2025 All New Yamaha NMAX Tech Max สปอร์ตสกู๊ตเตอร์กับเทคโนโลยี YECVT มีมอเตอร์ไฟฟ้าขับพู่เล่หน้า ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้เหนือกว่าใคร กับดีไซน์ที่ทันสมัยเหมาะกับทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล
ดีไซน์และรูปลักษณ์
All New Yamaha NMAX ปี 2025 มากับคอนเซ็ปต์ “บูสต์ความภูมิใจให้สุดฟีล มันส์…เปลี่ยนโลก” มี 2 รุ่นคือ All New Yamaha NMAX Tech Max มีเทคโนโลยี YECVT และรุ่น Standard ในชื่อ All New Yamaha NMAX โดยดีไซน์ของรถยังคง MAX DNA Design รักษาความสปอร์ตและทันสมัยเอาไว้
มาพร้อมกับโคมไฟหน้า LED มี Projector 2 ดวงสว่างพุ่งไกลไม่แยงตารถที่ขับสวนมา ไฟท้าย LED ดีไซน์เฉียบเท่มากอันนี้ผมชอบ และมองได้ชัดเจนบนท้องถนน การออกแบบของตัวรถให้ความรู้สึกเรียบหรู แต่ยังคงมีความดุดันในสไตล์ของ Yamaha
เครื่องยนต์ Blue Core
เครื่องยนต์ Blue Core สูบเดียว 4 จังหวะขนาด 155 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ วาล์วแปลผัน VVA เครื่องยนต์ใหม่นี้มีการเปลี่ยนตัวดันโซ่ราวลิ้นจากเดิมที่เป็นแบบสปริง เปลี่ยนมาเป็นแบบปั้มไฮดรอลิคเพื่อช่วยลดการเสียดทานของการทำงานของเครื่องยนต์ มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์บางส่วนเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
มีระบบ TCS (Traction Control System) มีระบบ Stop & Start System ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จุดเด่นของเครื่องยนต์ Blue Core และระบบวาล์วแปลผัน VVA จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ ไม่ว่าจะใช้ขับในเมืองทุกวันหรือการเดินทางไกล
ระบบ YECVT (Yamaha Electronic Continuous Variable Transmission)
ระบบ YECVT หรือ Yamaha Electronic Continuous Variable Transmission ซึ่งเป็นการพัฒนาใหม่ของระบบส่งกำลัง CVT โดยจะใช้มอเตอร์ช่วยหมุนพู่เล่หน้าแทนที่ตุ้มแรงเหวี่ยง จะไม่มีตุ้มแรงเหวี่ยงในระบบอีกต่อไป มอเตอร์จะทำงานโดยการสั่งการผ่านกล่อง ECU ที่แยกมาโดยเฉพาะ
YECVT ระบบควบคุมชุดส่งกำลังอัตโนมัติด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์สั่งการผ่าน ECU ซึ่ง ECU นี้จะเป็น ECU ที่แยกออกมาต่างหากนอกเหนือจาก ECU ที่อยู่กับตัวรถ ประมวลผลและส่งคำสั่งไปยังกล่องควบคุมชุดส่งกำลัง YECVT จากนั้นสัญญานจะถูกส่งต่อไปยังมอเตอร์เพื่อปรับอัตราทด เพิ่มประสิทธิภาพการเร่งแซงหรือชลอความเร็ว
มอเตอร์ที่เพิ่มเข้ามาในระบบขับเคลื่อน ควบคุมกลไกของพู่เล่หน้า(ชามหน้า)ให้ขยับเข้าและออกตามความเร็วรอบหรือความเร็วของรถ จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับตำแหน่งที่พู่เล่หน้าและตรวจจับความเร็วที่พู่เล่หลัง เซ็นเซอร์ทั้ง 2 ตัวจะส่งสัญญาณพร้อมกันไปที่ ECU หลักของตัวรถด้วย และ ECU ที่ตัวรถจะสื่อสารกับระบบ YECVT อีกรอบเพื่อประมวลผลส่งต่อให้ชุด CVT ทำงานได้แม่นยำไม่เกิดความผิดพลาด
โหมดขับขี่ 2 โหมด
ระบบ YECVT มีโหมดขับขี่ 2 โหมด คือ T mode หรือ Town Mode และ S Mode หรือ Sport Mode เลือกใช้โหมดขับขี่ทำได้โดยกดที่สวิตซ์แฮนด์ด้านซ้าย ปุ่มจะอยู่ด้านหน้า(ตำแหน่งเดียวกับปุ่มไฟ Hazard) ความต่างของ 2 โหมดคือความเร็วรอบของเครื่องยนต์และความเร็วของตัวรถโดยจะต่างกันประมาณ 1,000 รอบ/นาที และจะมี Engine Brake เมื่อยกคันเร่ง ซึ่งใน S Mode จะให้ Engine Brake ที่เยอะกว่าเพราะรอบเครื่องยนต์มีการเปลี่ยนแปลงฉับพลันมากกว่า(จากสูงลงมาต่ำ)
ปรับอัตราทดด้วย Shift Down Function มี 2 ฟังก์ชั่นการทำงาน ปุ่มนี้จะอยู่ที่ด้านล่างของสวิตซ์แฮนด์ด้านซ้ายใกล้กลับสวิตซ์แตร Shift Down Function มี 2 ฟังก์ชั่นการทำงานคือ
ฟังก์ชันที่ 1 ASD (Acceleration Shift Down) เพิ่มอัตราเร่งเพื่อเร่งแซงได้ทันใจ เพียงแค่เปิดคันเร่งอย่างรวดเร็ว
ฟังก์ชันที่ 2 ISD (Intelligence Shift Down) เพิ่มทางเลือกในการควบคุมสมรรถนะด้วยตัวเอง แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ
1) เปิดคันเร่ง และกดปุ่ม Shift เพื่อเพิ่มอัตราเร่ง โดย ECU จะปรับอัตราทดของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมในการเร่งแซง โดยสามารถเพิ่มได้ 3 ระดับ
2) ปิดคันเร่ง และกดปุ่ม Shift เพื่อสร้างแรงเบรกจากเครื่องยนต์ (Engine Brake) โดยECU จะปรับอัตราทดของเครื่องยนต์ ทำให้เกิดแรงต้าน และความเร็วของรถจะลดลงเร็วกว่าการปิดคันเร่งเพียงอย่างเดียว โดยสามารถลดได้ 3 ระดับ
สรุปฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
– ระบบ YECVT ควบคุมชุดส่งกำลังอัตโนมัติ: มี 2 โหมดขับขี่ มี Shift Down Function กดเร่งแซงหรือใช้ Engine Brake ได้ 3 ระดับ
– จอสี TFT: ในรุ่น Tech MAX จะเป็น Dual Display มี 2 หน้าจอคือ มีจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว และจอ LCD Full Digital ขนาด 3.2 นิ้วที่ใช้บอกความเร็วและข้อมูลต่างๆ ส่วนในรุ่น Standard จะมีเฉพาะหน้าจอ LCD
– ระบบ Y-Connect: เชื่อมต่อตัวรถกับสมาร์ทโฟน
– มีระบบ Garmin Street Cross: ที่ใช้งานฟรี ปรับให้ดีกว่าเดิม มีเฉพาะในรุ่น Tech MAX
– เครื่องยนต์ Blue Core มีวาล์วแปลผัน VVA
– มีระบบ Traction Control และระบบ Stop & Start System
– ระบบเบรก ABS: เป็น ABS Dual Channel ทั้งหน้าและหลัง ป้องกันล้อล็อกเมื่อใช้เบรกแรงทำให้การขับขี่ในสภาพถนนที่ลื่นไถลมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
– ระบบ Smart Key: ทำให้การสตาร์ทรถสะดวกและปลอดภัยขึ้น ไม่ต้องใช้กุญแจเพื่อเปิดสตาร์ทเครื่องยนต์ เพียงแค่พกกุญแจตัวเดียวก็สามารถเปิดใช้งานรถได้
– ระบบไฟ Full LED: ดีไซน์ใหม่ ไฟหน้ามี Projector 2 ดวง เพิ่มความสว่างในการขับขี่ในที่มืด และยังทำให้รถดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น
– กล่องเก็บของใต้เบาะขนาด 25 ลิตร: ยามาฮ่าเคลมว่าใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้
– ช่องชาร์จ USB Type C Port ทันสมัยรองรับ Smart Phone และ Gadget สมัยใหม่
All New YAMAHA NMAX Tech MAX ราคา 113,500 บาท มี 2 สีคือ สีน้ำตาล-ดำ Magma Black กับสีเทา-ดำ Prestige Gray
รุ่น Standard ราคา 98,500 บาท มี 4 สีคือ สีดำ Vivid Black / สีขาว Grossy White / สีแดง Super Red และ สีฟ้า Pastel Blue
ลองขี่ในสนามแข่งขันแก่งกระจานเซอร์กิต
ไทยยามาฮ่าจัดให้ร่วมทดสอบแบบไพรเวท ตั้งแต่กลางเดือน มกราคม 2568 ที่ผ่านมา จัดในสนามแข่งขันแก่งกระจานเซอร์กิต จุดเด่นของสนามแห่งนี้มีโค้งที่ต่อเนื่องและมีขึ้นเนินลงเนิน เหมาะที่จะทดสอบความคล่องตัว อัตราเร่ง และการ Shift Down ให้มี Engine Brake ในรถออโตเมติก?
ผมเองมี NMAX รุ่นแรกใช้งานอยู่ถึงทุกวันนี้จึงค่อนข้างชินกับฟีลลิ่ง พอมาขี่รุ่นใหม่ Generation ใหม่นี้รู้สึกถึงความต่างและที่พัฒนาขึ้นมาอย่างชัดเจน เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยมถ้าเทียบกับรถในคลาสเดียวกันถือว่าโดดเด่นมาเหนือ
โหมดขี่และระบบ YECVT ช่วยให้ขี่สนุกมากขึ้น สามารถกดเร่งแซงได้ทันใจและเป็นสเต็ป โดยเฉพาะจังหวะเริ่มขึ้นเนินในรอบหรือความเร็วต่ำ กดเป็นโหมด S และกด Shift Up รถจะปั่นรอบสูงขึ้น ฉุดรถขึ้นเนินชันได้เร็วแรงทันที
กลับกันเมื่อเราไหลลงเนินก็สามารถ Shift Down รถจะมี Engine Brake ช่วยดึงเช่นกัน ช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้น แต่ YECVT จะทำงานได้ชัดเจนต้องอยู่ในรอบเครื่องหรือความเร็วที่ต่ำกว่ารอบสูงสุดของกำลังเครื่องในขณะนั้น เช่น เราขี่ทำความเร็วมาอยู่แล้วและขึ้นเนินรถก็จะพุ่งขึ้นเนินไปปกติแล้วเรากด Shift Up อีกก็ไม่มีผล ในขณะลงเนินชันเราใช้รอบต่ำหรือขี่ช้าอยู่แล้วจะ Shift Down อีกก็ไม่มีผล
ช่วงล่างยังเป็นจุดเด่นที่ผมชอบ ใน Generation นี้มีการอัพเดทใหม่ทั้งโช้คหน้าและหลัง มีความเฟิร์มให้ฟีลลิ่งหนึบแน่นซับแรง เร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งดีเพราะช่วงล่างไม่ย้วย ในความเร็วสูงหรือในโค้งได้ดี ทำให้ควบคุมรถในโค้งได้สมู้ทและสามารถเร่งทำความเร็วในโค้งได้โดยที่ช่วงล่างไม่แกว่งหรือออกอาการดีดไม่เอาถนน ดิสก์เบรกทั้งหน้าหลังชัวร์ไว้ใจได้ แถมให้ ABS ทั้งหน้าหลังปลอดภัยและคุ้มค่าจริงๆ
ความสะดวกสบายในการขับขี่
ถึงจะเป็นสปอร์ตสกู๊ตเตอร์ แต่การออกแบบยังเน้นความสะดวกสบายของผู้ขับขี่เป็นหลัก All New NMAX มีเบาะนั่งที่กว้างนั่งสบายไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ระยะสั้นในเมืองหรือการเดินทางไกลก็ตาม จอสี TFT มีแอปพลิเคชั่นช่วยรวมข้อมูลรถให้ และมีระบบนำทางให้ใช้ฟรี มีSmart Key สะดวกสบาย มีพื้นที่เก็บสัมภาระใต้เบาะมีขนาดใหญ่ถึง 25 ลิตรใส่สัมภาระได้เยอะและสามารถใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้(ข้อมูลจากยามาฮ่า)
การประหยัดน้ำมัน
อีกหนึ่งจุดเด่นของ All New NMAX ปี 2025 คือการประหยัดน้ำมันที่ยังทำได้ดี กับเครื่องยนต์ Blue Core และระบบวาล์วแปลผัน VVA ช่วยให้การเผาผลาญน้ำมันมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้การเดินทางไกลเป็นไปอย่างประหยัดและคุ้มค่า
สรุป
2025 All New Yamaha NMAX Tech MAX (YECVT) เป็นสกู๊ตเตอร์ที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านดีไซน์และสมรรถนะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและปลอดภัยในการขับขี่ในทุกๆ วัน พร้อมทั้งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและระบบส่งกำลังที่ทำให้การขับขี่เป็นเรื่องง่ายและสนุกขึ้น แต่ใครยังอยากได้โฉมใหม่แต่ไม่ต้องการระบบ YECVT ก็มีรุ่น Standard ให้เลือกแถมมีสีให้เลือกเยอะกว่า และราคากว่าถูกกว่ารุ่น Tech MAX … ถ้าคุณกำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ที่ผสมผสานความสปอร์ตและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว NMAX ปี 2025 นี้คือคำตอบที่ไม่ผิดหวังครับ
คลิปรีวิว 2025 NMAX YECVT หรือ NMAX Turbo
คลิปรีวิว 2024 XMAX 300 TECHMAX
รีวิว 2024 XMAX TechMax
คลิป One Day Trip กับ GrandFilano
คลิปรีวิว YAMAHA FAZZIO FILA ลิมิเต็ด 2,500 คัน
บทความ Yamaha Fazzio Fila
คลิปรีวิว 2023 XMAX Connected
คลิปรีวิว 2023 XMAX Connected ในสนามช้าง
รีวิว 2023 Yamaha NMAX
คลิปรีวิว 2023 Yamaha NMAX
