[พรีวิว] 2020 All New Yamaha NMAX ใหม่หมดทั้งคัน แรงขึ้น ฟังก์ชั่นจัดเต็ม

0

เปิดตัวและให้สื่อมวลชนร่วมเข้าทดสอบ(เล็กๆ)เป็นที่เรียบร้อยสำหรับ 2020 All New Yamaha NMAX เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดยกคัน มีอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ น่าสนใจกว่าเดิมไหม มีคำตอบ

เครื่องยนต์ Blue Core เจนใหม่  

เครื่องยนต์ได้รับการอัพเกรดใหม่  4 จังหวะ สูบเดียว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 155 ซีซี ให้กำลัง 15.3 แรงม้า (เดิม 15.1) ให้กำลังอัด 11.6:1 (เดิม  10.5:1) ส่วนแรงบิด 13.9 นิวตันเมตร ลดลงจากเดิม 14.4 นิวตันเมตร จากข้อมูลทางเทคนิคที่เห็นภายในเครื่องยนต์ ถูกปรับเปลี่ยนให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นนั่นเอง

กำลังอัดที่มากขึ้นเพราะลูกสูบแบบ Forged(อัดขึ้นรูปจากอลูมิเนียมทั้งก้อน) มีการปรับบริเวณหัวลูกสูบใหม่มีความเรียบกว่าเดิม(เดิมจะเว้าลงไป) ทำงานร่วมกับกระบอกสูบเทคโนโลยี “ไดอะซีล” ไร้แรงเสียดทาน ระบายความร้อนได้ดี

วาล์วแปลผันอัจฉริยะ VVA

และที่มีแรงบิดน้อยลงเพราะมีการทดแทนด้วยระบบวาล์วแปลผัน VVA ที่วาล์วไอดี ในรอบหรือความเร็วต่ำจะใช้ลูกเบี้ยวที่องศาต่ำ เพียงพอต่อการใช้งานหรือเรียกรอบเรียกกำลังในรอบต่ำได้ทันใจ แต่เมื่อเร่งความเร็วจะเปลี่ยนเป็นลูกเบี้ยวที่มีองศาสูงอัตโนมัติ ไอดีจะถูกป้อนเข้าห้องเผาไหม้ได้นานและมีปริมาณเยอะขึ้น ทำให้รอบเครื่องหรือความเร็วสูงๆ ดีหรือมากกว่าเดิม

ท้ายรถสวยมาก

กระบอกสูบและการหมุนของเครื่องยนต์ก็จะเป็นการหมุนแบบเยื้องศูนย์ คือองศาของเพลาข้อเหวี่ยงจะเยื้องกับการขึ้นลงของลูกสูบทำให้ไม่เสียแรงขับ ก้านและลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นลงได้ลื่นไหล

เลี้ยวไปเถอะ ช่วงล่างเอาอยู่

ฝาสูบใหม่ หม้อกรองอากาศใหญ่กว่าเดิม

ช่องทางเดินน้ำของระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ในฝาและเสื้อสูบก็มีเพิ่มมากขึ้น เพื่อการระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิม มีผลต่อพละกำลังเครื่องยนต์จะสามารถยืนระยะหรือทำความเร็วต่อเนื่องได้ดีกว่าเดิม หม้อกรองอากาศมีการเปลี่ยนใหม่ใหญ่ขึ้นจาก 3.7 ลิตรเป็น 4.3 ลิตรรับกับระบบ VVA ที่ป้อนอากาศเข้าห้องเผาไหม้มากขึ้น ตัวกรองอากาศเป็นแบบเปียกคือเคลือบน้ำมัน

Smart Key กดเปิดล็อคฝาเติมน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเบาะสบาย ช่องใส่ของมีฝาปิด มีที่ชาร์จไฟ 12V. แล้วด้วย

Smart Motor Generator

มี Smart Motor Generator ทำงานควบคู่กันในตัวเดียวคือทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟเพื่อเลี้ยงแบตเตอรี่(แบบเดียวกับ Generator ในรถทั่วๆ ไป) ที่พิเศษคือทำหน้าที่เป็นมอเตอร์สตาร์ทเครื่องยนต์ไปในตัว ประหยัดพื้นที่และไม่ต้องดูแลมอเตอร์สตาร์ทอีกต่อไป

เรือนไมล์ดีไซน์ใหม่ กดเลือกฟังก์ชั่นได้ที่สวิทซ์แฮนด์ด้านซ้าย (เดิมต้องละมือมากดที่เรือนไมล์)

Stop &Start System

มีระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ เครื่องยนต์จะหยุดทำงานเมื่อเราจอดติดไฟแดงเกิน 5 วินาที ที่ต้องหน่วง 5 วิฯ ก็เพื่อการขี่ในช่วงรถติดๆ ที่เดี๋ยวเร่งเดี๋ยวหยุด  และอีกเงื่อนไขคือจะหยุดทันทีเมื่อขับขี่มาด้วยความเร็วและหยุดทันที เครื่องยนต์จะกลับมาทำงานทันทีเมื่อเราบิดคันเร่ง

เฟรมและช่วงล่างก็มาใหม่

เฟรมถูกเปลี่ยนใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม มีจุดยึดแท่นเครื่องใหม่จะอยู่ด้านล่าง(เดิมจะอยู่ด้านบน) มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง มีการซับรองรับแรงบิดได้ดีกว่าเดิม ทำให้การควบคุมดีขึ้น และยังมีมุมแคสเตอร์ใหม่เอียงกว่าเดิม ทำให้การเลี้ยวมีความมั่นคงมากขึ้น หน้าไม่ไวเมื่อเทียบกับตัวเดิม

โช้คอัพมีระยะยุบที่สั้นกว่าเดิม มีความยาวของโช้คอัพสั้นลง เพื่อให้ตัวรถเตี้ยลงกว่าตัวเดิม แต่ทดแทนด้วยการเพิ่มความแข็งหรือค่า K ของสปริงโช้คทั้งหน้าหลังรับแรงกระทำได้เท่าเดิมอย่างไม่มีปัญหา

ดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลังพร้อมระบบ ABS Dual Channel หรือหน้าและหลังแยกการทำงานกัน มีการอัพเกรดหรือเปลี่ยนกล่องควบคุมใหม่ ให้ “ฟีลลิ่ง” ในการใช้งานได้ดี และมีการเบรกที่ดีกว่าเดิมชัดเจน(หลังจากที่ลองขี่แล้ว)

ฟังก์ชั่นเด็ดเต็มคัน

เริ่มจากดีไซน์ที่ดูสปอร์ตดุดันบ่งบอกความเป็นตระกูล MAX ได้ชัดเจน ไฟหน้าหลังใหม่เป็น Full LED หน้าจอเรือนไมล์จากกลมๆ ก็เป็นแบบสี่เหลี่ยม บอกรายละเอียดครบครัน ดูง่ายขึ้นอีกด้วย การเลือกโหมดต่างๆ บนเรือนไมล์ก็กดได้ที่สวิทซ์แฮนด์ด้านซ้าย จากเดิมที่ต้องละมือมากดที่เรือนไมล์

มีระบบ Smart Key System คือเป็นกุญแจแบบ Keyless ดีกว่าตัวเดิมสุดๆ คือฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ต้องเอากุญแจมาไขเพื่อเปิดอีกต่อไป โฉมใหม่แค่กดก็สามารถเปิดล็อคฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงและเปิดล็อคช่องเก็บของใต้เบาะได้แล้ว โดยถังน้ำมันเชื้อเพลิงของโฉมใหม่นี้ก็เปลี่ยนใหม่ไซส์ใหญ่กว่าเดิมที่ 7.1 ลิตร ช่องเก็บของใต้เบาะก็ยังคงใหญ่สะใจเป็นเอกลักษณ์ตระกูล MAX

คอนโซนหน้าด้านขวามีช่องเก็บของที่มีฝาปิด ส่วนด้านซ้ายมีให้เก็บของนิดหน่อยพร้อมด้วยช่องชาร์จไฟขนาด 12V. อุปกรณ์มาตรฐานของรถมอเตอร์ไซค์ยุคนี้เลย

ท่านั่งสบายไม่ต่างจากเดิม

 ลองขี่สักนิด

เกริ่นก่อนว่าตัวผมเองใช้ NMAX ตัวแรกสุดมา 4 ปี และยังใช้งานทุกวัน เมื่อมีโอกาสได้ทดลองขี่ตัวใหม่จึงแยกความต่างได้ไม่ยาก และด้วยที่เทคโนโนยีที่ยามาฮ่าให้มาใหม่ทั้งหมดก็แยกความต่างได้ง่ายมากจริงๆ โดยการทดสอบจะถูกจัดแบ่งเป็นสถานีต่างๆ เพื่อให้ได้ทดลองระบบต่างๆ ของตัวรถ อาทิ สถานีเบรก สถานีเนินลูกระนาด สถานีสลาลอม (Slalom)

ท่าขี่ไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่การเลี่ยวในมุมต่างๆ ให้ความรู้สึกดีนะโดยเฉพาะความเร็วสูงในโค้งกว้างมั่นคงกว่าเดิม การเลี้ยวกลับไปมาในสถานีสลาลอมก็ทำได้เนียนๆ โดดเด่นด้วยระบบเบรก ABS ทั้งหน้าหลัง ต่างจากตัวเดิมชัดเจนมาก

เดิมเรื่องเบรกก็ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ตัวใหม่นี้ดีขึ้นไปอีก ที่ผมชอบมากคือ “ฟีลลิ่ง” หรืออาการ ABS “สู้นิ้ว” มีน้อยลงมาก บีบได้นิ่มนิ้วเลยล่ะ

ช่วงล่างรับแรงกระแทกได้ค่อนข้างดี เหมือนจะนุ่มกว่าเดิมด้วยซ้ำทั้งที่ตามข้อมูลบอกว่าโช้คอัพสั้นและมีระยะยุบน้อยกว่าเดิมแต่มีค่าความแข็งของสปริงมากขึ้น!  ตัวรถรับแรงกระแทกจากเนินลูกระนาดและยังให้ความมั่นคงและการควบคุมที่ดี

ขี่ไม่มากแต่สรุปได้เต็มๆ ว่า

ดีกว่าเดิมทุกๆ ด้าน เป็น All New ที่ All New จริงๆ ชอบระบบเบรกและระบบ ABS ที่ให้มาน่าประทับใจ ชอบการตอบสนองของเครื่องยนต์สมู้ทแต่มีพลัง บิดดึง บิดพุ่ง คือดีกว่าตัวเดิมด้วยนะ ชอบสุดๆ คือ Smart Key ที่ไม่ต้องดึงกุญแจมาไขฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ใครที่เป็นเจ้าของ NMAX ตัวเดิมน่าจะเคยเจอปัญหาฝาถังสลับด้านกันบ้างล่ะ ผมนี่นั่งงัดอยู่นานเลย

ฟังก์ชั่นที่ให้มาเป็นมาตรฐานทุกอย่างคุ้มค่ากับค่าตัวที่เปิดมาที่ 85,900 บาท โคตรคุ้มอ่ะ!!

ช่วงสถานการณ์ Covid-19 เราก็จะต้องมีแมสและห่างๆ กันหน่อย ถ่ายหล่อๆ คนเดียวดีที่สุด

ถ้ามีโอกาสได้นำมาขี่ทดสอบอีก หรือได้เดินทางร่วมทริปกับ All New NMAX จะมาเล่าถึงสมรรถนะและฟีลลิ่งแบบเต็มๆ ให้อ่านกันนะ แต่ตอนนี้ใครมองหาสกู๊ตเตอร์ขนาด 150 ซีซี อยู่ ห้ามพลาด!!

คลิป พรีวิว All New Yamaha NMAX 155 คลิก
ทดสอบ รีวิว Yamaha LEXi น้องเล็กตระกูล MAX คลิก
ทดสอบ รีวิว 2020 Yamaha YZF-R1 ที่สนามช้างฯ คลิก
คลิป ทดสอบ รีวิว 2020 Yamaha YZF-R1 ที่สนามช้างฯ คลิก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่