ยาง Pirelli Daiblo Rosso IV หรือ Rosso 4 ยางที่ผมเลือกใส่รถตัวเองและใช้งานทั้งการออกทริป ขี่ Trackday บ้าง รวมถึงจอดนาน ยางมีคอมปาวด์ที่ต่างกันระหว่างตรงกลางยางกับแก้มยางทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานและยังมีความเกาะถนนเยอะ อย่างว่าแต่ขี่ในสนามเลยเอาขี่เล่นโค้บนเขาบนดอยก็เกาะถนนสบาย

ในปัจจุบันรถมอเตอร์ไบค์ขนาดใหญ่โดยเฉพาะขนาด 1 ลิตรขึ้นไป ส่วนมากจะมีแรงม้า 200 แรงม้าขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นในตระกูล Superbike หรือ Hypernaked ก็มีแนวทางที่จะให้กำลังเครื่องที่สูงกว่ารถมอเตอร์ใบค์ในอดีต


แต่ถึงกระนั้นก็ต้องคำนึงถึงมอเตอร์ไซค์ Crossoover ที่มีแรงม้าไม่เกิน 160 hp น้ำหนักไม่ถึง 240 ก. รวมถึงมอเตอร์ไซค์ Supersport และ Naked ขนากกลาง 600cc ทีมีกำลังเครื่องครึ่งนึงของรุ่นใหญ่ๆ นั่นคือเหตุผลที่ DIABLO ROSSO™ IV ใช้ฐานข้อมูลจากรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตหลายๆขนาด เพื่อออกแบบยางให้เหมาะสมกับการใช้งาน และกำลังเครื่องยนต์ ดังนั้น Pirelli จึงออกแบบยางหลัง ให้เหมาะสมและตอบโจทย์การใช้งานตามประเภทของมอเตอร์ไซค์

จุดเด่นของยางรุ่นนี้
- ให้การยึดเกาะมั่นคงในขณะที่เบรก และยังเข้าโค้งสุดขอบได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
- ช่วยให้แฮนด์ไว ควบคุมได้ง่าย ไม่ต้องออกแรงมาก ตอบสนองการควบคุมได้อย่างนุ่มนวล
- รูปทรงและโครงสร้างยาง จากยางที่ใช้ในการแข่งขัน WSBK
- เนื้อยางส่วนผสมซิลิก้าแบบ มัลติ-คอมปาวด์ ทั้งยางหน้าและหลัง
- ประสิทธิภาพการขับขี่บนถนนยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะแห้ง หรือ เปียก

รีวิวหลังใช้งาน
ผมใช้งานกับรถ Honda RVF400 หรือ NC35 ซึ่งเป็นรถขนาด 400 ซีซี กับขนาดยางหน้า 120/70ZR17 ยางหลัง 160/60ZR17 และรถคันนี้เป็นรถสะสมของผมจึงจอดเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีเอาไปทริปทางไกลอย่างทริปเหนือมาแล้ว และก็เอาไปลงขี่ในสนามแข่งขันมาด้วย ด้วยยาง Rosso IV ตอบโจทย์การใช้งานของผมอย่างมาก

ด้วยเพราะเป็นยาง 2 คอมปาวน์ ตรงกลางยางจะเป็นคอมปาวน์ที่ค่อนข้างแข็งเมื่อจอดนานๆ ยางดอกยางทำหน้าที่รับน้ำหนักรถจอดได้ดีมากรวมถึงโครงสร้างยางที่แข็งแรงทำให้การจอดนานๆ ยางไม่เสียโครงสร้าง และด้วยที่ตรงกลางมีคอมปาวน์ที่แข็งตามที่บอกการใช้งานขี่ทางไกลซึ่งเป็นทางตรงยาวๆ ยางจะมีอายุการใช้งานที่ทนกว่า และยังรองรับแรงเบรกหนักๆ ได้ดี

ส่วนแก้ยางที่เป็นคอมปาวน์นิ่มกว่าให้การยึดเกาะเมื่อเอียงรถเลี้ยวได้ดีมาก ในทริปเที่ยวบนโค้งภาคเหนือขี่เข้าโค้งด้วยความเร็วได้อย่างมั่นใจ ขี่สนุกเบาแรง เทรลเบรกก็ทำได้ดี ยิ่งนำมาใช้ลงงาน Trackday หรือเอารถไปขี่เล่นในสนามแก้มยางที่หนึบทำให้มั่นใจในการกดเวลาได้อีกด้วย ทีนี้ไปดูข้อมูลยางกันต่อครับ

รูปทรงยาง
จะใช้รูปทรงโปรไฟล์ยางใกล้เคียงกับยางที่ใช้ในการแข่งขัน World Superbike Championship กล่าวคือ ยางจะมีความโค้งมนที่ต่างกันในแต่ละส่วน แบบ Multi-Radius ที่มีองศายางที่ชันช่วยให้สามารถพลิกรถเข้าโค้งต่อเนื่อง หรือเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว และมีส่วนของยางที่ช่วยในเรื่องของการยึดเกาะ และควบคุมการขับขี่ในโค้งได้มั่นคง ในส่วนของแก้มยางก็มีการปรับความสูงให้เหมาะสมกับรูปทรงยาง ช่วยให้การเร่งออกโค้งหรือทางตรงได้อย่างมั่นใจ นอกจากนั้น รูปทรงของยางหน้าและหลังที่ทำงานร่วมกัน ยังเสริมให้การเข้าโค้งเป็นไปได้อย่างธรรมชาติ

โครงสร้างยาง
ยางหน้า
ยาง DIABLO ROSSO™ IV จะถูกปรับชั้นลวดโครงสร้าง Rayon แบบใหม่ ที่แข็งขึ้น ด้วยการใช้เส้นลวดที่มีขนาดใหญ่ และเกลียวที่ถี่ขึ้น ซึ่งจะทำให้สามารถลดจำนวนลวดบนยางให้น้อยลง และสามารถออกแบบให้ลวดมีช่องว่างที่ต่างกันในแต่ละส่วนของยาง ส่งผลให้ยางสามารถตอบสนอง การเลี้ยวในองศาต่างๆ และสามารถให้เนื้อยางเกาะถนนได้มากขึ้น

ยางหลัง ขนาดไม่เกิน 190/50 ZR 17
ในยางหลัง DIABLO ROSSO™ IV ขนาดเล็กกว่า 190/50 ZR 17 จะใช้เส้นลวด Rayon คล้ายกับยางหน้า แต่แบบ 2 เส้นคู่กัน ซึ่งจะมีความแข็งมากกว่า 30% ถ้าเปรียบเทียบกับ DIABLO ROSSO™ III ด้วยเหตุนี้จึงสามารถลดจำนวนลวด และเพิ่มเนื้อคอมปาวด์ยางให้มากขึ้นได้ ทำให้ยางเกาะถนนได้มากขึ้น

ยางหลัง ขนาดตั้งแต่ 190/55 ZR 17 เป็นต้นไป
วิศวะกรของ Pirelli ได้ออกแบบโครงสร้างยางใหม่ที่ใกล้เคียงกับยางสนามจากการแข่งขัน World Superbike Championship โดยที่ใน DIABLO ROSSO™ IV ไซส์นี้ จะใช้โครงสร้าง เป็นลวด Lyocell แบบ 3 เส้น ที่จะช่วยให้แข็งและคงรูปทรงได้ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับลักษนะโครงสร้างยางถนนทั่วไป ผลลัพท์คือยางจะสามารถตอบสนองคันเร่งได้เรียบเนียนขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในทางตรงหรือทางโค้ง

ยาง 2 และ 3 คอมปาวน์
ยางหน้าแบบสองคอมปาวด์ เสริมด้วยเทคโนโลยี Cap&Base
ยางหลังแบบสองคอมปาวด์สำหรับมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กจนถุงปานกลาง และ สามคอมปาวด์สำหรับ มอเตอร์ไซค์ Superbike และ Hypernaked

ยางหน้า
เนื้อยางแข็งในส่วนกลางยางด้วยส่วนผสมของซิลิก้าที่สูงและ Tg ต่ำ ให้การยึดเกาะบนถนนเปียกและเย็น ส่วนด้านข้างของยางที่เนื้อนิ่มกว่า
(เมื่อเอียงรถทำองศาตั้งต่ 35˚) .ให้การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะสงผลให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนองศาการเข้าโค้งได้ง่ายขึ้น และเบรกระยะสั้นลง
ยางหลังแบบ 2 คอมปาวด์ สำหรับยางขนาดไม่เกิน 190/50 ZR 17
ยางหลัง 2 คอมปาวด์แบบ Full Silica ให้การวอร์มอัพที่รวดเร็ว การยึดเกาะสูงทุกองศาการเข้าโค้ง(รวมถึงทางเปียก) และให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่นุ่มนวล โดยที่เนื้อยางจะออกแบบให้สัมพันกับรูปทรงของยาง เพื่อให้พื้นที่ยึดเกาะของยางคงรูปและเสถียรมากขึ้น และสามารถกระจายแรงเสีดทานได้เท่าเทียม การสึกหรอคงที่ยิ่งขึ้น
ยางหลังแบบ 3 คอมปาวด์ สำหรับยางขนาด 190/55 ZR 17 เป็นต้นไป
ยางแบบ 3 คอมปาวด์ 5 โซน ที่ใช้เนื้อยางจากการแข่งขัน Endurance เสริมลงไป ออกแบบเพื่อการเข้าโค้งแบบสุดขอบความเร็วสูง รองรับขนาดกำลังเครื่องขนาดใหญ่ และ ส่วนกลางเนื้อยางนิ่ม ส่วนผสม Full Silica ให้ความลงตัวเรื่องการยึดเกาะบนพื้นเปียกเสริมความปลอดภัยในการขับขี่

ลายยาง
ลายยาง สายฟ้า FLASH™ อันเป็นเอกลักษณ์ของ Pirelli ถูกปรับเลี่ยนใหม่ใน DIABLO ROSSO™ IV ในส่วนกลางของยางจะมีลายสายฟ้าเป็นคู่ ช่วยในเรื่องความมั่นคงในการขับขี่ การสึกหรอของยางคงที่ยิ่งขึ้น และ ช่วยรีดน้ำจากส่วนกลางของยางออกไปด้านข้างได้อย่างรวดเร็ว และยังมีหางของยางสายฟ้า ที่มีคลามสั้น ยาวต่างกัน ต่อเนื่องออกจากส่วนกลาง แต่ทำมุมองศาที่ต่างออกไป ช่วยให้ยางสามรถให้ความยืดหยุ่นมากขึ้น และยังช่วยให้ยางสึกหรออย่างเท่าเทียม
ยาง DIABLO ROSSO™ IV จะมีพื้นที่เนื้อยางที่กว้างกว่า DIABLO ROSSO™ III ในช่วงของไหล่ยาง ด้วยเหตุผลที่ว่าการขับขีเข้าโค้งที่องศามากกว่า 35˚ การรีดน้ำไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ จึงเพิ่มอัตราส่วนของเนื่้อยางให้มากขึ้น เพื่อการยึดเกาะสูงสุด และสามารถคุมให้อยู่ในโค้งได้มั่นคง ดังนั้นนอกจากเรื่องของลวดลายสายฟ้าของ DIABLO ROSSO™ IV เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่เสริมประสิทธิภาพยาง

Pirelli Daiblo Rosso IV นี่คือยางอีกหนึ่งรุ่นที่เป็นที่สุดของยางสปอร์ตสำหรับถนน ไม่สนสภาพอากาศให้การยึดเกาะมั่นคงในขณะที่เบรค และยังเข้าโค้งสุดขอบได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นช่วยให้แฮนด์ไว ควบคุมได้ง่าย ไม่ต้องออกแรงมาก ตอบสนองการควมคุมได้อย่างนุ่มนวลประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการขับขี่บนถนนทั้งทางแห้งและเปียกครับ
คลิปรีวิว X-ADV 750
บทความรีวิว Honda X-AVD750 ปี 2025
คลิปรีวิว Honda Forza 750
รีวิว Honda Forza 750
คลิปรีวิว 2025 Honda CBR1000RR-R SP โมเดลล่าสุด
บทความรีวิว 2025 CBR1000RRR SP โมเดลล่าสุด









