ทางเรามีโอกาสได้เยี่ยมชมการทำงานของผู้สนับสนุนอย่าง “ไดนีส” ที่เป็นผู้ดูแลอุปกรณ์เซฟตี้ต่างๆให้นักแข่ง รวมไปถึงหมวกชื่อดังอย่าง “AGV” ที่นักแข่งใช้สวมในการแข่งขัน
โดยทางผู้ดูแลได้อธิบายให้ฟังว่า การผลิตชุดของนักแข่งแต่ละคนนั้นมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน โดยจะต้องผลิตตามรูปแบบของกายภาพนักแข่งคนนั้นๆเพื่อความปลอดภัยที่สูงสุด และเมื่อนักแข่งได้ใช้อุปกรณ์ต่างๆเรียบร้อยแล้ว ทางทีมช่างผู้ดูแลทีมจะนำชุดมาส่งให้กับทางทีม ”ไดนีส”ได้ดูแล โดยภายในชุดนั้นก็จะมีทั้งแอร์แบ็กรวมถึงการฝังชิปในชุดนักแข่งเพื่อบันทึกข้อมูลให้ทางทีมงานสามารถนำไปวิจัย พัฒนาความปลอดภัยของชุดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เมื่อชุดมาถึงแล้วอันดับแรกคือการนำชุดแข่งเข้าตู้อบในอุณหภูมิที่ 30-33 องศา เป็นเวลาประมาณ 30 นาที เพื่อทำการฆ่าเชื้อเนื่องจากเวลาที่นักแข่งได้สวมใส่ลงไปทำการแข่งขันจะมีทั้งคราบเหงื่อและสิ่งสกปรกติดอยู่ภายในชุดแข่ง ในภาพแรกชุดที่อยู่ในตู้คือชุดของนักแข่งชื่อดังจากทีม Mooney VR46 คือ “ลูก้า มารินี่” และคู่หู “มาร์โค เบซเซ็คคี” เมื่อเสร็จแล้วก็จะนำออกมาเช็คสภาพว่ามีความพร้อมในการใช้หรือไม่ บางชุดมีการสึกหรอจากการล้มของนักแข่ง ทางทีมก็จะนำมาซ่อมแซมหรือบางตัวก็ต้องเก็บไว้เพื่อนำไปศึกษาพัฒนา จากนั้นจึงนำออกมาเพื่อเปลี่ยนแผ่นสไลด์ที่เข่าและข้อศอกเป็นแผ่นใหม่
นอกจากนี้ทางทีมงานยังได้โชว์แผ่นหลังของชุดที่มีไว้เพื่อเก็บน้ำในอุปกรณ์นั้นมีทั้งแอร์แบ็กและชิปอยู่ด้วย โดยวิธีการเติมน้ำดื่มที่แท็งค์หลังชุด จะมีอุปกรณ์ที่ลักษณะคล้ายไซริงค์ขนาดใหญ่เชื่อมกับสายยางและดูดน้ำจากขวดน้ำดื่ม จากนั้นจึงนำไปต่อกับจุกน้ำในแท็งค์ แล้วจึงค่อยๆกดน้ำไปจนหมด จึงพร้อมใช้งาน
ส่วนของฝากที่ได้มานั้นคือ สไลด์เข่าของนักบิดรุ่นโมโต3 อย่าง “ดาบิด มุโยส” หลังจากที่เขาพลาดล้มในรอบการแข่งขัน
