All New 2018 Honda Goldwing
Is Lighter, More Compact, and Sportier Than Ever
Honda Goldwing 2018 ปรับเปลี่ยนโฉมใหม่หมดทั้งคันแบบ All New เป็น Generation ที่6 ต่อจาก Generation ที่ 5 ที่อยู่มา 17 ปี และเป็นรถ Touring หรือต้องเรียกว่า Luxury Touring ระดับเรือธงหรืออยู่ตำแหน่งสูงสุดใน Segment นี้ของค่ายฮอนด้าที่มีสายการผลิตยาวนานกว่า 40 ปี
Honda Goldwing2018 ออกมาให้เลือก 2 รุ่น 2 ระบบเกียร์ คือ Goldwing รุ่นที่ไม่มี Top
Box หรือกล่องหลัง มีแต่ Side Box 2 ข้าง (แบบเดียวกับ F6B เดิม) และ Goldwing Tour
ที่กล่องหลังมาเต็มรูปแบบของ Goldwing โดยทั้ง 2รุ่นจะมีทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและรุ่นที่เป็นเกียร์ DCT
สำหรับรุ่นที่ Honda Bigwing ประเทศไทยนำเข้ามาจะเป็นรุ่น Goldwingที่มีกล่องหลังหรือ Top Box รุ่นเดียว แต่มีให้เลือกได้ว่าจะเอาเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์DCT ส่วนรุ่นที่ไม่มี Top Box แบบ F6B ยังไม่มีเข้ามาให้สัมผัสนะครับเครื่องยนต์ 6 สูบ 1,833 ซีซี เครื่องยนต์แบบ Flat Engine หรือสูบนอนยังขนาด 6 สูบเป็นเอกลักษณ์ประจำรุ่น จุดเด่นคือเป็นเครื่องยนต์ 6 สูบแต่มีขนาดกะทัดรัด ประหยัดเชื้อเพลิง และน้ำหนักเบาการเปลี่ยนแปลงของโฉม 2018 คือกระบอกสูบมีขนาด 73 มม. เพลาข้อเหวี่ยงปรับใหม่ใช้ 4 วาล์วต่อสูบ SOHC ระบบกดวาล์วแบบคานโยก Unicamเเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธ์ของฮอนด้า
พิสูจน์จาก Honda CRF450R รถสายรอบจัดให้การเผาไหม้ดีขึ้น กระโปรงลูกสูบคลือบMolybdenum ลดแรงเสียดทานให้กำลังสูงสุดที่ 125 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตรที่ 4,500รอบ/นาที อัตรากำลังอัดที่ 10.5:1 ห้องเผาไหม้ออกแบบใหม่ 4 วาล์ว ในชื่อ “Pentroof”แทนที่แบบ 2 วาล์วเดิมในชื่อ “Bathtub” เพลาข้อเหวี่ยงสร้างจากเหล็กกล้ารหัสSCM440H จะมีระยะสั้นกว่าเดิมที่ 33.5 มม.เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เดิม เซ็นเซอร์แคร้งเครื่องยนต์ เพื่อตรวจจับความเร็ว ตำแหน่ง ของลูกสูบ เพื่อการจุดระเบิด EFI) ถูกบย้ายไปติดตั้งที่ด้านหลังเครื่องยนต์เพื่อลดระยะห่างของฝาเครื่องและเพลาข้อเหวี่ยงได้ถึง 7 มม.
คันเร่งไฟฟ้า Throttle By Wire (TBW) ถูกติดตั้งในปี 2018ทำงายเกี่ยวเนื่องกับโหมดขับขี่ 4 Molybdenum ลดแรงเสียดทานให้กำลังสูงสุดที่ 125 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตรที่ 4,500รอบ/นาที อัตรากำลังอัดที่ 10.5:1 ห้องเผาไหม้ออกแบบใหม่ 4 วาล์ว ในชื่อ “Pentroof”แทนที่แบบ 2 วาล์วเดิมในชื่อ “Bathtub” เพลาข้อเหวี่ยงสร้างจากเหล็กกล้ารหัสSCM440H จะมีระยะสั้นกว่าเดิมที่ 33.5 มม.เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เดิม เซ็นเซอร์แคร้งเครื่องยนต์ (เพื่อตรวจจับความเร็ว ตำแหน่ง ของลูกสูบ เพื่อการจุดระเบิด EFI) ถูกบย้ายไปติดตั้งที่ด้านหลังเครื่องยนต์เพื่อลดระยะห่างของฝาเครื่องและเพลาข้อเหวี่ยงได้ถึง 7 มม.คันเร่งไฟฟ้า Throttle By Wire (TBW) ถูกติดตั้งในปี 2018ทำงายเกี่ยวเนื่องกับโหมดขับขี่ 4
โหมดที่ปรับเปลี่ยนลักษณะการทำของเครื่องยนต์เชื่อมโยงกับระบบควบคุมแรงบิด
Honda Selectable Torque Control (HSTC) สัมพันธ์ไปถึงค่า Damping ของโช้คอัพ
และระบบเบรก Dual Combined Brake System (D-CBS) 4 โหมดการขับขี่Tour : เป็นค่าพื้นฐาน ที่ให้ทั้งความสบายและพลังในการขับขี่ Throttle by wire ส่งกำลังได้100% ส่วนค่า Damping และระบบกระจานแรงเบรกเบรก D-CBS จะเป็นค่ากลางหรือค่าเริ่มต้น
Sport : จะเป็นการตอบสนองสูงสุดของ Throttle by wire และชุดลิ้นปีกผีเสื้อให้อัตราเร่งที่รุนแรง การคืนตัวของโช้คอัพหรือ Damping จะช้ากว่าเดิมหรือเฟิร์มแน่นหนึบกว่าเดิม
Econ : ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้สูงสุด เหมาะกับการเดินทางไกลการตอบสนองของ TBW และชุดลิ้นปีกผีเสื้อต่ำ ขับขี่ได้ง่ายช่วงล่างและเบรกตอบสนองอย่างนุ่มนวล
Rain : อัตราการตอบสนองของคันเร่งและชุดลิ้นปีกผีเสื้อต่ำที่สุดป้องกันการลื่นหรือล้อไลด์ การกระจายแรงเบรกเต็มระบบระบบกันสะเทือนนุ่มนวลที่สุดชุดลิ้นปีกผีเสื้อ Throttle body เป็นแบบคู่ Dual Throttle bodyมีการเปลี่ยนเส้นผ่าศูนย์กลางและความหนาใหม่ เพื่อลดแรงต้านทานโครงสร้างภายในออกแบบให้เหมาะสมกับแรงดันไอดีที่ต่ำช่วยให้การใช้การคอนโทรลคันเร่งในรอบเครื่องยนต์ต่ำๆ ได้อย่างดีขึ้น Idling Stop & Hill Start Assist
All New Goldwing ยังมีระบบ Idling Stop ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อจอดติดเครื่องยนต์ 3
วินาที เช่นการติดไฟแดง พร้อม Integrated Starter Generator (ISG)ที่จะช่วยให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ที่เงียบและนุ่มนวลเป็นพิเศษ และระบบ Idling Stopสามารถปิดเปิดระบบได้ตามต้องการที่สวิทซ์แฮนด์ด้านขวาHill Start Assist (HSA)เป็นตัวช่วยตอนจอดนิ่งและออกตัวบนเนินชันระบบจะมีการอ่านค่าความชนและเมื่อบีบเบรกที่มีตัวปรับแรงดันไฟฟ้าและระบบ ABS จะดันเบรกหลังค้างไว้เมื่อปลดเบรก เบรกหลังจะหน่วงแรงเบรกหลังไว้ 3 วินาที
เพื่อเปิดคันเร่งขึ้นทางชันหรือขึ้นเข้าสามารถใช้คันเร่งและเพิ่มรอบเครื่องยนต์ให้ออกตัวขึ้นเนินไปได้อย่างปลอดภัยและนุ่มนวลDual Clutch Transmission DCTระบบส่งกำลังมีทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและ เกียร์ DCT (Dual Clutch Transmission)7 สปีด เป็น Generation ล่าสุดที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นรุ่นแรกที่มี 7 สปีดเพื่อการเดินทางไกลที่ดีขึ้นและยังมีความราบลื่นฉับไว ชุดคลัทช์จะแบ่งเป็น 2 ชุดชุดแรกตัดต่อกำลังของเกียร์ 1, 3, 5 และ 7 ชุดที่ 2 ทำหน้าที่ตัดต่อเกียร์ 2, 4 และ 6ชุดคลัทช์จะถูกควบนคุมด้วยระบบไฟฟ้า ผลคือการเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วขึ้นนุ่มนวลกว่าเดิม ชุดคลัทช์และเกียร์มีขนาดกะทัดรัด มีความทนทานมากขึ้น พร้อม Assist and slipper clutch เป็นมาตรฐาน
นอกจากนี้ยังมี Walking Mode สำหรับรถที่ใช้ระบบ DCTคือการเดินหน้าหรือถอยหลังที่ควบคุมกำลังและเกียร์ด้วยชุดคลัทช์โดยระบบจะไม่เปลี่ยนเกียร์ สามารถใช้ได้สะดวกเบาแรงปลอดภัยกว่าการออกแรงเข็นเองไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลังแบบคนละเรื่องChassis & Suspensionน้ำหนักโดยรวมของ All New Honda Goldwing เบากว่าโฉมเดิมถึง 48 กิโลกรัมใช้เฟรมแบบ die-cast aluminium twin beam frame หิ้วเครื่องยนต์ขนาดกะทัดรัดระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Double wishbone เหน็บโช้คอัพเดี่ยวไว้ตรงกลางเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ Honda มีการทำงานที่สมู้ทกว่าเดิมถึง 30%โดยแฮนด์จะเชื่อมต่อกับ Dual fork holdersโดยระบบกันสะเทือนนี้กับรถสไตล์นี้ให้การทำงานที่มั่นคงกว่าโช้คอัพแบบเดิมเลี้ยวหรือบังคับแฮนด์ได้ง่ายและเป็นธรรมชาติ
ซึ่งฮอนด้าก็ได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้ไว้เรียบร้อยแล้วกันสะเทือนหลังเป็นโช้คอัพเดี่ยวมีระบบ Pro-Link เชื่มต่อหรือทำงานร่วมกับ Pro-Armที่เป็นเพลาขับในตัว ซึ่งโช้คอัพหลังจะมีการปรับ Damping ด้วยด้วยระบบไฟฟ้าสามารถปรับตั้งได้ 4 รูปแบบการใช้งาน คือ ขี่คนเดียว, ขี่คนเดียวพร้อสัมภาระ,ขี่พร้อมผู้ซ้อน, ขี่พร้อมผู้ซ้อนและสัมภาระเต็มระบบการตั้งค่าทำได้ง่ายๆด้วยสวิทซ์แฮนด์และจะแสดงผลที่จอ TFT
นอกจากนี้ Goldwing 2018 ยังบรรจุไปด้วยเทคโนโลยีสุดทันสมัยแห่งยุค อาทิ
Cruise-control, Smart Key, Vehicle Viewfinder, Tire Pressure Monitoring Systemบอกแรงดันยางแบบเรียลไทม์, เชื่อมต่อ Apple CarPlay™ และสามารถใช้ SIRI ได้ หน้าจอTFT 7 นิ้ว Multifunction สามารถชมตัวจริงพร้อมจับจองได้แล้วที่ Honda BigWing ทั่วประเทศไทย