa หลังจากย้ายมาผลิตจากอิตาลีมาที่เวียดนามเมื่อช่วงปี 2017 ราคาก็ถูกลงเป็นแสน จากสามแสนกลางเหลือสองแสน!! แถมยังพกเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ใหญ่แรงสุดในค่ายแบบนี้ต้องลองกันหน่อยแล้ว
Aprilia กับ Vespa
หลังจากได้รับโอกาสและภารกิจอันยิ่งใหญ่จากค่ายรถให้ร่วมทำข่าวในรายการแข่งขัน MotoGP ที่จัดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศไทย ในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ประเทศไทย และยังได้ร่วมสัมภาษณ์ Scott Redding นักแข่ง MotoGP ทีมโรงงาน Aprilia แบบ Exclusive ในวันควอลิฟายอีกด้วย เป็นเหตุให้ผมต้องรีบบึ่งไปที่สนามช้างก่อนวันแข่งจริง 2 วัน เพื่อสแตนบายพร้อมรับงานใหญ่ (บทสัมภาษณ์ Scott Redding คลิก)
เมื่อต้องสัมภาษณ์นักแข่ง MotoGP ทีม Aprilia ฉะนั้นการเดินทางด้วยรถ Vespa จึงเป็นเรื่องที่เข้ากัน เพราะทั้ง Aprilia และ Vespa อยู่ในเครือ Piagio ด้วยกันนั่นเอง และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในรถ Vespa ก็ถูกพัฒนามาจาก Aprilia อย่างไม่ต้องสงสัย และ Vespa GTS Super 300 ABS คันที่ผมได้มามีการอัพเกรด ติดของแต่งรอบคันมาอย่างสวยงาม ใช้มัดของเดินทางได้ดี แต่อีกมุมหนึ่งคือจะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
เครื่องยนต์ Quasar
มาดูข้อมูลเทคนิคกันหน่อย Vespa GTS Super 300 ABS ใช้เครื่องยนต์ Quasar สูบเดียว 4 จังหวะ 4 วาล์ว ปริมาตรความจุ 278.3 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำพร้อมพัดลมไฟฟ้า มีแรงม้าสูงสุดที่ 21.2 แรงม้าที่ 7,750 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุดที่ 22 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ส่งกำลังอัตโนมัติผ่านเกียร์ CVT ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 8 ลิตร มีน้ำหนักตัว 160 กิโลกรัม
ระบบอิเล็กทรอนิกส์
- ระบบ ASR (Anti Slip Regulation)
- ระบบ ABS แบบ 2 Channels แยกหน้า-หลัง
- ระบบ Tilt Sensor จับความเอียงของรถ
- กุญแจมีรีโมทสำหรับเปิดเบาะและหาตัวรถ
- มีช่อง USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์ภายนอก
- LED Daytime Running Light
- เรือนไมล์ผสมผสานบอกความเร็วแบบเข็มอนาล็อคพร้อมจอ LCD บอกรายละเอียดการใช้งานต่างๆ
ช่วงล่างสไตล์ Vespa
โช้คอัพหน้าแขนเดี่ยวทำงาน 2 ทิศทาง โช้คอัพหลังคู่ปรับสปริงพรีโหลดได้ 4 ระดับ ดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวขนาด 220 มม.หนีบด้วยคาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ดิสก์เบรกหลังเดี่ยวขนาด 220 มม. ใช้คาลิเปอร์ขนาด 1 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS หน้าหลัง ล้อยางหน้า-หลังขนาด 120/70-12 และ 130/70 -12 ยางติดรถเป็นของ MAXXIS
Road to MotoGP เดินทางได้!!
วันที่ 4 ตุลาคม 2561 วันแรกของการซ้อมของ MotoGP ผมนัดกับน้องที่จะขี่ไปด้วยกันอีก 2 คันที่ปั้ม ปตท. ก่อนถึง ม.กรุงเทพฯ รังสิต กว่าจะออกจากจุดนัดก็ใกล้เที่ยง ไม่รีบเพราะระยะทางจาก กทม. ถึงบุรีรัมย์ประมาณ 300 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น กับรถระดับ 300 ซีซี คงพอทำเวลาได้!!
ไหลไปที่ 140 กม./ชม. แต่!!
ผมบิดนำหน้าและใช้ความเร็วยืนพื้นที่ 120 กม./ชม. รถยังมีกำลังให้เร่งแซงอีกพอสมควร แต่มาแบบนิ่มๆ มีกำลังแต่ไม่หวือหวา บนถนนมิตรภาพก่อนถึงหน้าฟาร์มโชคชัย ช่วงเป็นโค้งขึ้นเนินชันต่อเนื่อง ผมบิด Vespa GTS 300 มาเกือบเต็มกำลังที่ 130 กม./ชม. ขึ้นเนินชันทั้งความเร็วและกำลังมีตกลงไปชัดเจน แต่ไม่ถึงกับเป็นปัญหา ยังสามารถผ่านเนินและโค้งได้สบายๆพอพ้นการขึ้นเนินก็ถึงช่วงลงเนิน ผมหมอบพร้อมกำคันเร่งหมดปลอกลากยาวไหลลงเนิน ได้สูงสุดที่ 140 กิโลเมตร/ชม.นิดๆ เลขไมล์มีเพียง 140 กม./ชม. เข็มเลยมานิดหน่อย
แต่พอถึงทางราบผมยังคงหมอบขี่ ความเร็วตกลงไปอยู่ที่ 135 กม./ชม. และอยู่อย่างนั้นยาวๆ (ขากลับจะสลับกันเป็นลงเนินผ่านโค้ง ด้วยความเร็วสุดเข็มไมล์ ช่วงล่างสามารถพาผ่านไปได้ แต่ยังไม่เนียนเท่าที่ควร ถ้าได้ปรับสปริงพรีโหดให้แข็งกว่านี้ ก็คงทำได้ดีขึ้น) ความสั่นจากเครื่องยนต์ที่มาถึงแฮนด์น้อยมาก อยู่ในเกณฑ์ดี แถมกระจกมองข้างขนาดใหญ่ใช้งานได้ดีอีกด้วย
Avg. 20.8 กม./ลิตร กับความเร็วเฉลี่ยที่ 120-130 กม./ชม.
เราแวะเข้าพักรถเติมน้ำมันกันที่ปั้ม ปตท.ก่อนถึงช่วงลำตะคองอีกครั้ง จากปั้มแรกถึงจุดนี้มีระยะทาง 122.6 กิโลเมตร ผมเติมน้ำมันไป 5.34 ลิตร(แก๊สโซฮอล 95) เฉลี่ย 20.8 กิโลเมตร/ลิตร กับการใช้กำลังเครื่องยนต์เกือบสูงสุดตลอดทาง ถือว่าประหยัดใช้ได้กับรถขนาด 300 ซีซี ที่แบกสัมภาระมาเต็มลำ
การเดินทางก็ยังคงความเร็วแบบเดิม ความคล่องตัวบนไฮเวย์ในการลัดเลาะแซงรถมีสูง แม้รูปร่างจะดูอวบอ้วน การหมอบไหลแซงในความเร็วสูงมีลุ้นบ้าง เพราะเกือบสุดกำลังของเครื่องยนต์ ช่วงล่างแน่นหนึบใช้ได้เลย ระบบเบรกไว้ใจได้ โดยเฉพาะการใช้งานทั่วไปในเมือง แต่ถ้าอัพเกรดก็จะแจ่มขึ้น
ช่วง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ไปยัง อ.เมือง เป็นทางตรงยาวระยะทางประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร เป็นเนินซึมๆ ช่วงนี้ความเร็วและกำลังตกลงชัดเจนอีกครั้ง ความเร็วสูงสุดทำได้เพียง 120 กม./ ชม. แต่รถ Scooter ญี่ปุ่นที่มาด้วยกันก็เป็นนะ คือกำลังตกลงไปเพราะเนินที่ยาวไกล
ฟังก์ชั่นที่มีนารถใช้งานได้สะดวก หลักๆ คือช่องชาร์จไฟ USB ที่ซ่อนตัวอยู่ใน “เก๊ะ” หรือช่องเก็บของหน้ารถ ที่ผมใช้เสียบโทรศัพท์มือถือใช้งานสะดวก รวมถึงเก็บเอกสารเกี่ยวกับตัวรถไว้ที่นี่ เจอฝนสั้นๆ อยู่ช่วงหนึ่งก็ไม่ต้องกลัวของในเก๊ะจะเปียก โดยเก๊ะสามารถล็อคปิดได้ ปลอดภัยอีกระดับ ระบบไฟส่องสว่างก็เห็นได้ไกล ผมขี่คันเดียวจากสนามช้างฯ กลัมมาพักที่โคราช หลัง MotGP ซ้อมเสร็จในวันแรก เวลาประมาณ 1 ทุ่ม กับเส้นทางสายรองที่ไม่มีไฟทางหลายจุด ไฟหน้า-หลังให้ความสว่างปลอดภัยได้
ระบบ ASR การทำงานแบบเดียวกับระบบ Traction Control ทำงานให้รู้สึกได้ เมื่อผมขี่บนพื้นขัดมันที่ฉาบไปด้วยน้ำฝน ภายในปั้มน้ำมัน ระบบจะให้การหมุนของล้อหน้าและล้อหลังสัมพันธ์กัน เมื่อล้อหลังลื่นหมุนเร็วกว่าล้อหน้า ระบบก็จะตัดการจุดระเบิดด้วยความเร็วระดับเศษเสี้ยววินาที ให้ล้อหลังกลับมาหมุนในความเร็วเท่ากับล้อหน้าทันที ส่วนระบบ ABS ผมไม่ได้ลองและใช้ไม่ถึงการทำงาน แต่มีไว้ปลอดภัยกว่า
Conclusion เวสป้าก็คือเวสป้า ความขลังและอมตะก็เกินคุ้ม
Vespa GTS Super 300 ABS สามารถใช้เป็นรถเดินทางไกลได้สบายๆ แต่ต้องเข้าใจสไตล์และรูปลักษณ์ของตัวรถ ก่อนว่าไม่ใช่รถสปอร์ตเพอร์ฟอร์แมนซ์สูงนะ ที่จะเอามาหาความเร็วสูงสุดหรือจะเลี้ยวเข่าเช็ดพื้น และแน่นอนไล่เครื่องยนต์รถญี่ปุ่นไม่ทันถ้าจะเอาไปแข่งทางตรงหรือเอาไปโหนโค้งกัน นี่คือเวสป้านะ มันใช่เหรอจะเอาไปขี่แบบนั้น คนละตลาด คนละกลุ่มผู้ซื้อผู้ใช้
GTS Super 300 ABS พร้อมเทคโนโลยีทั้งหมดเปิดราคาที่ 198,900 บาท กับการตอบสนองของเครื่องยนต์มาแบบเรียบง่าย นุ่มนวล ถ้ามีคนซ้อนคนซ้อนน่าจะชอบเลยเพราะไม่ต้องเสี่ยงการดึงกระชากโยกไปมา การออกตัวอืดไปนิด แต่มีกำลังเร่งแซงที่ไว้ใจได้อยู่ ช่วงล่างแน่นสมกับขนาดตัวรถ รวมถึงยาง Maxxis ที่ติดรถก็ใช้งานได้ดีพอสมควร ในเมืองคล่องตัวดี แต่พัดลมไฟฟ้าทำงานเสียงดังไป เมื่อติดไฟแดงมองมาที่เราที่เดียวเลย และช่องเก็บของใต้เบาะที่เล็กเพราะดีไซน์ของรถนั่นเอง พอเข้าใจ
ตลอดเวลาหลายวันที่ได้ใช้ GTS Super 300 ABS ผมชอบนะ คือความเป็นเวสป้าก็คือเวสป้า หล่อมีคลาสบนถนนตลอดเวลาไม่ว่าจะขี่ไปไหนต่อไหนก็ตาม ไม่อยากขี่ไปคืน ฮ่าๆ ดีไซน์ที่ตกรุ่นยาก สวยอมตะ งานประกอบจากเวียดนามเนียนใช้ได้อยู่ จะติดก็ที่ทำไมถึงผลิตตัว 150 กับ 300 มาขนาดเท่ากันแถมดีไซน์เดียวกันจนเรียกได้ว่าเปลี่ยนแค่เครื่องยนต์แบบนี้ล่ะครับ คนซื้อ 300 เสียใจ!!