ผมโดนเอง!! ใช่ครับผมเอารถตัวเองมาใส่ยาง Pirelli Diablo Rosso IV ถือเป็นยางเจนเนอเรชั่นที่ 4 ในตระกูลยาง Diablo Rosso ที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพการยึดเกาะสูงสุดบนถนน ควบคุมและจับความรู้สึกได้ง่ายไม่ว่าทางจะเปียกหรือแห้ง เรามาดูสเปคยางกันก่อนเลย
ซึ่งผมพึ่งได้นำรถเข้าไปใส่นะครับ ด้วยรถผมคือ Honda RVF400 (NC35) ขนาดยางที่ใส่จะเป็นยางหน้าขนาด 120 ยางหลังขนาด 160 และรถของผมคันนี้คือรถที่เก็บสะสมแต่ผมก็ยังนำออกมาใช้งานปกติ ไม่ได้ใช้ทุกวันแต่ก็พยายามขี่หรือใช้งานบ่อยอยู่ คอนเท้นต์นี้ผมเลยขอนำเสนอเรื่องข้อมูลของยางตัวนี้กันก่อนครับ แล้วหลังจากใช้งานไปซักระยะผมจะมารีวิวตัวยางจากการใช้งานจริงกันอีกที
จุดเด่นของ Diablo Rosso IV
• ออกแบบสำหรับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไบค์ที่ชอบการขับขี่แนว “สปอร์ต” ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไบค์ประเภท ซุปเปอร์สปอร์ต, เนค
เก็ต, หรือ ครอสโอเวอร์
• ให้การยึดเกาะที่มั่นคง ทุกองศา จับความรู้สึกได้ง่าย ความคุมได้มั่นใจ
• คุณสมบัติของยางตอบสนองกับขนาดรถมอเตอร์ไบค์ได้เป็นอย่างดี
• โปรไฟล์ยางที่สืบทอดจากยางที่ใช้ในการแข่งขัน FIM Superbike World Championship
• เทคโนโลยีโครงสร้าง Lyocell เสริมสมรรถณะให้กับยางขนาด 190/55ZR17 ขึ้นไป
• ยางหน้าแบบ 2 คอมปาวด์ เนื้อยางส่วนผสม ซิลิก้า รูปแบบใหม่
• ยางหลังแบบ 2 และ 3 คอมปาวด์ขึ้นอยู่กับขนาดยาง
เทคโนโลยีใหม่ที่ถูกเติมลงไปในยาง DIABLO ROSSO IV
ให้การยึดเกาะของยางที่ยอดเยี่ยมทั้งในการเร่ง เบรก หรือเข้าโค้ง จากการที่นำเอาเทคโนโลยียางจากสนามแข่งมา
เสริมในโปรไฟล์และ โครงสร้างยาง ช่วยให้ยางสามารถรับมือกับกำลังเครื่อง ที่มากกว่า 200 แรงม้าได้ดีขึ้น ให้ผู้ขับขี่จับความรู้สึกของผิวถนนและอาการต่างๆของตัวรถได้ง่ายขึ้น ช่วยให้สามารถตัดสินสภาพผิวถนน โค้ง และมุมเอียงในสถานการณ์ต่างๆ
และช่วยให้เป็นหนึ่งเดียวกับรถมอเตอร์ไบค์และสั่งการควบคุมได้ดั่งใจนึก สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับยางถนนสายสปอร์ต ด้วยเนื้อยางซิลิก้าแบบใหม่ที่ถูกใส่ลงในยาง เสริมด้วยเทคโนโลยี Cap & Base ในยางหลัง และลายยางรูปแบบใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพของยางทั้งทางแห้งและเปียกเหนือกว่าที่เคย
คอมปาวด์ (เนื้อยาง)
ยางหน้าใหม่แบบ 2 คอมปาวด์ 3 โซน
• เนื้อยางส่วนกลาง กินพื้นที่ประมาณ 50% ของหน้ายางทั้งหมด ใช้เนื้อยาง High Silica เพื่อให้การยึดเกาะที่คงที่ขณะขับขี่ รองรับการเข้าโค้งที่ประมาณ 35 องศา ซึ่งเป็นองศาโค้งปานกลางพบเจอได้บ่อยๆทั้งในถนนเมือง หรือออกทางไกล
• ด้านข้าง ใช้เนื้อยาง High Silica เช่นเดียวกัน แต่ จะมีเนื้อคอมปาวด์ที่นิ่มและอ่อนกว่า รองรับการเข้าโค้งลึกๆ ที่อุณหภูมิต่ำได้มั่นคงขึ้นยางหลัง จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท เพื่อให้เข้ากับขนาดกำลังเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไบค์ในปัจุบันคือ
ยางหลังที่มีขนาด 190/50ZR17 ลงไปจะใช้เนื้อยางหลังแบบ 2 คอมปาวด์ที่จะใช้เทคโนโลยีCap&Base ที่ใช้ยางตรงกลางส่วนผสม High Silica ที่มีเนื้อแข็งฝังลึกลงไปถึงชั้นโครงสร้างเพื่อช่วยในการกระจายความร้อน โดยที่ด้านข้างจะมีลักษณะที่อ่อนนุ่มกว่า ด้วยส่วนผสมที่ใกล้เคียงกับยางที่ใช้ในการแข่งขัน แต่ยังคงใช่ส่วนผสม High Silica เป็นส่วนผสมหลัก เพื่อให้ยางด้านข้างสามารถเกาะผิวถนนในย่านอุณหภูมิที่กว้างขึ้น
ส่วนในยางหลังที่มีขนาด 190/55ZR17 เป็นต้นไป จะใช้ยางหลังแบบ 3 คอมปาวด์แบ่งออกเป็นส่วนละประมาณ 30% ของหน้ายางทั้งหมด คือ
- • ส่วนกลาง แบบ Hard Compound เสริมด้วยส่วนผสม High Silica เพื่อให้ยางมีความทนทานต่อแรงบิดสูงๆ ช่วยกระจายความร้อนไปยังส่วนอื่นๆของยาง และ ช่วยให้สามารถขับขี่บนทางตรงความเร็วสูงได้มั่นคงและนิ่งขึ้น
- • ด้านข้าง แบบ Intermediate Compound หรือเป็นเนื้อยางที่อ่อนกว่าส่วนกลาง (ส่วนผสมแบบเดียวกัน) เพื่อให้สามารถเข้าโค้งในทางเปียกได้มั่นคงขึ้น และยังมั่นใจเวลาใช้ความเร็วสูงๆในโค้งบนถนนแห้ง
ไหล่หรือช่วงขอบยาง แบบ 100% Carbon Black Compound ที่มีเนื้อนุ่ม ร้อนไว ใกล้เคียงกับ Diablo Superbike
SC3 ที่ใช้ขับขี่ในสนาม ซึ่งจะเป็นเนื้อยางสนามที่มีความทนทานและ warm-up ได้รวดเร็ว นอกจากนั้น จากเทคโนโลยี
Cap&Base ที่ช่วยกระจายความร้อน จึงทำให้ยางที่ขอบสุดนี้ร้อน พร้อมใช้เข้าโค้งได้ทันที
โปรไฟล์(รูปทรงยาง)
ROSSO IV ใช้เทคโนโลการออกแบบโปรไฟล์จากยางที่เร็วที่สุดในสนามแข่ง คือ DIABLO SUPERBIKE ด้วยรูปทรง ยางแบบ Multi-Radius ช่วยให้ยางสามารถควบคุมได้ง่าย พลิกโค้งต่อเนื่องได้รวดเร็วกว่าเดิมและองศายางที่ชันขึ้นยังช่วยเพิ่มพื้นที่ยึดเกาะกับถนนให้มากขึ้นตามไปด้วย
ยางหลังเมื่อเปรียบเทียบโปรไฟล์ยางของ ROSSO IV กับรุ่นก่อนหน้า ในไซส์ 200/55ZR17 ส่วนกลางของยางจะมีความสูงเพิ่มขึ้นประมาณ 10 มม. และกว้างกว่าเดิม 3 มม. ส่วนยางหน้า ก็จะปรับโปรไฟล์ยางใหม่ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับยางหลัง เพื่อให้ยางสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสมดุลมากขึ้น
ลายยาง
สำหรับลายยางของ ROSSO IV จะใช้ลวดลาย FLASH หรือลาย “สายฟ้า” ที่เป็นเอกลักษณ์ของ PIRELLI อยู่ในทั้งยางหน้าและหลัง เพื่อเพิ่ม Slick Area หรืออัตราส่วนของเนื้อยาง ให้มียางโล้นๆสัมผัสพื้นถนนมากขึ้น
ลาย FLASH หรือลาย “สายฟ้า” จะกระจายตัวอยู่ในส่วนกลางของทั้งยางหน้าและหลัง ซึ่งลายยางที่ออกแบบใหม่จะช่วยให้การสึกของยางเป็นไปได้อย่างเท่าเทียม โดยไม่ลดประสิทธิภาพของการรีดน้ำขณะรถตั้งตรง
ส่วนลายยางด้านข้าง จะมีความยืดหยุ่น เพื่อ ให้การรีดน้ำได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยให้ยางเมื่อต้องเข้าโค้งบนพื้นเปียกเมื่อเปรียบเทียบกับยางรุ่นก่อน ยางหน้าจะมีอัตราส่วนของเนื้อยาง/ลายยาง (Void/fiFill Ratio) ลดลงถึง
30%
และด้านข้างที่เพื่ม Slick Area ให้กว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อเข้าโค้งด้วยมุมองศา 35˚ เป็นต้นไปจะเกาะถนนมากขึ้นตรงกันข้ามกับยางหลังที่ ช่วงกลางของยางจะมีอาตราส่วนของ เนื้อยาง/ลายยาง น้อยกว่ายางหน้า เพื่อให้มีเนื้อยางเกาะถนนได้มากกว่าในขณะที่ขี่ทางแห้ง
ทำให้ยางสึกช้าลงเและสึกคงที่กว่าเดิม จากการที่มีพื้นที่สัมผัสของยางในวงกว้างขึ้น ส่วนด้านข้างจะลายยางถี่กว่ายางหน้า รองรับการรีดน้ำ ลดอาการที่ยางหลังไถล เมื่อต้องเข้าโค้งในทางเปียกลายยางจะส่งผลสูงสุดในทางเปียกโดยที่ ROSSO IV จะใช้ยางหน้าในการทำหน้าที่หลักสำหรับการรีดน้ำ ส่วนเรื่องการยึดเกาะจะเป็นหน้าที่หลักของยางหลัง
โครงสร้าง
รูปแบบของโครงสร้างจะใช้เทคโนโลยีเดียวกับยางในการแข่งขันคือ zero-degree steel belt ที่โครงสร้างยางให้ความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวเข้ากับย่านความเร็วต่างๆ ได้
ในยางหน้า ROSSO IV จะใช้ชนิดของโครงสร้างใหม่คือ Rayon โครงสร้างชนิดนี้จะมีความแข็ง (Stiffness) แต่มีความหนาแน่นที่ต่ำกว่า ทำให้สามารถเพิ่มเนื้อยางลงไปได้มากขึ้น ผลลัพธ์คือยางหน้าจะซับแรงกระแทกบนพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้ดีกว่า
อาการสั่นสะเทือนที่ส่งผลมายังผู้ขับขี่ลดลง ลดการบิดตัวของรูปยาง และยังช่วยให้โปรไฟล์ยางทำงานได้ดีขึ้นสำหรับยางหลังในไซส์ 190/55ZR17 ขึ้นไป จะเสริมโครงสร้าง Lyocell ช่วยลดการ Deform หรือผิดรูปของยาง
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับยางที่ใช้ในการแข่งขัน FIM Superbike World Championship โดยที่ยางจะ “คงรูป” ได้ดีกว่าในขณะที่กระแทกคันเร่งแรงๆเพื่อทำความเร็วในการออกโค้ง รองรับกับขนาดกำลังเครื่องยนต์ที่มากกว่า 200+ hp ในปัจจุบันส่วนยางหลังตั้งแต่ไซส์ที่เล็กกว่า 190/50ZR17 ลงมา จะใช้โครงสร้าง Rayon แบบเดียวกับยางหน้า เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้ายาง ROSSO IV จะมีความแข็ง (Stiffness) เพิ่มขึ้น
ก็เป็นข้อมูลของยางก่อน คราวหน้าจะมารีวิวหลังได้ใช้งานว่ารู้สึกอย่างไร แต่ถ้าใครสนใจก็ไม่ต้องรออ่านครับ ไปเปลี่ยนได้เลย จ๊าบแน่นอน!!
รีวิว Honda Rebel 1100 เกียร์ DCT
คลิป รีวิว 2022 Honda Rebel 1100
รีวิว 2022 NC750X
คลิปรีวิว 2022 Honda NC750X
รีวิว NEW CBR500R กดเวลาที่สนามช้าง
รีวิว New CB500X โช้คกลับ ดิสก์คู่
คลิป รีวิว CRF1100L Africa Twin ทั้ง DCT และ MT
คลิป รีวิว CBR250RR SP