ขี่ Honda Transalp 750 ข้าม 3 ประเทศ ไทย ลาว เวียดนาม เที่ยว “ซาปา” หน้าฝนปี 2024

0
Honda Transalp 750

ครั้งแรงของผมบนอาน Honda Transalp 750 กับการเดินทางข้ามประเทศ ไทย ลาว เวียดนาม มุ่งสู่ซาปา เมืองที่เป็นหนึ่งใน Wishlist ของ Biker หลายคนที่จะต้องขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจมาเยือนให้ได้สักครั้ง

ทริปนี้ยังเป็นครั้งแรกของกิจกรรม Xpedition EP.1 Transalp ระหว่างวันที่ 12-19 ตุลาคม 2024 เป็นทริปพิเศษจัดให้ผู้ที่มีรถ Honda Transalp ได้ขี่รถข้ามประเทศกันตั้งแต่ทริปแรกทริปนี้เลย

นอกจากคนที่เป็นเจ้าของ Transalp ยังมีลูกค้า Honda Bigbike ในรุ่นอื่นสนใจมาร่วมทริปด้วยทั้ง Africa Twin และ X-ADV750 ซึ่งยังเป็นครอบครัว Honda Bigbike ที่อบอุ่น

ไทยข้ามไปลาว

เช้าวันแรกของทริปเริ่มขึ้นที่ จ.น่าน การมาของแต่ละคนก็จะต่างกันบางคนขี่รถมาจากบ้าน บางคนฝากรถให้ทาง Honda Bigbike ขนมาให้แล้วตัวเองขับรถยนต์หรือนั่งเครื่องบินมา แล้วมาเจอกันที่โรงแรมที่พักตั้งแต่คืนก่อนเดินทางแล้ว เช้าวันเดินทางจึงมีความพร้อมทั้งคนและรถที่จะขี่ทางไกล

จากตัวเมืองน่านเรามุ่งหน้าด่านห้วยโกร๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อจะข้ามไปยังฝั่งลาว เส้นทางก่อนจะถึงด่านในช่วงนี้มีการทำทางใหม่เป็นระยะหลายกิโลเมตร แต่ทางไม่ได้แย่ขี่หรือขับรถยนต์ผ่านได้สบายๆ

การข้ามด่านออกไปยังลาวไม่มีอะไรมากเพราะทางไทยฮอนด้าและทรานเอเชียดูแลการเดินทางจัดการให้ล่วงหน้าแล้ว แค่ต่อคิวประทับตราบนพาสปอร์ตเพื่อข้ามแดนทีละคนแค่นั้น สบายมาก

จุดหมายของเราวันนี้คือที่จังหวัดอุดมไชย ประเทศลาว ด้วยสภาพเส้นทางที่พังยาวตลอดนับร้อยกิโลเมตรทำให้เราเดินทางช้าลงมากกอปรกับอากาศที่ร้อน ระยะทางวันแรก 324 กิโลเมตร ราว 17.00 น. ก็ถึงโรงแรมที่พักในอุดมไชยก็เพลียพอสมควรแต่วันแรกเรายังฟิตกันมาก หลังจากเข้าโรงแรมก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย

ลาวข้ามไปเวียดนาม

วันที่ 2 จุดหมายเราเมืองเดียนเบียนฟูในประเทศเวียดนาม วันนี้เราจะขี่ข้ามด่านจากประเทศลาวไปเวียดนามด้วย เส้นทางถือว่าดีกว่าวันแรกพอสมควรเราแวะกินอาหารเวียดนามก่อนจะข้ามด่านชายแดน และไปต่อยังด่านชายแดน Tay Trang เพื่อเข้าประเทศเวียดนาม

โดยรวมเส้นทางในเวียดนามดีกว่าฝั่งลาว แต่ที่ต้องระวังบนถนใกล้เคียงกัน คือต้องระวังสัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่ขึ้นมาบนถนนได้ตลอดเวลาทั้ง วัว ควาย หมา แพะ ไก่ ต่างๆ และในเวียดนามยังจำกัดคามเร็วให้ขี่ได้ประมาณ 30-40 กม./ชม. ในเขตเมือง จะมีป้ายเป็นรุปเมืองบอกล่วงหน้า และราวๆ 40-60 กม./ชม. ในเขตนอกเมืองหรือบนทางหลวงชนบท จะมีป้ายเป็นรูปเมืองถูกกากบาทบอกไว้

กับระยะทาง 396 กิโลเมตรเรามาถึงเมืองเดียนเบียฟูประมาณบ่าย 3 ก่อนเข้าโรงแรม เราแวะพิพิธภัณฑ์เดียนเบียฟูที่จัดแสดงเรื่องราว “ยุทธการเดียนเบียนฟู” ที่เวียดนามชนะสงครามฝรั่งเศสในช่วงสงครามอินโดจีนช่วงปี ค.ศ.1940-1960

หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จ เราก็ขี่รถมาถึงโรงแรม Muong Thanh Grand ราว 4 โมงเย็น หลังจากรับการ์ดห้องพักก็พักผ่อนตามอัธยาศัย ใครจะเดินเล่นในเมืองหรือจะนอนพักในห้องก็ตามสะดวก มีนัดกินมื้อค่ำพร้อมกันอีกทีราว 18.30 น. จากนั้นใครจะเดินเที่ยวในเมืองต่อก็ตามสะดวก

ไปซาปากัน

วันที่ 3 วันนี้เราจะไปซาปาจุดหมายของทริปนี้กัน ซึ่งจากเเดียนเบียนฟูไปซาปาจะมีระยะทางประมาณ 269 กม. เส้นทางการเดินทางทุกวันหลายช่วงสวยแปลกตา ซึ่งวันนี้มีแลนด์มาร์คให้จอดถ่ายรูปหลายที่ไม่ว่าจะเป็นสะพาน Hang Tom Bridge และแวะ Coffee Brake ที่ Ô Quý Hồ Cafe ก่อนจะเข้าสู่เมืองซาปา

ถึงซาปา เข้าเช็คอินที่โรงแรม Pao’s Sapa Leisure Hotel โรงแรมหรูเลยทีเดียว ซึ่งฮอนด้าบิ๊กไบค์จัดให้ ราว 1 ทุ่มก็ออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารในซาปาโดยนั่งรถไฟฟ้าไป หลังมื้ออาหารหลายคนก็เลือกเดินกลับ เพราะจะได้เที่ยวและช็อปปิ้งระหว่างกลับโรงแรม

เที่ยวในซาปาขึ้นจุดที่สูงที่สุด Fansipan

วันที่ 4 ฝนตกตั้งแต่ดึกจนเช้า ตอนแรกแผนคือจะขี่รถเที่ยวรอบๆ ซาปา เลยเปลี่ยนแผนเป็นการนั่งรถบัสไปเที่ยวแทน ซึ่งรถบัสบนนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่เพราะทางเล็กและบางช่วงถนนพังขึ้นเนินชันรถบัสขนาดเล็กจะคล่องตัวกว่า

เราเดินทางไปที่หมู่บ้าน Ta Van ร้านและเข้าไป Coffee Brake ที่ LA DAO SPA Restaurant และทานมื้อกลางวันกันที่นี่เลย ซึ่งมื้อกลางวันเป็นชาบูหรือเฝอมีเนื้อปลาสเตอร์เจี้ยนกับปลาแซลม่อนให้จุ่มซุบร้อนๆ แกล้มกับอากาศที่หนาวเย็น ส่วนตัวผมน่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้กินเนื้อปลาสเตอร์เจี้ยน อร่อยดีงาม หนังหนึบๆ คล้ายปลาคัง อร่อยถูกปาก อ่อ ไข่ปลาสเตอร์เจี้ยนที่รู้จักกันในนามไข่ปลาคาร์เวียร์นั่นล่ะครับ

จากนั้นเราก็ขึ้นไปยัง Fansipan ยอดเขาที่สูง 3,143 เมตร ไกด์เขาว่าสูงสุดในอินโดจีน (อินทนนท์สูง 2,565 เมตร) ซึ่งการขึ้นไปก็ต้องนั้งรถรางไปต่อกระเช้า ระยะกระเช้าที่นี่ก็ยาวเกือบที่สุด และในช่วงที่ 3 ที่จะขึ้นไปบนสุดสูงสุดเลือกได้ว่าจะเดินขึ้นบันได้หรือนั่งรถราง ผมแนะนำว่าเลือกนั่งรถรางเหอะเชื่อผม

ลงจาก Fansipan เข้าที่พักและออกมา Dinner มื้อค้ำกันที่ร้านอาหาร ซึ่งในแต่ละคืนทีมงานจะเลือกร้านอาหารไม่ซ้ำกัน หลากหลายดีครับ ขากลับจากร้านอาหารก็เช่นเคยเดินช็อปปิ้ง ของที่ซาปาก็ไม่พ้นเสื้อยืด เสื้อคลุม กระเป๋า รองเท้า แบรนด์เกรด AAA นั่นเอง หลายร้านรับเงินไทย บางร้านโอนเป็นเงินไทยได้ด้วยจะบอกให้

กลับสู่เมืองเดียนเบียนฟูอีกหนึ่งคืน

วันที่ 5 ตื่นเช้ามาท่ามกลางสายฝน และวันนี้เราจะขี่ลงจากซาปาแล้ว จุดหมายคือเมืองเดียนฟู ใช่ครับเราต้องย้อนกลับแต่เส้นทางจะเป็นคนละเส้นทางกับที่วันที่เดินทางมา แต่ก่อนจะออกจากซาปาต้องแวะถ่ายรูปหมู่ที่หน้าโบสถ์ที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คซาปากันก่อน ฝนก็ตกไม่หยุดเลย

เราขี่ลงซาปาท่ามกลางสายฝนตลอด กว่าจะเจอแดดเอาก็ขี่ห่างซาปาไปซักระยะนึง เราแวะ Coffee Brake ที่อ่างเก็บน้ำ Ban Chat Electric Factory แวะถ่ายรูปกันที่ Pa Song Bridge และแวะกินกลางวันที่ Trung Kien Restaurant ที่ผมพิมพ์ชื่อเพราะเผื่อใครสนใจหรือหาข้อมูลเพิ่มก็ลองเอาชื่อไปเสิร์ตดูได้ครับ

ก่อนเข้าเดียนเบียนฟูเราแวะเติมน้ำมันกันก่อน ถึงโรงแรมที่พักเดิมตอนขามาราว 4 โมงเย็นพักผ่อนตามอัธยาศัย 1 ทุ่มเรานั่งรถบัสเดินทางไปกินมื้อค่ำร้านอาหารน่าจะชื่อว่า KHU VAN HOA AM THUC LANG THAI ซึ่งจัดกิจกรรมตอนรับไว้เต็มระบบ

ข้ามกลับลาวเราจะไปหลวงพระบางต่อ

วันที่ 6 เราขี่ข้ามกลับจากเวียดนามไปยังลาวและจุดหมายคือหลวงพระบาง เส้นทางดีแต่เราเจออุปสรรคคือรถบรรทุกขนาดใหญ่ชนกันบนเขา ซึ่งเส้นทางในลาวนี้จะมีรถบรรทุกขนาดใหญ่(ใหญ่กว่าบ้านเรา) วิ่งตลอดเวลา และถนนที่นี่เป็นถนนสวนกันสองเลนและเป็นทางขึ้นลงเขาด้วย เมื่อรถบรรทุกชนกันเลยต้องจอดรอสลับกันวิ่งผ่านไป กว่าจะผ่านจุดนี้ไปได้ก็กินเวลาหลายชั่วโมง

แต่หลังจากผ่านแล้วถนนดีกับโค้งนับพันโค้งก็ทำให้เราได้คลายเคลียดได้อย่างมาก แต่กระนั้นด้วยเวลาที่เสียไปทำให้เราเข้าหลวงพระบางมืดค่ำ ที่พักเราคือ Manyo Hotel Luang Prabang ที่พักห้องพักดูดีมาก

และมื้อค่ำก็จัดในโรงแรมนี้ รวมถึงเป็นเหมือนงานเลี้ยงจบทริปไปในตัว เพราะอีกวันเราจะข้ามกลับประเทศไทยและแยกย้ายกันแล้ว

กลับไทยแล้ว

วันที่ 7 ตอนเช้าหลายคนเลือกไปเดินเล่นกินมื้อเช้าในเมืองหลวงพระบาง ซึ่งจากที่ผมได้ฟังจากพี่ท่านหนึ่งที่ออกไปในเมืองตอนเช้ามืดมาว่าคนจีนมาเที่ยวเยอะมากเดินกันควักไขว่เป็นร้อยคน พร้อมยกมือถือที่ถ่ายคลิปไว้ให้ผมดูคือนึกว่าถ่ายมาจากประเทศจีน รถตู้พร้อมคนจีนที่มาเที่ยวเยอะมาก

เราออกจากหลวงพระบางโดยการข้ามแพข้ามฟาก นี่ก็เปิดประสบการณ์ผมเช่นกันเพราะผมก็ไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามแพที่ประเทศลาว ขึ้นจากแพก็ยิงยาวไปยังด่านน้ำเงินของลาว และเข้ามายังด่านห้วยโกร๋น ประเทศไทย

หลังประทับตราในพาสปอร์ต ใครจะแยกย้ายตรงจุดนี้เลยก็ได้ หรือใครจะขี่กลับไปที่โรงแรมน่านตรึงใจจุดเริ่มต้นทริปก็ได้ตามสะดวก หลายคนกลับไปยังโรงแรมน่านตรึงใจ เป็นอันจบทริปด้วยดี ไม่มีอุบัติเหตุ ได้ขี่รถเที่ยว ได้เพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์ใหม่จุใจ และ Honda Transalp 750 เป็น Adventure Touring ขนาดกลางที่ใช้เดินทางไกลได้ดีจริงๆ

ใครสนใจขี่ทริปไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ติดตามได้ที่เพจ Honda Bigbike หรือสอบถาม Honda BigWing ได้ทุกสาขา และไปดูคลิปทริปนี้ในช่อง Youtube ของ MotoMotion ได้ สำหรับบทความทริปนี้นี้ยาวเหยียด ผมต้องขอลาไว้เพียงเท่านี้ แล้วไปกันต่อทริปหน้าครับ เอ้าาา ไปกันต่ออออ

คลิปทริป Xpedition Transalp 750 ซาปา ทริปนี้

รีวิว Honda CBR1000RRR SP ล่าสุด
กิจกรรม Honda Adventure Mania 2023
รีวิว 2024 Honda CB650R E Clutch
คลิป รีวิว 2024 Honda CB650 E Clutch
รีวิว Honda NX500
Honda พาบุกงาน Eicma 2023 ที่อิตาลี
รีวิว Honda CB750 hornet
First Ride Honda CB 750 Hornet คลิก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่