Honda CB750 Hornet เน็กเก็ตขนาดกลางเครื่องยนต์ 2 สูบ เครื่องยนต์ใหม่ Segment ใหม่ ใหม่ทั้งคัน แต่มากับชื่อรุ่นดั้งเดิมที่เคยสร้างชื่อให้กับฮอนด้ามาแล้ว
Hornet แตนยักษ์ที่มีสตอรี่
แม้ว่าจะใหม่ทั้งคัน แต่ชื่อ Hornet เป็นชื่อรุ่นดั้งเดิมที่ฮอนด้าเคยใช้ในตระกูล CB ในช่วงปลายยุค 90 จนถึงยุค 2000 ต้นๆ ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง
Hornet ในช่วงนั้นจะมี 3 ขนาดด้วยกันคือ Hornet 250 , Hornet 600 และ Hornet 900 ทั้ง 3 รุ่น 3 ขนาดจะมีดีไซน์เหมือนกันต่างที่ขนาดและที่เป็นเอกลักษณ์ประจำรหัส Hornet คือท่อที่ยกขึ้นแนบ.ออกท้ายรถ
ใน Hornet 900 จะมีท่อแนบออก 2 ข้างซ้ายขวาต่างจากรุ่น 250 และ 600 ที่ออกข้างเดียว และต่อมาในช่วงปี 2007 ขึ้นไป Hornet 600 ที่ยังผลิตขาย มีการปรับดีไซน์ท่อให้ออกฝั่งขวาด้านล่างของตัวรถตามมสมัยนิยม ก่อนจะยุติการผลิตไปทั้งตระกูล
กำเนิดใหม่ ใหม่ทั้งหมด
เปิดตัวในงานอิคม่าจนถึงวันนี้ก็ครบปีพอดี มาเปิดตัวที่ไทยในงาน Motorshow 2023 ต้นปีที่ผ่านมา พร้อมกับ Transalp 750 (จะนำมาเล่าให้อ่านกันอีกที) กับเครื่องยนต์ใหม่แบบ 2 สูบเรียง ต่างจาก Hornet ในอดีต
เครื่องยนต์ 2 สูบเน้นทอร์ค
เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 จังหวะ 2 สูบเรียง Parallel Twin ขนาด 755 ซีซี OHC 8 วาล์ว มี Assist Slipper Clutch ให้กำลังสูงสุด 90.5 แรงม้าที่ 9,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 75 นิวตันเมตรที่ 7,250 รอบ/นาที หัวฉีด เกียร์ 6 สปีด
จะเห็นว่าทอร์คมาค่อนข้างดีและมาในรอบกลางเท่านั้น ไม่ต้องเร่งเยอะก็สามารถแซงหรือออกตัวได้ดี แรงม้ากำลังพอดี แต่เยอะมากถ้าเทียบกับ Hornet ในยุคก่อน แถมเน้นแรงบิดใช้งานได้ง่ายไม่ต้องเร่งรอบจนสูง
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยขี่
มี 4 โหมดขี่คือ Sport Standard Rain และ User แต่ละโหมดจะทำงานกับ P (Power) EB (Engine Brake Control) และ T (Traction Control) หรือ Honda Selectable Torque Control (HSTC) ที่ต่างระดับการทำงาน ในโหมด User จะปรับระดับการทำงานของระบบต่างๆ เหล่านี้ได้เอง มีระบบ ABS 2 Channel
หน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อระบบสั่งการด้วยเสียง Honda Smartphone Voice Control System กับสมาร์ทโฟน ใช้งานแอพพลิเคชั่น Honda RoadSync
ไฟส่องสว่าง LED รอบคัน มีระบบ Auto Cancelling Turn Signals หรือระบบไฟเลี้ยวปิดเองอัตโนมัติถือเป็นระบบใหม่บนรถจักรยานยนต์ฮอนด้า มีระบบ ESS Emergency Stop Signal ไฟขอทางกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน
เฟรม ช่วงล่างพอเหมาะ
เฟรมท่อเหล็ก Daimond Frame ถังน้ำมันเชื้อเพลิงจุ 15.2 ลิตร น้ำหนักรถทั้งคันอยู่ที่ 190 กิโลกรัม โช้คอัพหน้า Showa SFF-BP แบบ Upside-Down ขนาด 41 มม. โช้คอัพหลังเดี่ยวทำงานร่วมกับสวิงอาร์มในระบบ Pro-Link
ดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 296 มม. คาลิปเปอร์เรเดียลเมาท์ 4 พอร์ท พร้อมระบบ ABS ดิสก์เบรกหลังเดี่ยวขนาด 240 มม. คาลิปเปอร์ 1 พอร์ทพร้อมระบบ ABS ยางหน้าขนาด 120/70ZR17 ยางหลังขนาด 160/60ZR17
ทดลองขี่ จัดว่าแจ่มเลยนะ
เป็นครั้งที่ 2 ที่ MotoMotion ได้ขี่ Hornet 750 ครั้งแรกเป็นการออกทริปเดินทางไกล ทางฮอนด้าจัดให้และพี่ป๋องเป็นคนไปร่วมกิจกรรม (อ่านได้ที่ link ท้ายบทความ) ขี่สลับกับ Transalp 750 พี่น้องเครื่องเดียวกัน
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของเราแต่เป็นครั้งแรกของผมที่ได้ขี่บ้าง และผมก็เลือกที่จะนำมาใช้งานในเมือง ใน กทม. ด้วยขนาดของรถที่กะทัดรัด และดีไซน์ ง่ายๆ เลยคือไม่ต่างจาก CB500F นัก ในสายตาผมเป็น 750 ซีซี ที่มีขนาดเล็กมาก
เครื่องยนต์ใหญ่ 90 ม้า เรื่องการใช้งานในเมืองคือหายห่วง แรงบิดมหาศาลบิดก็พุ่ง รวมกับขนาดของรถคือแซงในจังหวะกระชั้นชิดได้สบาย ช่วงล่างกลางๆ ในเมืองค่อนข้างเฟิร์ม ล้อยางขนาดพอเหมาะ
ฮอนด้าเลือกใช้ยางหลัง 160 ในอดีตยางไซน์นี้จะใช้ในรถขนาด 400 ซีซี ส่วนรถ 750 ซีซียุคนั้นจะใช้ขนาด 170 – 180 ซึ่ง Hornet 600 ในช่วงนั้นก็ใช้ยางหลังขนาด 180 เช่นกัน และผลที่ Hornet 750 ใช้ยาง 160 คือความคล่องตัว เลี้ยวง่าย เบาแรง เรียกว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมมาก
ที่ผมเทียบกับรถในอดีตก็ไม่ใช่จะเป็นมารตฐานอะไร เพราะรถในยุคใหม่มีเทคโนโลยีการออกแบบ การผลิตที่ต่างจากอดีตเยอะมาก รวมถึงขนาดและน้ำหนักตัวรถ ในรหัส Hornet ปัจจุบันนอกจากการแม็ทชิ่งขนาดยางที่ดี ขนาดเครื่องยนต์ยังเปลี่ยนจาก 4 สูบเป็นแบบ 2 สูบ มีน้ำหนักที่เบาลงเยอะ แถมแรงกว่าเดิมเยอะเช่นกัน
โหมดต่างๆ เลือกใช้งานง่ายที่สวิตซ์แฮนด์ มีการตอบสนองของคันเร่งและเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันชัดเจน เลือกใช้ตามชื่อโหมดได้เลย หรือปรับแต่งคัสตอมเองได้ออิสระ ต่อมือถือได้ อันนี้บอกตรงๆ ยังไม่ได้ลอง
Honda CB750 Hornet ราคา 319,000 บาท มี 2 สีคือสี Graphite Black นายแบบเราในบทความนี้ และอีกสีคือสี Pearl Glare White (ขาวมุกเฟรมแดง)
Hornet 750 ค่อนข้างครบเครื่องในการใช้งาน ในเมืองคล่องตัวด้วยขนาดและน้ำหนักตัว รวมถึงความสูงเบาะนั่ง เครื่องยนต์ทรงพลังเป็นเครื่องยนต์ใหม่ซิงๆ ของฮอนด้า ไปได้อีกนาน ระบบช่วยขี่ให้เปลอดภัยให้มาเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ออกแนวดิบแต่ก็พอมีของประมาณนั้น เอาไปเหลา Knee Slider ในงาน Trackday ก็เหลือเฟือ
ที่เล่ามาทั้งหมดอาจจะไม่ยาว เพราะโดยรวมลงตัวมาก รถขนาด 750 ซีซี รถนำเข้า โมเดลล่าสุดแบบนี้ กับราคา 319,000 บาท ไม่รู้ฮอนด้าตั้งราคาผิดหรือเปล่า ถูกจัด
คลิปรีวิว Honda Hornet 750
First Ride Honda CB 750 Hornet คลิก
กิจกรรม Honda Adventure Mania 2023
ขี่ X-ADV750 เที่ยวภูเก้าง้อม
คลิปพรีวิว Honda CL500 CL300
รีวิว Honda CL500
คลิป ทดสอบรีวิว Honda CBR1000RRR SP เต็มๆ
คลิป รีวิว CRF1100L Africa Twin ทั้ง DCT และ MT
รีวิว NT1100
คลิป รีวิว CBR250RR SP
รีวิว CBR250RR SP
คลิปรีวิว Honda CBR250RR จัดหนักที่สนามช้าง