หลังจากที่ Honda PCX Hybrid เปิดตัวครั้งแรกที่แรกของโลกในงาน 2017 Tokyo Motor Show ที่ประเทศญี่ปุ่นจัดขึ้นในเดือนตุลาคม 2560 ซึ่งผมเองก็มีโอกาสได้บินไปร่วมชมงานกับทางบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ก็ได้รับข้อมูลตั้งแต่ตอนนั้นว่า Honda PCX Hybrid จะถูกผลิตและจำหน่ายในไทยอย่างแน่นอน
PCX Hybrid จึงถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกของโลกที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนผสานกับการสันดาปด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนและในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศไทยในเดือน ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา ถือเป็นมิติใหม่ทิศทางใหม่ ของวงการรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย เช่นเดียวกับที่เราเคยส่งผ่านยุค 2จังหวะสู่4 จังหวะ จากคาร์บูเรเตอร์สู่หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์นั่นเองFirst Impression
ครั้งแรกที่ฮอนด้าจัดให้มีการทดสอบอย่างเป็นทางการก็ช่วงเดือนกรกฎาคม2561 ที่ผ่านมา เป็นการขี่ภายในสนามเซฟตี้ของฮอนด้า สุขาภิบาล 3 ผมเองนั้นพลาดไปร่วมด้วยอย่างน่าเสียดายและครั้งนี้บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ก็จัดงาน PCX Hybrid ExclusiveRiding Impression จัดเต็มให้สื่อมวลชนได้ทดสอบ PCX Hybrid ในรูปแบบคาราวานเดินทางไกลกรุงเทพ – ชลบุรี แบบครบรส! และก็เป็นครั้งแรกของผมที่จะได้ลองขี่ PCXHybrid สมใจหลังจากหมายตากันข้ามปีตั้งแต่งาน 2017 Tokyo Motor Show นู้นมาดูข้อมูลจำเพาะของทั้ง 2 ระบบกันก่อน
ชื่อว่า Hybrid คือการทำงานของ 2 ระบบร่วมกันมีอะไรบ้างตามนี้- เครื่องยนต์ eSP4 จังหวะสูบเดียว149.32 ซีซี SOHC จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ ใช้แบตเตอรี่ 12V ในการจ่ายไฟตามปกติ
- MotorAssist มอเตอร์ไฟฟ้า Li-Ion Battery แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 48 V และ PDU (Power Diliver Unit) กล่องควบคุมอัจฉริยะทำงานแบบ Full Time
อธิบายการทำงานง่ายๆ ตามนี้เลย
PDU จะมีหน้าที่จะอ่านค่าการจุดระเบิดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของหัวฉีด เมื่อมีการเร่งหรือออกตัว PDU จะสั่งงานไปยังMotor Assist มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่หมุนเสริมแรงให้แก่เพลาข้อเหวี่ยงที่จะหมุนไปจุดระเบิดโดยมอเตอร์ไฟฟ้าหรือ Moto Assist นี้จะหมุนได้ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและพร้อมกันนี้เจ้า PDU ก็จะสั่งการชาร์จไฟกลับสู่แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนโดยอัตโนมัติอีกด้วย (เมื่อยกคันเร่งหรือรอบเครื่องทำงานคงที่)วนลูปกันไปตามนี้ โดยในส่วนของเครื่องยนต์ eSP ก็ยังทำงานตามปกติทุกรอบเครื่องแต่จะมี Motor Assist เข้าไปเสริมแรงOption และระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้มา
Honda PCXHybrid ให้โหมดการขับขี่มา 3 โหมด คือ D(Drive) S(Sport) และ Blankคือโหมดว่าง, ระบบ IdlingStop, กุญแจ Keyless (Honda Smart Key)ที่มีฟังก์ชั่นหาตำแหน่งรถ มีสัญญาณกันขโมยปิด/เปิดสัญญาณรีโมท, ช่องเก็บของที่คอนโซนหน้าพร้อมช่องชาร์จไฟขนาด 12V, Honda Smart Controller คือสวิทซ์กุญแจเดิมนั่นแหล่ะ แต่เปลี่ยนเป็นตัวบิดสั่งการทำงานต่างๆ เป็นสวิทซ์ปิด/เปิด การทำงานเครื่องยนต์ บิดหมุนเพื่อกดเปิดเบาะ เปิดช่องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงรวมถึงล็อคคอรถ, เรือนไมล์ Full Digital, ระบบเบรก ABS พร้อม Combibrake, ไฟส่องสว่าง LED รอบคันลองขี่กันเลยดีกว่า
ถึงแม้ทริปนี้จะเป็นการขี่ในรูปแบบคาราวานแต่สามารถทดสอบได้เต็มกำลังเครื่องยนต์ตลอดการขับขี่ เราใช้เส้นทาง สุขาภิบาล 3เข้าร่มเกล้าสุวรรณภูมิ ออก บางนา-ตราด มุ่งสู่ จ.ชลบุรี โดยใช้เส้นทางเดียวกันทั้งไปและกลับ ผมเริ่มด้วยโหมด D สัมผัสการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าทันที การออกตัวรวมถึงการเร่งมีกำลังมากขึ้นอย่างชัดเจนมีระดับการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าให้เห็นบนเรือนไมล์ เป็นแถบ 5 แถบ การเร่งทันทีทันควันแบบกดหมดปลอกแถบไฟแสดงการทำงานจะเต็มทั้ง 5 แถบ และค่อยๆ ลดลงจนหายไป ในเวลาประมาณ 3 วินาที ผมเปลี่ยนมาโหมด S ปรากฏว่าขี่สนุกขึ้นชัดเจนอัตราเร่งกระฉับกระเฉงขึ้นกว่าเดิม การเร่งแซงฉับไวยิ่งขึ้น ส่วน Blank โหมด หรือไม่มีโหมด ระบบ Hybrid ยังทำงานตามปกติ แต่จะตัดระบบ Idling Stop ไม่ให้ทำงาน คือเมื่อจดไฟแดงเครื่องยนต์จะไม่ดับนั่นเองการเสริมแรงของมอเตอร์ไฟฟ้า
การเสริมกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้านั้นไม่ได้จำกัดแค่ตอนออกตัวหรือเร่งแซงจากการทดสอบระบบจะ(คอย)ทำงานเสริมแรงให้ตลอดเวลา “เมื่อเร่งคันเร่ง” แต่ไม่ทำงานไม่จำกัดแค่3 วินาทีอย่างที่ข้อมูลได้บอกไว้แต่ขึ้นอยู่กับการทำงานของรอบเครื่องยนต์อีกด้วย คือเมื่อเราอยู่ในความเร็วสูงๆเช่นที่ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงคงที่ แล้วกดคันเร่งออกไปอีก มอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยทำงานอยู่แต่จะทำงานน้อยลงแสดงให้เห็นบนเรือนไมล์จากเต็มที่ 5 ขีด ในจังหวะดังกล่าวอาจขึ้นมาเพียงแค่ 2 ขีดและเพียงสั้นๆ เพียงวินาทีเดียวหรือไม่ถึงสองวินาที ด้วยเพราะปัจจัยคือการทำงาน ณ ความเร็วตรงนั้นคือใกล้จุดสูงสุดของกำลังเครื่องยนต์แล้วนั่นเองการช่วยหมุนของมอเตอร์ไฟฟ้าจึงช่วยได้เพียงนิดหน่อย เช่นเดียวกันถ้าความเร็วเกือบๆสุดของกำลังเครื่องยนต์เช่นที่ 110 กม./ชม. แล้วกดคันเร่งลงไปจนสุดมอเตอร์ไฟฟ้าก็จะไม่ช่วยในการเสริมแรงช่วยแล้วนั่นเองและในการทดสอบนี้ผมทำความเร็วของ PCX Hybrid ได้ที่ 120กม./ชม.การชาร์จไฟกลับเข้าแบตฯ อัตโนมัติ
การชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ก็ไม่ใช่แค่ตอนยกคันเร่งเท่านั้น ยังมีการชาร์จไฟตอนที่เราใช้คันเร่งคงที่ เช่นถ้าเราอยู่อยู่ความเร็ว 100 กม./ชม. นิ่งๆ ซักพัก ระบบก็จะทำการชาร์จไฟเข้าเองโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกัน จะมีแถบแสดงการทำงานนี้บนเรือนไมล์เช่นเดียวกับการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าให้เราได้ดูกันจัดว่าแจ่ม จนติดใจ
นอกจากการระบบ Hybridที่กล่าวไปแล้วPCX Hybrid ยังมีช่วงล่างที่น่าประทับใจ ส่วนตัวผมเองมีโอกาสได้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าที่เป็นรถเล็กคือรถครอบครัวหลายรุ่นพบว่าโช้คอัพตอบสนองไปทาง“นิ่ม” อยู่บ้าง แต่กับ PCX Hybrid กลับมีช่วงล่างที่แน่นหนึบผิดกับที่เคยสัมผัสมา พร้อมยางติดรถแบบTubeless ของ Michelin City Grip ใช้งานได้ดีทั้งทางแห้งและทางเปียก ที่ต้อง้ลุยฝนในตอนขากลับก็อุ่นใจได้เลย99,900 บาท จัดเหอะ จบๆ
จากทั้งหมดทั้งมวลที่ผมได้กล่าวไปHonda PCX Hybrid ถือเป็นรถที่มีเทคโนโลยีลำสมัยมาก โดยเฉพาะระบบ Hybrid ที่ฉลาดและทำงานไวมากตลอดการทดสอบขี่ของผม ใช้ความเร็วค่อนข้างสูงคือ 80 – 115 กม./ชม. ตลอดอัตราการมสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงแสดงบนเรือนไมล์โดยเฉลี่ยๆ เพียง 50 กม./ลิตร เท่านั้นอาจดูไม่ต่างจาก PCX ปกติ มากนัก แต่ กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่เข้ามาช่วยนั้นต่างมากเหมือนเราปั่นจักรยานแต่มีคนช่วยดันหลังทั้งตอนออกตัวหรือจะเร่งนั่นเลย และจริงๆ แล้วระบบ Hybrid ที่เข้ามาก็ไม่ใช่แนวคิดที่ต้องประหยัดน้ำมันเหนือกว่าใครแต่เป็นการผสานพลังงาน 2 รูปแบบอย่างไร้ที่ติช่วยเสริมแรงกันไปอย่างเหนือชั้น ซึ่งผู้เป็นเจ้าของ PCX Hybrid เท่านั้นถึงจะได้สิทธิ์นี้กับราคา 99,900 บาทกับนวัตกรรมใหม่ของโลกสองล้อ จัดได้เลยที่ศูนย์ Honda Wing ทั่วประเทศ