Suzuki V-Strom1050XT รถ Adventure Touring หรือ Dual Purpose เรือธงของค่ายซูซูกิ เวอร์ชั่นนี้นอกจากได้ดีไซน์จากตัวลุยระดับเทพแล้ว ยังยัดออฟชั่นความทันสมัยมาเต็มลำ
การทดลองขี่ V-Strom 1050 XT ครั้งนี้ผมได้รับความเอื้อเฟื้อรถจาก บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งผมเอามาขี่ท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ใกล้ๆ กทม. ด้วยเพราะอยู่ในช่วงล็อคดาวน์โควิด และอยู่ในเขตพื้นที่สีแดงเข้มอีกด้วย การไปเที่ยวแบบเช้ากลับเย็นก็ยังเป็นทางเลือกที่พอจะทำ หรือพอจะแก้คันขี่รถออกทริปได้
ส่วนตัวผมเคยขี่ V-Strom 1000 โฉมก่อนหน้าก็ราวๆ มากกว่า 7 ปีแล้วได้ ใช้ขี่ไปเที่ยวทางไกลกับพี่ๆ ในกลุ่ม ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างลืมฟีลลิ่งไปแล้ว แต่ที่จำได้คือเรื่องพละกำลังของเครื่องยนต์แบบ V-Twin ที่ไว้ใจได้เลย
ดีไซน์จากรุ่นสู่รุ่น
ดีไซน์ของรถมาจากรุ่น DR Big 750 และ 800 ตัวแข่งแรลลี่ดาการ์ในช่วงยุค 1980 ของซูซูกิเอง และต้องบอกเลยว่า “ปากนก” ที่เห็นกันในหลายค่าย ซูซูกิก็เป็นเจ้าแรกที่ออกแบบและใช้ใน DR Big ตั้งแต่ช่วงยุค 80-90 ตามที่บอกไป
เครื่องยนต์อัพเกรดใหม่
เครื่องยนต์แบบ V-Twin 90 องศา DOHC 8 วาล์ว ลูกสูบขนาด 100 มม. มีปริมาตรกระบอกสูบ 1,037 ซีซี มีกำลังอัด 11.5:1 ระบายความร้อนด้วยน้้ำ เกียร์ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 107.4 แรงม้าที่ 8,500 รอบ แรงบิดสูงสุดที่ 100 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบ เครื่องยนต์มี Suzuki Clutch Assist System (SCAS) หรือ Slipper Clutch นั่นเอง
จากตัวเลขข้อมูลมีขนาดลูกสูบและปริมาตรกระบอกสูบเท่าโฉมเดิม แต่มีกำลังแรงม้าแรงบิดที่มากขึ้น ด้วยตลาดรถ Adventure Touring ในปัจจุบันที่หลายค่ายอัพซีซีไปจนทะลุ 1200 ซูซูกิเองก็เสิร์ฟด้วยสมรรถนะด้านกำลัง บวกกับเครื่องแบบ V-Twin ที่ให้ Torque และฟีลลิ่งไม่เหมือนใคร นำมาเป็นจุดเด่นด้านเครื่องยนต์ได้
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยขับขี่
คันเร่งเป็น Ride by Wire กับชุดลิ้นปีกผีเสื้อใหม่มีขนาด 49 มม. (เดิม 45 มม.) ทำงานอิสระสูบใครสูบมัน พร้อมหัวฉีด 10 รู การจุดระเบิดใช้ 2 หัวเทียนต่อ 1 ลูกสูบ มีระบบ Low RPM Assist ช่วยเลี้ยงรอบเครื่องและ Easy Start แตะๆ เครื่องยนต์ก็ติด
มี 3 โหมดขับขี่ A B C ให้การตอบสนองของคันเร่งหรือกำลังเครื่องยนต์ไล่เรียงจาก A ให้เต็ม 100% ลดหลั่นลงไปจนถึง C ที่เหมือน Rain Mode
ระบบ Traction Control ก็มีให้ 3 ระดับ คือ 1 2 3 โดยระดับ 3 จะให้ความ Sensitive หรือการตอบสนองของ Traction Control ไวที่สุด และ TC ก็สามารถปิดหรือ OFF การทำงานได้ด้วย
ระบบ ABS ที่เลือกระดับการทำงาน 1 หรือ 2 ได้ แต่ไม่สามารถปิดระบบได้ โดยทั้งโหมดขับขี่ Traction Control และ ABS สามารถเลือกใช้ได้ที่ตลอดเวลาที่สวิทซ์แฮนด์ด้านซ้าย และแสดงผลให้เห็นทันทีบนเรือนไมล์
ระบบ Cruise Control มีเงื่อนไขการใช้งานคือตั้งแต่เกียร์ 4 และมีความเร็วตั้งแต่ 50 – 160 กม./ชม ปลดระบบได้ทั้งการใช้เบรก บีบคลัทช์ และคืนคันเร่ง
ระบบ Slope Dependent Control System หรือ Hill Hold Control ช่วยจอดค้างบนทางลาดชัดโดยไม่ต้องบีบหรือเหยีบยเบรก ระบบบจะอ่านค่ามุมเอียงของรถ ไม่ว่าจะจอดในมุมเอียงขึ้นหรือลง ระบบจะสั้งให้เบรกหลังทำงานเพื่อช่วยหยุดรถไว้ โดยระบบจะทำงานก็ต้องไม่อยู่ในเกียร์ว่างและใช้เบรกก่อนจะปล่อยให้ระบบทำงาน จากที่ผมลองระบบทำงานเกินกว่า 30 นาที นานกว่าข้อมูลจากซูซูกิให้มา
ระบบ Motion Track Brake System หรือระบบ Cornering ABS นั่นเอง คือระบบ ABS จะทำงานให้พอดีกับองศาความเอียงของรถให้เกิดความปลอดภัยในการใช้เบรกในขณะเลี้ยวให้มากที่สุดนั่นเอง
หัวใจหลักของการสั่งงานหรือการทำงานระบบช่วยขับขี่ทั้งหมดคือ IMU (Inertial Measurement Unit) แบบ 3 แกน 6 ทิศทาง อ่านค่ามุมเอียงของรถทุกทิศทางผ่านการประมวลผลด้วย ECU 32 บิต
One Day Trip กับ V-Strom 1050 XT
การทดลองขี่และมาเล่าสู่กันฟังในครั้งนี้ ผมใช้การขี่เที่ยวจริงแต่ด้วยเวลาที่จำกัดจึงมีโอกาสได้ขี่เพียง 1 วันเท่านั้นก็อาจจะบอกคร่าวๆ ตามที่ได้สัมผัสแล้วว่า!!
เครื่องยนต์ยังให้ความประทับใจเช่นเดิม หลังจากที่ผมเคยขี่โฉมก่อนหน้าไปเมื่อราว 7 ปีที่แล้วตามที่บอกไปในตอนต้น แต่ครั้งนี้รู้สึกว่ามีความสมู้ทกว่าเดิม แต่กลับมีกำลังอัตราเร่งที่ดูดีกว่าเดิม การเร่งแซงในความเร็วจาก 120 ไป 160 ทำได้เด็ดขาดรวดเร็ว
ขี่ยืนพื้นที่ความเร็ว 160 กม./ชม. ในเกียร์ 6 ได้สบายๆ กับรอบเครื่องราว 6 พันรอบ/นาที เครื่องยนต์ทำงานได้สมู้ท สบายๆ ไม่เค้น ชิลด์บังลมหน้าปรับระดับได้ ปรับง่ายๆ แบบแมนนวล บังลม บังฝน และละอองน้ำจากล้อรถได้ดีทีเดียว
บนทางหลวงทั่วไปช่วงล่างทำงานได้แน่น มั่นคงดี รับกับกำลังและขนาดของรถได้ดี ที่พิเศษคือโช้คอัพหน้าสามารถปรับตั้งได้ทุกจุดแบบ Full Adjustable โช้คหลังก็ปรับพรีโหลดได้สะดวกด้วยรีโมทที่เห็บด้านข้างรถ รถมีขาตั้งกลางให้มาเลยอันนี้คือดี
ในทาง Off Road ที่ได้ลองขี่เล็กน้อย เรื่องกำลังหายห่วง การควบคุมยังทำได้ดีทีเดียว ช่วงล่างที่ดีในทาง On Road ยังทำงานได้ดีในาง Off Road ด้วย วันที่ผมขี่ฝนตกตลอดทั้งวัน ทางดินเลนที่ลื่นจะเป็นอุปสรรคกับยางเดิมบ้าง รวมถึงระบบ ABS ที่ปิดไม่ได้อาจจะขัดใจมือ Off Road แนวฮาร์ดคอร์
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ตอบสนองได้ไว ทำงานลื่นไหล ระบบ Cruise Control สะดวกสบายในการเดินทางไกล Hill Hold Control หยุดรถบนเนินได้จริง ทำงานฉับไว และหยุดได้นานกว่า 30 วินาที ให้เรามีเวลาตั้งหลักเพื่อจะพารถไปต่อได้อย่างมั่นใจ
การปรับโหมดต่างๆ ทำง่ายที่สวิตซ์แฮนด์ด้านซ้าย แสดงผลให้เห็นได้บนเรือนไมล์ มีไฟเตือนการทำงานของระบบต่างๆ ครบ มีช่องชาร์จ USB ใต้เรือนไมล์ด้านซ้าย เสียบใช้งานได้เลยไม่ต้องหาอแด็ปเตอร์
Suzuki V-Strom1050XT ราคา 619,000 บาท
V-Strom 1050 XT เหมาะกับนักเดินทางที่ชอบรถแนว Dual Purpost ที่ดูแลรักษาง่าย ไม่จุกจิก มีความอึดเป็นเอกลักษณ์ของค่าย เป็นรถที่นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน ใครสนใจหรือหาอยู่บอกเลยว่า 1050XT คือ “ของดี”
Special Thank : บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
ชุดขับขี่ REV’IT จาก Panda Rider
คลิปรีวิว V-Strom1050XT
เปิดตัว เปิดราคา Suzuki Hayabusa Gen 3
Hayabusa Gen 1 ติด Turbo วิ่ง 425 กม./ชม.
รีวิว Suzuki Katana
รีวิว Suzuki Burgman 400 ABS
เจาะ Suzuki GSX-R1000R รถแชมป์เอ็นดูรานซ์ 24 ชั่วโมง
Suzuki GSX-R1000R คว้าแชมป์สมัยที่ 16 รายการ FIM EWC 2021
คลิปทดสอบ 2021 CBR600RR
คลิป ทดสอบรีวิว Honda CBR1000RRR SP เต็มๆ