เมื่อผมได้ขี่ King of Motorcycle หรือ ราชาแห่งมอเตอร์ไซค์ คำจำกัดความจากฮอนด้าเองหรือแม้แต่นักบิดเดินทางไกลเองที่ได้บัญญัติให้แก่ Honda Goldwing GL1800 รถ Grand Touring ขนาดใหญ่ที่มีทั้งดีไซน์ เทคโนโลยีทันสมัย และความสะดวกสบายอยู่ในคันเดียว กับระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร จะเป็นอย่างไร มาเริ่มกันเลย
ยาวนาน 44 ปี กับ 17 ปีที่ไม่เปลี่ยนโฉม
Honda Goldwing มีสายการผลิตมายาวนาน ถ้านับตั้งแต่ที่พัฒนาเครื่องยนต์ 6 สูบใน 1972 จนปี 1975 ก็เป็นปีแรกที่ Goldwing ออกสู่ตลาด(เครื่อง Flat Engine 4 สูบ) จนถึงปี 2019 นี้ก็ครบ 44 ปี ผมจะไม่เล่าถึงโฉมในแต่ละปี(ยาวไป๊) แต่จะเริ่มหรืออาจจะเปรียบเทียบกับโฉมก่อนหน้านี้ คือโฉมปี 2001 – 2017 และเป็นโฉมแรกที่ Honda Bigwing เริ่มนำมาทำการตลาดในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ มีการส่งมอบรถพร้อมๆ การเปิดศูนย์ Honda Bigwing แห่งแรกในประเทศไทย สาขาเลียบทางด่านเอกมัย-รามอินทรา หรือ ถนนถนนประดิษฐ์มนูธรรม กทม.
และก่อนหน้านี้ผมก็ได้ Honda Goldwing ปี 2015 โฉมที่ว่านี่มาขี่ทดสอบ และยังเป็นตัวพิเศษครบรอบ 40 ปี Honda Goldwing อีกด้วย(Link รีวิวท้ายเรื่อง) ซึ่งเป็นรถส่วนตัวของท่านเจ้าของศูนย์ Honda Bigwing พระราม 5 ก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งครับ นับเป็นเวลา 17 ปีที่ Honda Goldwing ไม่เคยเปลี่ยนโฉมจนกระทั่งถึงปี 2018
2018 All New Honda Goldwing GL1800
ปี 2018 เป็นการเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งหมดแบบ All New ผมได้ยลโฉมครั้งแรกช่วงปลายปี 2017 ที่งานโตเกียวมอเตอร์โชว์ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผมได้รับเกียรติร่วมเดินทางไปกับ เอ.พี.ฮอนด้า และงานโตเกียวมอเตอร์โชว์นี้จะมีจัดทุกๆ 2 ปี และ Honda Goldwing ก็เป็นไฮไลท์ของรถ bigbike ในปีนั้นๆ และจากวันนั้นผมก็เฝ้ารอที่จะได้สัมผัสสุดยอดรถทัวร์ริ่งนี้ซักครั้ง
จากวันนั้นจนถึงวันที่ผมรอก็มาถึง ผมไปรับ All New Honda Goldwing รถทดลองขี่จาก Honda Bigwing กรุงเทพฯ เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ซึ่งผมและ MotoMotion ได้รับมาเพื่อทำการทดสอบเป็นสื่อฯ เดี่ยว รายที่ 2 ของประเทศไทย(ต่อจากคุณภูริ หิรัญพฤกษ์) ก็ต้องขอขอบคุณ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ที่มอบความไว้วางใจใน MotoMotion ครับ อ้อ และคันนี้เป็นเกียร์ธรรมดานะครับ
เริ่มบททดสอบ
อย่างแรกเลยที่ต้องเรียนรู้คือเรื่อง Smart Key หรือระบบกุญแจ Keyless ครั้งแรกบน Goldwing และมีความพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆ นะ การจะสตาร์ทรถ เราต้องพกตัวกุญแจให้ใกล้ตัวรถเหมือนกับระบบ Keyless ทั่วไป ปุ่ม On จะเป็นปุ่มสีดำกลมๆ ใต้เรือนไมล์ กลางคอลโซน ต้องหมุนที่ปุ่มนี้ก่อนถึงจะกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ และปุ่มเดียวกันนี้ก็ใช้บิดเพื่อล็อคคอเวลาจอดอีกด้วย ความพิเศษอีกอย่างของกุญแจ Keyless ของ Goldwing คือใช้เปิดกล่องสัมภาระทั้ง 3 ใบได้เมื่อเราอยู่ใกล้ โดยเราสามารถกดปุ่มเปิดที่กล่องสัมภาระได้เลยไม่ต้องไขปลดล็อค และเมื่อปิดกล่องสัมภาระไม่สนิทจะมีแจ้งเตือนเป็นกราฟฟิคบนหน้าจอ LCD ด้วยนะ
ผมขี่ออกจาก Honda Bigwing กรุงเทพฯ เพื่อกลับมาบ้าน ด้วยความที่เป็นรถขนาดใหญ่ ตำแหน่งท่านั่ง และระบบกันสะเทือนแบบใหม่ ทำให้ต้องปรับตัวกันเล็กน้อย จะมีแต่ระบบกันสะเทือนแบบ Double Wishbone ที่ด้านหน้าที่ต้องทำความเคยชินกับความรู้สึกต่ออีกนิด และนี่ก็เป็นอีกไฮไลท์ เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดบนรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เป็นรุ่นแรกที่ใช้กันสะเทือนแบบ Double Wishbone โดยจะมีโช้คอัพ Showa ขนาดใหญ่ตัวเดียววางซับแรงอยู่ตรงกลาง ดีไหม? อ่านต่อสิ
2,000 กิโลเมตร กำลังดี
รถที่ได้ชื่อว่าเป็น King เรื่องการเดินทาง ระยะทางที่ใช้ก็ควรจะให้สมศักดิ์ ผมเลือกที่จะเดินทางไป จ. น่าน และวนรอบน่าน 1 รอบ แล้วขี่กลับเลย เอ๊ย ไม่ใช่สิ!! รถน่ะไหว แต่คนขอพักก่อน และด้วยเวลา 2 วัน 1 คืน ก็ต้องค้างสิครับ
ตี 5 ผมขี่ All New Honda Goldwing ออกจากที่พักย่านลาดพร้าว ไฟหน้า ไฟท้าย สว่างไสวอลังการ จน รปภ. คอนโดต้องรีบเปิดไม้กั้นให้ผมออก อาจจะเกรงด้วยขนาดของยานแม่ลำนี้จะผ่านออกช่องที่เว้นให้มอเตอร์ไซค์ออกไม่ได้ เครื่องยนต์แบบ Flat Engine ขนาด 6 สูบ ส่งเสียงคำรามผ่านท่อไอเสียออกมาในย่านความถี่ต่ำ หนักแน่น ซ่อนไว้ด้วยพละกำลังมหาศาล
เครื่องยนต์ 6 สูบใหม่ทั้งหมด
เครื่องยนต์ยังเป็นแบบ Flat Engine หรือแบบ “นอนยัน” ซ้ายขวาฝั่งละ 3 สูบรวม 6 สูบ ขนาด 1,833 ซีซี. คือที่เห็นยื่นๆ นั่นก็คือฝาวาล์วนั่นเอง ระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยเครื่องยนต์ใหม่จะเป็น 24 วาล์ว(เดิม 12 วาล์ว) พร้อมเทคโนโลยี Unicam มีพอร์ทวาล์วดีไซน์แบบ “Pentroof” ช่วยให้การไหลเข้า-ออกของไอดีและไอเสียได้ดีกว่าเดิม ลูกสูบอลูมิเนียมเคลือบโมลิบดีนั่มลดแรงเสียดทาน
เพลาข้อเหวี่ยงสั้นลงผลิตจากเหล็กเกรด SCM440H ระยะออฟเซ็ตของจุดหมุน – 4 มม. จากเดิม ทำให้เครื่องยนต์มีขนาดสั้นลงกว่าเดิม เซ็นเซอร์เพลาข้อเหวี่ยงที่ทำหน้าที่ตรวจจับความเร็วของเครื่องยนต์และตำแหน่งของลูกสูบเพื่อให้ EFI สั่งการจุดระเบิดอีกที เซ็นเซอร์ตัวนี้ถูกย้ายไปอยู่ด้านหลังเครื่องยนต์ช่วยลดระยะห่างระหว่างฝาครอบและเพลาข้อเหวี่ยงลงไปถึง 7 มม.
เครื่องยนต์ใหม่ยังได้รวมมอเตอร์สตาร์ท ISG (INTEGRATED STARTER GENERATOR) ไว้กับเครื่องยนต์ด้วย นอกจากมอเตอร์สตาร์ทชุดนี้จะมีน้ำหนักที่เบามากแล้ว พลังการสตาร์ทยังมากมายแต่แตะๆ ก็ติด แถมเสียงยังเงียบซะด้วย
125 ม้า กับ 170 นิวตันเมตร
โดยรวมเครื่องยนต์มีขนาดกะทัดรัดกว่าเดิม เบากว่าเดิมถึง 6.2 กิโลกรัม ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที มีอัตรากำลังอัดที่ 10.5:1 จะเห็นได้ว่ารอบเครื่องยนต์ต่ำมาก กำลังและแรงบิดมาในรอบต่ำๆ ตามขนาดเครื่องยนต์และสไตล์รถ
ระบบอิเล็กทรอนิกส์และฟีเจอร์ท่วมคัน
นอกจากดีไซน์ภายนอก เครื่องยนต์ ช่วงล่างที่ใหม่ทั้งหมดแล้ว สิ่งที่จะขาดไม่ได้คือระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงฟีเจอร์ที่จะช่วยให้การขับขี่สมบูรณ์แบบและเต็มไปด้วยความปลอดภัยมีอะไรบ้างมาไล่ดูกันก่อนเลย
- Throttle By Wire พร้อมโหมดขับขี่ 4 โหมด Tour, Sport, Econ และ Rain
- HSTC (Honda Selectable Toque Control) ระบบควบคุมแรงบิดเอกสิทธิ์ของฮอนด้า เปิด-ปิดการทำงานได้ (หรือ Traction Control นั่นแหล่ะ)
- HSA (Hill Start Assist) ตามชื่อเลย คือระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- Cruise Control อันนี้ก็ไม่ต้องบิดคันเร่ง เลือกความเร็วที่ใช้ได้ หยุดการทำงานได้ฉับไว
- Smart Key (Keyless) ไม่ต้องเสียบกุญแจแล้ว และยังใช้เปิดกล่องสัมภาระทั้ง 3 ใบได้โดยไม่ต้องเสียบกุญแจด้วย
- Vehicle Viewfinder system หาตำแหน่งรถของเราได้
- Tire Pressure Monitoring บอกแรงดันลมยางแบบ Real Time
- ช่วงล่าง(Preload โช้คหลัง) ปรับไฟฟ้าเลือกได้ 4 แบบคือ ขี่คนเดียว, ขี่คนเดียวมีสัมภาระ, ขี่มีผู้ซ้อน, ขี่มีผู้ซ้อนมีสัมภาระ
- Apple CarPlay รุ่นแรกครั้งแรกในรถจักรยานยนต์ เชื่อมต่อ Iphone ใช้งาน Apple map ได้ Apple Music และอื่นๆ
- Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟังไร้สายสำหรับติดต่อสื่อสาร
- มีระบบ Navi นำทาง
- หน้าจอ TFT มัลติฟังก์ชั่น ขนาด 7 นิ้ว
- ชิลด์บังลมหน้าปรับสูง-ต่ำไฟฟ้า มีระยะ 4.9 นิ้ว
- Heated Grip และ Heated Seat ของผู้ซ้อน เลือกระดับความร้อนได้
- เกียร์ถอยหลังความเร็วต่ำ กดใช้งานง่ายๆ ได้ที่สวิทซ์แฮนด์ด้านซ้าย
- D-CBS with ABS (Dual Combined Braking System with ABS) ระบบกระจายแรงเบรกทำงานร่วมกับระบบ ABS
- มัลติมีเดีย วิทยุ ลำโพง 4 ตัว
- ไฟ LED รอบคัน แตรก็ดังไกล
- ช่องต่อ USB สำหรับ Gadget ภายนอก
DCT หรือ MT พร้อมเกียร์ถอยหลัง
All New Honda Goldwing มีให้เลือก 2 รุ่นหลักๆ คือ รุ่นที่เป็นระบบเกียร์แบบ DCT (Dual Cluth Transmission) 7 สปีด กับรุ่นเกียร์ MT(Manual) หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด โดยทั้ง 2 รุ่นจะมีเกียร์ถอยหลังติดตั้งมาด้วย ซึ่งเกียร์ถอยหลังมีให้มาตั้งแต่โฉมก่อนหน้านี้แล้ว รถใหญ่และหนักขนาดนี้ควรมี เวรี่กู้ด!
ราคา All New Honda Goldwing เกียร์ธรรมดาอยู่ที่ 1,150,000 บาท และเกียร์ DCT อยู่ที่ 1,280,000 บาท
แชสซีก็ใหม่ ใกล้ชิดกว่าเดิม(ล้อหน้า)
แชสซีแบบ Aluminum twin-spar frame ใหม่ทั้งหมด มีความกะทัดรัดและแข็งแรงกว่าเดิม ปรับให้ตำแหน่งการนั่งขับขี่เยื้องไปด้านหน้ารองรับกับระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone ที่ตัวผู้ขับขี่จะเขยิบไปใกล้กับล้อหน้ามากขึ้น
ใหม่สุดๆ กับช่วงล่างแบบ Double Wishbone และ Pro-Arm
ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Double Wishbone เหมือนในรถยนต์ เป็นแขนและกระเดื่องที่เชื่อมต่อกับเฟรมโดยจะมีตัวโช้คอัพ Showa ขนาดใหญ่ซับแรงอยู่ตรงกลาง ชุดกันสะเทือนทั้งหมดจะไม่เชื่อมตรงมายังตุ๊กตาแฮนด์เหมือนแผงคอรถทั่วๆไป เมื่อเราเลี้ยวรถจะมีแขนเล็กๆ 2 ข้างบังคับเลี้ยวให้ชุดกันสะเทือนทั้งระบบเลี้ยวตาม
กันสะเทือนหลังเป็นโช้คอัพเดี่ยวทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแขนเดียวหรือในชื่อ Pro Arm เป็นเทคโนโลยีและชื่อที่ฮอนด้าเป็นผู้บัญญัติขึ้นนานมาแล้ว ถือเป็นครั้งแรกใน Honda Goldwing เชื่อมต่อแบบ Pro Link กับโช้คอัพเดี่ยวปรับไฟฟ้า ล้อยางหน้าขนาด 130/70R18 ล้อยางหลังขนาด 200/55R16 ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 21 ลิตร มีน้ำหนักตัวรวม 380 กิโลกรัม
ขี่ไปน่านกันต่อ
บอกกันอีกครั้งว่า All New Honda Goldwing ที่ผมได้มาทดสอบนี้เป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดนะครับ และด้วยข้อมูลทางเทคนิคทุกโหมดขับขี่นอกจากการตอบสนองของกำลังและคันเร่งต่างกันยังเชื่อมโยงอัตรากำลังเบรกหน้าและหลังด้วยนะ
ผมเริ่มที่โหมด Tour ตั้งแต่รับรถมาจาก Honda Bigwing และอย่างที่บอกไว้ในตอนต้น การปรับตัวเข้าหา Goldwing ที่ใช้เวลาหน่อยจะมีเพียงความรู้สึกของระบบกันสะเทือนหน้าที่ให้ฟิลลิ่งแปลกใหม่ที่ต่างจากโช้คอัพแบบธรรมดา รวมถึงขนาดตัวที่ใหญ่โต แต่ทั้งหมดไม่ใช่อุปสรรคเลยนะ มันเป็นยักษ์ใหญ่ที่ขี่ง่ายมากๆ และเป็นจุดเด่นของ Honda Goldwing
จากประสบการณ์ที่ผมเคยขี่โฉมปี 90 เครื่องยนต์ 1,500 ซีซี จนมาโฉมก่อนหน้านี้และมาถึง โฉม All New ในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเครื่องมีปริมาตรที่ใหญ่ขึ้นมีกำลังมากขึ้น กลับมีความคล่องตัวสูงกว่าเดิมมาก ด้วยตำแหน่งท่านั่งที่เข้าใกล้แฮนด์ละล้อหน้ามากขึ้นทำให้การเลี้ยวรถขนาดใหญ่แบบนี้ง่ายและคล่องตัว
ช่วงล่างที่เป็น Double Wishbone ที่มีการเชื่อมโยงของแฮนด์แยกจากชุดกันสะเทือน เลี้ยวได้เบาแรงครับ ช่วงล่างมีความไวในการซับแรง จะมองเห็นชุดแขนกระเดื่องบังคับเลี้ยวที่ต่อจากตุ๊กตาแฮนด์ “เด้ง” ตามความขรุขระของผิวถนนตลอดเวลา ซับแรงกระทำได้เนียนกริ๊ป จึงทำให้เหมือนโซฟาวิ่งได้ที่แท้ทรู!!
ผมใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย) ไปแยกที่นครสวรรค์ ไปพิษณุโลก และใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 11 และ 101 มุ่งหน้าไป จ. น่าน การเดินทางผมใช้ความเร็วทั้งไปและกลับเฉลี่ยประมาณ 140-160 กม./ชม. จะมีช่วง พิษณุโลกถึงอุตรดิตถ์ที่ผมใช้ความเร็วยืนพื้นที่ 180 กม./ชม. ยาวติดต่อกัน อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 14.5 กม./ลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95
สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือเกือบทุกอย่างควบคุมได้ที่สวิทซ์แฮนด์ทั้งซ้ายขวา ไม่ว่าจะเป็นการปรับโหมดที่ขี่ไปเลือกใช้ไปได้เลย, การปิด-เปิดระบบ HSTC, การใช้งาน Cruise Control, เลือก Preload ไฟฟ้าที่โช้คหลัง, ปรับชิลด์บังลมหน้า, สวิทซ์เกียร์ถอยหลัง, ควบคุมระบบเครื่องเสียงฯ
185 กม./ชม. ที่ 4,000 รอบ
ความเร็วสูงสุดที่ผมทำได้คือ 185 กม./ชม. ที่ 4,000 รอบ/นาที ในเกียร์ 6 กำลังเครื่องยนต์สามารถไปได้อีก เหมือนกับว่าโดนตัดรอบไว้ อันนี้ต้องลองไปสอบถามกับทาง Bigwing เองนะครับ เพราะด้วยความเร็วขนาดนี้ก็เหลือเฟือมากๆ กับสไตล์ของรถและการใช้งาน ที่ความเร็ว 180+ รถให้ความนิ่ง ให้ความเสถียรได้น่าประทับใจ ช่วงล่างทำงานได้ดีเยี่ยม ผมปรับชิลด์บังผมจนสุด ลมที่จะมาปะทะถูกแหวกพ้นหมวกกันน็อคแทบทั้งหมด ชิลด์บังลมก็ไม่หลอกตามองได้ชัดและเคลียร์
โหมด Sport แตกต่างจากโหมด Tour จัดเจน การตอบสนองของเครื่องยนต์วัยรุ่นมาก มีความ Aggressive ดุดัน แถมซุ่มเสียงที่แผดออกมายังเปลี่ยนไป เร้าใจ ความจัดจ้านฟ้องด้วยรอบเครื่องยนต์บนเรือนไมล์ ตามด้วยแรง G ที่ดึงเราจากจุดหยุดนิ่งออกไป ผมลองเปลี่ยนเกียร์ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที ชั่วพริบตาก็ถึงความเร็วที่ 180 กม./ชม. ที่เกียร์ 4 กับรอบเครื่องยนต์ที่ 6,000 รอบต่อนาที เกียร์ 5 และ 6 ความเร็วไหลต่อได้อีกนิดถึง 185 อย่างที่บอก แต่รอบเครื่องยนต์จะตกลงไปตามลำดับ
ในโค้งก็ยังคอนเซ็ป “โซฟาวิ่งได้”
โค้งไฮสปีดต่อเนื่องหลายสิบโค้งแถวๆ อ.เด่นชัย All New Honda Goldwing ก็เข้าได้อย่างเนียนกริ๊ป สามารถเนียนคันเร่งใช้ความเร็วในช่วงโค้งได้ 120-140 กม./ชม. โดยที่ผมไม่ต้องจัดท่า แถมผู้ซ้อนท้ายยังจับ GoPro ถ่ายคลิปไปด้วยได้อย่างสบายๆ แต่…(รออ่านตอนท้ายนะ)
จุดหมายต่อจากตัวเมืองน่านคือ อ.บ่อเกลือ โดยไปทาง ดอยภูคา แล้ววนกลับทาง ถนนลอยฟ้า เส้นทางหมายเลข 1018 กลับเข้ามาในเมืองอีกที ตลอดเส้นทางเป็นโค้งแคบๆ ขึ้นลง-เขา Goldwing ก็พลิ้วคอนโทรลได้ดั่งใจคิด ให้เทียบผมว่าน่าจะขี่ง่ายแทบไม่ต่างจากบิ๊กสกู๊ตเตอร์เลยล่ะ ถึงแม้ความคล่องตัวจะน้อยกว่าก็ตาม เบรกทำงานได้ดีมากจนลืม “ลืม” ในที่นี้คือมันสั่งได้ ไว้ใจได้จนไม่มีจุดให้ต้องมาสนใจเลยจริงๆ
ลากยาวมากกว่า 300 กิโลเมตร โดยไม่ต้องเติมน้ำมัน
ขากลับ ผมเหลือบดูระยะ Trip A ที่ผมกดตอนเติมน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 280 กิโลเมตร คือขี่มา 280 กิโลเมตรโดยไม่ได้เติมน้ำมัน ในระหว่างออกจากตัวเมืองน่าน ซึ่งไม่มีปั้มน้ำมันเลยจนกว่าจะถึงแพร่ ผมเปลี่ยนมาลองใช้โหมด Econ การเร่งเครื่องยนต์หรือแซงจะ “จืดลง” แลกมาด้วยความประหยัด
ผมขี่ในความเร็วประมาณ 100-120 จนมาถึงปั้มน้ำมันที่ จ.แพร่ กับระยะทางของ Trip A ที่ 339 กิโลเมตร ซึ่งในจอ LCD ที่บอก Range ที่คำนวณน้ำมันในถังกับระยะทาง แจ้งว่ายังพอวิ่งไปได้อีกหลายสิบกิโลเมตรเลยทีเดียว เท่ากับผมขี่รวดเดียว 339 กิโลเมตรโดยไม่ได้เติมน้ำมัน แถมน้ำมันยังเหลือพอให้วิ่งได้อีกหลายสิบกิโลเมตร(ซึ่งผมไม่เสี่ยงไปอีกแน่นอน ฮ่า)
ถือว่าประหยัดมาก อย่าลืมว่านี่คือเครื่องยนต์ 6 สูบกับบอดี้ใหญ่ๆ แบกคนขี่แบกผู้ซ้อนและสัมภาระ ประหยัดกว่าโฉมเดิมที่ผมเคยขี่อย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของเครื่องเสียงให้เสียงดีใช้ได้เลยครับ ความดังของลำโพงแปรผันตามความเร็วเช่นเดียวกับโฉมก่อนหน้า ภาครับวิทยุคุณภาพดี ถ้าจำไม่ผิดเลยอยุธยาไปแล้วผมยังฟัง FM. 93 ได้ปกติ ชุดเครื่องเสียงที่มีจัดว่าฟิน
Impressive ประทับใจจนต้อง Recommend
จริงๆ แล้วระยะทางไป-กลับ กทม.- น่าน รวมขี่วนไป 1 รอบย่อมๆ มีระยะทางรวมเกือบๆ 1,600 กม.(จาก Trip B ที่ตั้งไว้ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง) แต่รุ่งขึ้นอีกวันผมมีโอกาสได้ขี่ร่วมขบวนกับตำรวจสันติบาลไปยัง จ.ชลบุรี เช้า-เย็นกลับ รวมระยะทางทั้งหมดก็ประมาณ 2,000 กิโลเมตรพอดี
เป็นรถ Grand Touring หรือ Luxury Touring ที่สมกับตำแหน่ง King of Motorcycle และสมกับการเปลี่ยนโฉมในรอบ 17 ปี ทั้งทางด้านดีไซน์ ช่วงล่าง เครื่องยนต์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทุกอย่างใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ระบบต่างๆ เข้าใจได้ง่าย ใช้งานได้สะดวก
โหมด Sport ตอบสนองได้เร้าใจเลยล่ะ สนุก อัตราเร่งกระชับ ฉับไวเด็ดขาด โปรดอย่าเทียบกับการลากรอบของรถสปอร์ตตัวพันนะ มันคนละอย่างกัน แต่เอาจริงๆ จากประสบการณ์ถ้าเดินทางไกลก็หนีกันไม่มากนักหลอก เขาจอดเราก็ตามมาไม่นานนัก แม้สปอร์ตพันจะวิ่งได้ 300 ก็ตาม แต่ความสบายผิดกันเยอะมาก
รวมถึงความ “เฟรซ” ของร่างกายเมื่อถึงจุดหมาย เพราะด้วยรถสไตล์นี้ที่เหมือนนั่งโซฟาเที่ยว ความอ่อนล้าจากการขี่รถเดินทางจึงน้อยมาก ยิงยาว 7-800 กิโลเมตรสบายๆ (แวะแค่เติมน้ำมัน) ยังสามารถเดินเที่ยวตลาดกลางคืนของจังหวัดนั้นๆ ได้สบายๆ
การที่เป็นรถขนาดใหญ่แต่กลับควบคุมได้ง่าย ขี่ง่ายของ Goldwing ผมให้เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ไปแล้ว แต่ความพิเศษของรุ่นใหม่นี้คือการออกแบบให้ตัวผู้ขับขี่เลื่อนไปด้านหน้ามากขึ้น ทำให้การคอนโทรลรถขนาดใหญ่แบบนี้ดียิ่งขึ้นไปอีก เบรกดีมาก ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากที่สุดของ Goldwing จากที่ผมเคยขี่มา 3 โมเดล
ที่อ่านมามีข้อดีล้วนๆ แต่ผมมีข้อสังเกตให้นะ คือ
- อย่างแรกคือกล่องสัมภาระทั้ง 3 ใบเล็กกว่าเดิม ดีไซน์ภายในเล็กลงโดยเฉพาะตัว Top Box เพราะด้วยดีไซน์โดยรวมของรถที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าโฉมก่อนนั่นเอง
- การย้ายตำแหน่งผู้ขับขี่มาด้านหน้ามากขึ้นได้ในเรื่องการควบคุมรถที่ดีกว่าเดิม แต่การเลี้ยวโค้งเร็วๆ หรือลึกๆ ฝาเครื่องยนต์จะครูดพื้นง่ายมาก โดนก่อนพักเท้าจะโดนซะอีก ถ้ามาเร็วๆ และเข้าลึกมากเมื่อโดนจะมีเสียจังหวะนิดหน่อย แต่ฮอนด้าคงรู้อยู่แล้วจึงติดตั้งการ์ดฝาเครื่องในตำแหน่งที่จะโดนพื้นมาให้จากโรงงาน โฉมก่อนหน้าพักเท้าจะโดนก่อนและถัดมาจะเป็นใต้เครื่องลงมา จะไม่ใช่ส่วนของฝาสูบ สรุป!ระวังไว้หน่อยก็ดี
- ช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone บนทางเรียบ ในโค้ง หรือตอนเบรกก็ทำงานได้ดีมาก แต่จะ Sensitive เมื่อในโค้งเป็นคลื่นหรือเป็นร่อง หรือแม้แต่สีที่ทาไว้เป็นแถบถี่ๆ ให้ลดความเร็วในโค้ง หน้ารถมีอาการสะบัดให้พอรู้สึกได้นิดๆ ต่างจากโช้คอัพแบบเดิม รวมถึงเมื่อต้องเหินคอสะพานก็รู้สึกได้นะ
- ไซส์ของยาง ตอนนี้อาจจะหายากนิดนึง แต่สั่ง Bigwing ได้ครับ
จอ บอ จบการรีวิวยาวๆ ที่สุดอีกชิ้นหนึ่งของผมนาย Keng Zaza ในนิตยสารที่ผมเคยเขียนรีวิว ก็ยังไม่ยาวเท่านี้มาก่อน ด้วยเทคโนโลยีของรถที่เยอะก็เลยอยากเขียนเล่าให้หมด(แต่ก็ไม่หมด) ก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
#RidingPassion2024 #JapanPassion #HondaBigBike #HondaBigBikeThailand #Excitestheworld
อ่านรีวิว Honda Goldwing ตัวครบรอบ 40 ปี คลิกตรงนี้
Special Thank : บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด, Honda Bigbike Excites The World, Honda Bigwing กทม.
: สนามบินหนองค้อ จ.ชลบุรี
: ตำรวจสันติบาล กก.6 บก.ส.3