2023 Honda CBR250RR SP สปอร์ตที่ฮอนด้าสร้างมาพร้อมความสมบูรณ์แบบมาก เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ดีไซน์ และเทคโนโลยี จัดว่าสุดในคลาส โมเดล 2023 มาเครื่องยนต์แรงกว่าเดิมพร้อมสีใหม่ Tri-Color หล่อครบแบบนี้มาอ่านรีวิวกันได้เลย
CBR250RR โฉมนี้นำเข้ามาขายครั้งแรกในไทยปี 2019 ตอนนั้นเป็นรถที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน แต่ในโมเดล 2020 ถัดมาจนถึงปัจจุบันนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งผมดูแล้วว่าไม่ต่างกันนักในเรื่องคุณภาพการผลิตและประกอบ นอกจากต้นทุนที่ดีคุมราคาขายให้คุ้มค่าได้ ยังได้ระบบ Quick Shifter เพิ่มมาด้วย
เครื่องยนต์อัพเกรดหลายชิ้น เพิ่มแรงม้า
เครื่องยนต์พื้นฐานเดิมครับ เป็นแบบ 2 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ DOHC 8 วาล์ว มีการปรับใหม่คือเพิ่มแรงอัดจาก 12.1:1 เป็น 12.5:1 พละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 42 แรงม้าที่ 13,000 รอบ/นาที (เดิม 41 แรงม้าที่ 13,000 รอบ/นาที) แรงบิดเท่าเดิมที่ 25 นิวตันเมตรที่ 11,000 รอบ/นาที
ภายในเครื่องยนต์มีการอัพเกรดใหม่พอสมควร อาทิ ฝาสูบใหม่ แหวนลูกสูบใหม่ เพลาข้อเหวี่ยงเบาลง(รอบเท่าเดิมม้าเพิ่มขึ้น) องศาแคมชาร์ฟใหม่ วาล์วไอดีใหญ่ขึ้น แมพปิ้งใหม่จ่ายอากาศและน้ำมันเข้าไอดีมากขึ้น
เครื่องยนต์มี Assist Slipper Clutch มีระบบ Quick Shifter ทั้งเพิ่มและลดเกียร์โดยไม่ต้องกำคลัทช์ เพิ่มสเตอร์หลังเป็น 42 ฟัน จากเดิม 41 ฟัน ส่วนสเตอร์หน้าเท่าเดิมที่ 14 ฟัน มีระบบ ESS (Emergency Stop Signal) และ ABS ทั้งหน้าและหลังเป็นมาตรฐาน
คันเร่งไฟฟ้า พร้อมโหมดขับขี่ 3 โหมดคือ Comfort Sport และ Sport+ (สปอร์ตพลัส) ขี่ไปเลือกใช้ไปได้ตลอดเวลาไม่ต้องจอด เรือนไมล์ Digital LCD มีเรดไลน์ที่ 14,000 สูงปรี๊ด บอกข้อมูลครบรวมถึงโหมดขี่และระบบ QuickShifter
เฟรมเดิม แต่แฟริ่งและช่วงล่างมีเปลี่ยนใหม่
ดีไซน์ภายนอกมองเผินๆ เหมือนไม่ได้มีการเปลี่ยนอะไร แต่จริงแล้วแฟริ่งมีการเปลี่ยนหลายจุดไม่ว่าจะเป็นชิลด์บังลม แฟริ่งด้านข้างและด้านใต้ไฟหน้า แฟริ่งข้างรถดีไซน์ทางเดินหรือไหลของอากาศใหม่ รอบเรือนไมล์ใหม่ ไฟ LED รอบคัน ไฟสูงดีไซน์ใหม่
ครอบถังน้ำมันใหม่ แฟริ่งท้ายใหม่ทั้งชุด โดยรวมทั้งคันถ้าจอดคู่กันจะดูไม่ต่างจากเดิมนัก แต่ถ้าลงดีเทลหรือรายละเอียดจะต่างกันซึ่งฮอนด้าใส่ใจเปลี่ยนให้ลงตัวมากขึ้น
ส่วนเฟรมยังคงเดิม ช่วงล่างโช้คหน้าเป็นแบบ Upside-Down ขนาด 37 มม. อัพเกรดภายในใหม่เป็นแบบ BPF (Big Piston Fork) โช้คอัพหลังเดี่ยวปรับสปริงพรีโหลด 5 ระดับคงเดิม สวิงอาร์อลูมิเนียม ล้อแม็กอลูมิเนียมอัลลอยสีทอง
Egonamic ท่านั่งสปอร์ตแต่สบายเหมือนเดิม
นับว่าเปลี่ยนในรายละเอียดหลายอย่างแต่ท่านั่งยังคงเดิม ความรู้สึกเดิม เป็นรถสปอร์ตที่ผมยกให้ในเรื่องท่านั่งที่สบายเลยล่ะ สปอร์ตนะแต่สบาย ?? หมอบขี่ก็พอดีนั่งขี่ก็สบายคอนโทรลรถได้ง่ายอีกด้วย องศาแฮนด์ไม่แคบนักควบคุมรถง่าย ล็อครถหรือพารถไปในไลน์ที่อยากไปได้ง่าย
ใช้งานได้ทุกวัน
ผมเอามาขี่ใช้งานทั่วไป ตอ้งบอกเลยว่าใครที่ชอบรถสปอร์ตต้องไม่พลาดเลย ด้วยขนาดที่คล่องตัว เครื่องยนต์รอบจัดมีกำลังสูงทำให้การใช้งานในเมืองอย่างใน กทม. คล่องตัวและสนุกมาก การเร่ง การแซง การมุด ทำได้ง่ายและเร็วมาก ระบบเบรกก็มั่นใจได้เลย
ท่านั่งขี่ที่ผมบอกไปแล้วว่านั่งขี่สบายแต่ยังคงสปอร์ตและคุมรถได้คล่องตัวมาก การเลี้ยงตามแยกหรือเข้าโค้งในสถานการณ์ต่างๆ พาเลี้ยวได้ง่ายและเบาแรง ช่วงล่างเทพเลยล่ะครับ ผมขี่ในสนามช้ารถเดิมๆ ก็หวดกดเวลาต่อรอบได้ไม่แพ้รถขนาด 500 ซีซี แม้กำลังจะน้อยกว่า ก็เพราะจากเครื่องยนต์รอบสูงและช่วงล่างที่เจ๋งนี่เอง
2023 HONDA CBR250RR SP Tri-Color ราคา 269,000 บาท
ก็ต้องบอกเลยว่า CBR250RR นี่ผมเองก็หมายจะเป็นเจ้าของอยู่เหมือนกัน ผมมองว่าคุ้มค่ามากกับสมรรถนะที่ได้หลังจากได้ขี่แล้วหลายครั้งทั้งในและนอกสนาม ดีไซน์ถูกใจและยังแต่งสวยแต่งเพิ่มเพอร์ฟอร์แมนซ์ได้อีก เอาไว้ลงขี่แทร็กเดย์ก็ทำเวลาได้ดี เอาไว้ขี่เล่นหรือเดินทางไกลก็ทำได้สบายๆ
เพียงแต่ด้วยความเป็นรถสปอร์ตเมื่อนำมาใช้งานโดยเฉพาะการเดินทางไกลจะไม่สะดวกสบายเท่า Scooter ขนาด 300 – 350 ซีซี แน่นอนโดยเฉพาะในเรื่องที่เก็บสัมภาระและท่านั่ง แต่ในเมืองคล่องตัวกว่า นอกเมืองก็เร้าใจกว่า เจอโค้งยิ่งไม่ต้องสืบขี่สนุกว่าแน่นอน
ใครมองหาสปอร์ตไว้ใช้งานหรือเอาไว้ซ้อมในสนาม Honda CBR250RR SP ตอบโจทย์มากครับ
คลิป ทดสอบรีวิว Honda CBR1000RRR SP เต็มๆ
คลิป รีวิว CRF1100L Africa Twin ทั้ง DCT และ MT
รีวิว NT1100
คลิป รีวิว CBR250RR SP
รีวิว CBR250RR SP
คลิปรีวิว Honda CBR250RR จัดหนักที่สนามช้าง
ขี่ Honda CBR650R ขึ้นปาย รถ 4 สูบกับความฝัยวัยเยาว์
ทดสอบ Honda CBR 650 R ที่สนามช้าง
คลิป รีวิว Honda CBR 650 R ที่สนามแก่งกระจาน
คลิปทดสอบ 2021 CBR600RR
คลิปพรีวิว CL500 และ CL300
อ่านพรีวิว สเปค CL300
อ่านพรีวิว สเปค CL500