หลังเปิดตัว All New Honda CBR500R อย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2018 ที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Fast Forward ขีดสุดแห่งความสปอร์ต” ฮอนด้าก็ได้ฤกษ์เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบ All New Honda CBR500R ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งขันระดับโลก พร้อมด้วยนักแข่งดีกรี Moto 2 และ Moto 3 ร่วมทดสอบและร่วมให้ข้อมูลแบบจัดหนัก จัดเต็ม ขี่กันตั้งเช้าจรดเย็น งานนี้สายสปอร์ตจะมือใหม่หรือมือเก๋าก็ห้ามพลาด
เครื่องยนต์ 2 สูบพื้นฐานเดิม Upgrade ความแรง เหน็บ Assist Slipper Clutch
New CBR500R ล่าสุดนี้ถือเป็น Generation ที่ 3 แล้ว โดยยังคงเป็นเครื่องยนต์แบบ Parallel Twin 2 สูบเรียง ขนาด 471 ซีซี DOHC 4 วาล์ว/สูบ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 47.5 แรงม้า(35kw) ที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 43 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ/นาที เกียร์ 6 สปีด แล้วอะไรใหม่ล่ะ??
สิ่งที่เพิ่มหรือได้รับกาอัพเกรดใหม่ในส่วนของเครื่องยนต์คือ
- เพลาลูกเบี้ยว(แคมชาร์ฟ)ใหม่ ปรับองศาการเปิด/ปิดวาล์ว เพิ่มระยะยกไอดีขึ้นอีก 0.3 มม.
- กรองอากาศและไส้กรองใหม่ มีชิ้นส่วนน้อยลง กรองอากาศใหม่ และการวางไส้กรองต่างจากรุ่นเดิม
- กล่อง ECM(ECU) ใหม่ กล่อง ECM (Engine Control Module) สั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและจุดระเบิดแม่นยำขึ้น
- องศาจุดระเบิดใหม่ ปรับจากรุ่นเดิมที่ 6 องศาเป็น 8 องศา หรือเรียกง่ายๆ ว่าไฟแก่ขึ้นกว่าเดิม
- คลัทช์ใหม่มี Assist Slipper Clutch เพิ่มเข้ามาพร้อมลดสปริงกดคลัทช์จาก 4 ตัวเป็น 3 ตัว ให้การบีบที่นิ่มสบายนิ้วมากขึ้น และไม่ต้องกลัวว่าสปริง 3 ตัวจะกดคลัทช์ไม่อยู่ เมื่อทำงานร่วมกับ Assist Slipper Clutch แล้วลงตัว จัดการพละกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ได้อย่างราบคาบ
ภายนอกเปลี่ยนใหม่หมด
ดีไซน์ภายนอกก็ได้รับการเปลี่ยนใหม่ มีความคล้าย CBR1000RR เข้าไปอีกขั้น เติมความสปอร์ตด้วยแฮนด์แบบจับโช้คอยู่ใต้แผงคอ ผู้ขับขี่สามารถปรับองศาให้เหมาะกับตัวเองได้ สวิงอาร์มใหม่ที่มีชุดปรับตั้งโซ่(หางปลา)แบบเดียวกับรถ Supersport ขนาดใหญ่ สะดวกแข็งแรงกว่าเดิมที่สำคัญสวยโดนใจ มือเบรก,มือคลัทช์ เซาะร่อง Expire Mark เมื่อเกิดอุบัติเหตุมือเบรกและมือคลัทช์จะหักตรงจุดที่เซาะร่องไว้แค่นั้น ทำให้เหลือพื้นที่ของมือเบรกและมือคลัทช์ให้ใช้งานต่อได้
New CBR500R มีระบบไฟส่องสว่างเป็น LED รอบคัน เรือนไมล์ LCD Multifunction ใหม่ บอกรายละเอียดครบ มีบอกตำแหน่งเกียร์เด่นชัด มีระบบ ESS (Emergency Stop Signal) เมื่อเบรกหรือลดความเร็วแบบกะทันหันจากความเร็วที่เกิน 50 กม./ชม. ไฟฉุกเฉินจะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อให้รถคันหลังได้ระวัง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เทคโนโลยีนี้ได้มาจาก Honda Goldwing พี่ใหญ่เรือธงของฮอนด้า
ช่วงล่างอรรถประโยชน์ สนามก็ได้ ใช้งานทั่วไปก็ดี
โช้คอัพหน้าเทเลสโคปิกขนาด 41 มม. มีระยะยุบ 120 มม. ปรับสปริงพรีโหลดได้ 5 ระดับ โช้คอัพหลังเดี่ยว Pro Link ปรับสปริงพรีโหลดได้ 5 ระดับเช่นเดียวกัน ดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ดิสก์หลังเดี่ยวขนาก 240 มม.คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ เป็นชุดเดิมกับ Gen ก่อนพร้อมระบบ ABS หน้า-หลัง ซึ่งฮอนด้าบอกว่าได้ปรับปรุงระบบ ABS ให้ทำงานได้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน
ทดสอบกันในสนามแข่ง MotoGP
นอกจากจะได้ทดสอบ New Honda CBR500R ในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งขันระดับ MotoGP แล้ว ยังได้ ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักแข่งรุ่น Moto 3 และ ก้อง-สมเกียรติ จันทรา นักแข่ง Moto 2 คนแรกคนเดียวของไทยในฤดูกาล 2019 มาร่วมทดสอบด้วย
การทดสอบถูกแบ่งเป็น 3 Session โดยแต่ละ Session ใช้เวลา 20 นาที และ New CBR500R ที่ใช้ในการทดสอบในสนามครั้งนี้ ทีมแมคคานิคได้ปรับพรีโหลดโช้คหน้าไปที่ระดับ 5 สูงสุด เพื่อรองรับการเบรกหน้าที่หนักหน่วงก่อนเข้าโค้ง สัมผัสแรกคือท่านั่งที่ยังคงความสบายอยู่มาก แม้จะมีการย้ายแฮนด์ลงไปจับโช้คที่ใต้แผงคอแล้วก็ตาม ไม่ก้มมากนัก พักเท้าก็ไม่สูง ถังน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ขนาด 17.1 ลิตร มีส่วนโค้งเว้าให้ความกระชับได้ดีพอสมควร และแน่นอนว่า New CBR500R ให้การเข้าถึงที่ง่ายโดยไม่ต้องปรับตัวอะไรก็คุ้นเคยได้ทันที
ผมขี่ออกจากพิทตามหลังนักแข่ง Moto 3 ออกไป เราขี่ตามกันเพื่อวอร์มยางเพียง 1 รอบก็ “หวด” คันเร่งกันเลย ทางตรงยาวจากโค้ง 1 ยิงยาวสู่โค้ง 3 เป็นช่วงที่ผมได้ลองหาความเร็วสูงสุดของ New CBR500R ได้ที่ 175 กม./ชม. แต่สื่อที่ร่วมทดสอบได้ความเร็วทะลุ 180 กม./ชม. กันหลายคน ด้วยระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรยังสั้นไปในการหาความเร็วสูงสุด กำลังเครื่องยนต์ยังไปได้อีก และอาจด้วยปัจจัยน้ำหนักตัวผมที่ค่อนข้างหนักว่าชาวบ้านที่ 87 กิโลกรัมไม่รวม Racing Suit ก็เป็นได้
อัตราเร่งรอบต่ำ-กลางดีมีน้ำมีนวล รวมถึงการเร่งออกจากโค้งในรอบตึงๆ ก็น่าพอใจ ผมเปลี่ยนเกียร์ทุกๆ 8,000 รอบ/นาที (รอบตัดที่ 9,000 รอบ) การส่งกำลังสมู้ทและความเร็วพุ่งไปทุกรอบเครื่องไม่รอรอบ
ผมรวบเกียร์ลงจากเกียร์ 6 ลงสู่เกียร์ 2 ลดความเร็วเพื่อเข้าโค้ง 12 ของสนามช้าง ท้ายของ CBR500R มีดิ้นสไลด์ให้รู้สึกได้ชัดเจน แต่ไม่ล็อคตายด้วยเพราะ Assist Slipper Clutch ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทุกๆ รอบที่ขี่ ทำได้เนียน ชุดคลัทช์มีพลังและความแข็งแรง ต่างกับการบีบก้านคลัทช์ ที่แทบไม่ต้องออกแรงเลย นิ่มมือดีจริงๆ อ่อ!! ไฟระบบ ESS ทำงานให้เห็นตลอดเมื่อลดความเร็วหนักๆ ในทุกโค้ง
ล้อยางยังคงเหมือนใน Gen ก่อนหน้า คือล้อแม็คก้าน Y 6 ก้านรัดด้วยยาง Dunlop Sportmax ขนาด 120/70ZR17 ที่ล้อหน้าและ 160/60ZR17 ที่ล้อหลัง ยางที่เหมาะกับถนนมากกว่า แต่ก็ทำได้ดีในสนามแข่งขัน การทดสอบครั้งนี้เราใช้ลมยางที่ 30 psi ทั้งหน้าและหลัง ยางมีแก้มสูงจึงเหมาะใช้งานทั่วไปให้ความนุ่มนวลซับแรงกระแทกได้ดี
ช่วงล่างถือว่า “เอาอยู่” แม้จะเป็นนักแข่งดีกรี Moto 2 และ Moto 3 ขี่ก็โหนโค้งกันสบายๆ ในความเร็วสูงๆ ตัวผมที่นำหนักตัวค่อนข้างเยอะการพลิกตัวเข้าโค้งโดยเฉพาะในโค้ง 9,10 ที่เป็นโค้งเอสช่วงล่างให้ความเสถียรดีไม่แกว่ง หรือการโหนเกาะโค้งยาวๆ ในโค้ง 4,5 ก็หนึบเกาะไลน์ได้ดีทีเดียว จะมีก็แต่น็อตเซ็นเซอร์ใต้พักเท้าที่ค่อนข้างยาวนั่นแหล่ะ คอยจะครูดพื้นแทร็กให้ตกใจเป็นครั้งคราว
รถสปอร์ตที่ใช้งานได้ทุกๆ วัน
ยังเป็นรถที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นขี่ Bigbike ทั้งชาย-หญิง หรือแม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์ขี่มานานแล้วอยากได้รถสปอร์ตไว้ใช้งานในทุกๆ วันก็เหมาะสม การตอบสนองของเครื่องยนต์สมู้ท ไม่กระโชกโฮกฮาก ขี่ง่าย รถมีความคล่องตัวสูงกว่า 4 สูบเมื่อใช้งานในเมือง อัตราการสิ้นเปลืองก็น้อยกว่า ควบคุมง่าย เบาแรง มี Assist Slipper Clutch ก็ยิ่งให้ความปลอดภัยและการควบคุมรถที่ดียิ่งขึ้น มี ABS หน้าหลัง เรือนไมล์สวย บอกตำแหน่งเกียร์ตัวใหญ่เห็นชัดไม่ต้องหลงงัดเกียร์ 7
All New Honda CBR500R ราคา 217,000 บาท มี 3 สีให้เลือกคือ Pearl Metalloid White (ขาว), Mat Axis Gray Metallic (ดำ) และ Grand Prix Red (แดง) ไปยลโฉมได้ที่ Honda Bigwing ทั่วประเทศ