เปิดตัวและราคา Ducati Panigale V4 และ Panigale V4S ปี 2025 อย่างเป็นทางการ เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 7 ของพานิกาเล่ ได้รับการเปลี่ยนใหม่ทั้งคันแบบ All New แต่พื้นฐานเครื่องยนต์คงเดิมแต่เพิ่มความแรงและเทคโนโลยีเข้าไปอีกขั้น และพิเศษสำหรับผู้จองซื้อ 17 คันแรกฟรีประภัยชั้นหนึ่ง พร้อมของแถมจัดเต็ม
ประกาศความพร้อมปล่อยสุดยอดขุมพลังจากสนามแข่ง Panigale V4 The 7th Generation เจนเนอเรชั่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จทั่วโลกอย่างมาก และ เป็นไอคอนของ Ducatiที่แสดงถึงเอกลักษณ์ ความทันสมัยและประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจนยิ่งกว่ารุ่นอื่นๆ รวมไปถึงการพัฒนาเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale ที่ใช้มาตรฐาน EURO5+ แต่ยังคงทรงพลังได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งครั้งนี้ทางดูคาติได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับ ลูกค้าที่จอง 17 คันแรก ได้รับฟรีประกันภัยชั้นพร้อม Accessories Package มูลค่า 130,000 บาทตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคมนี้เท่านั้น (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
นายดอม เหตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด กล่าวว่า Panigale V4 The 7th Generation นี้ถือได้ว่าเป็นการพัฒนาครบทุกด้านของ Panigale ที่เคยมีมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนให้ดูสปอร์ต และเหมาะกับการขับขี่ในสนามมากขึ้นกว่าเดิม เครื่องยนต์ที่ได้มาตรฐาน EURO5+ แต่ยังคงทรงพลังได้เหมือนเดิม รวมไปถึงจุดเด่นของดูคาติที่ทำได้ดีมากที่สุดอยู่แล้วนั้นคือเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มีมาให้ครบ และคุ้มค่าสำหรับไบค์เกอร์สายสปอร์ต
การออกแบบครั้งนี้มาในคอนเซ็ปต์ Beauty meets function หรือ ความงามที่มาพร้อมฟังก์ชั่นนักออกแบบทำงานร่วมกับช่างเทคนิคของ Ducati Corse อย่างใกล้ชิดเพื่อสรรสร้างรูปทรงที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง โดยอ้างอิงจาก Ducati 916 ที่ถือเป็นรุ่นไอคอนิค ของ Ducati และ ผสมผสานกับ Desmosedici GP สร้างส่วนหน้าที่มีค่าการแทรกผ่านทางอากาศพลศาสตร์สูง ช่อง Air intake เดี่ยวที่อยู่ตรงกลาง
สวิงอาร์มเดี่ยวแบบกลวงซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเมื่อมองจากด้านข้าง Panigale V4 ใหม่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale เครื่องยนต์ V4 90° ที่มีความสมดุลเป็นอย่างมากทำให้ไม่ต้องใช้ balance shaft มีน้ำหนักเบาและช่วยประหยัดพลังงาน เป็นเครื่องยนต์เพียงรุ่นเดียวที่มี ระบบ Desmodromic Counter-rotating crankshaft และ Twin pulse firing order ทำให้การขับขี่ และการทรงตัวทำได้ดีเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทาง
พร้อมระบบไทม์มิ่งวาล์ว Desmodromic เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่ง MotoGP ใช้กระบอกสูบขนาด 81 มม. (ซึ่งเป็นขนาดสูงสุดที่อนุญาตตามกฎของ MotoGP) ร่วมกับช่วงชักที่ยาวขึ้น (ทำให้ปริมาตรกระบอกสูบรวมอยู่ที่ 1,103 ซม.³) เพื่อเพิ่มแรงบิดในรอบตํ่าถึงกลาง จัดได้ว่าเป็นรถที่พัฒนาได้ดีที่สุด ซึ่งมีการทดสอบโดย Francesco Bagnaia นักแข่ง MotoGP ของทีม Ducati Corse เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สามารถวิ่งเข้าเส้นชัยที่มิซาโนในรายการ Race of Champions ปี 2022 ได้ด้วยเวลา 1:35.8 นาที และปี 2024 สามารถทำเวลาต่ำลงกว่าเดิมประมาณ 1 วินาที นอกจากนี้ รุ่นแข่งขัน SBK ยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์ SBK World Championship ติดต่อกันถึง 2 ครั้งอีกด้วย การออกแบบใหม่นี้นักออกแบบยังทำงานร่วมกับช่างเทคนิคด้านอากาศพลศาสตร์ของ Ducati Corse และวิศวกรด้านยานยนต์ R&D อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างรูปทรงทีดูดีสะอาดตาและทรงพลัง ซึ่งได้มีการออกแบบโดยปรับแต่งจากรูปทรงของ Ducati 916 อันเป็นตํานาน
นอกเหนือไปจากเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาจากสนามแข่งระดับโลกอย่าง MotoGP แล้ว ยังได้รับมาตรฐาน EURO5+ และยังสามารถคงเอกลักษณ์การวางท่อไว้ใต้เครื่องโดยรักษาการขับขี่อันทรงประสิทธิภาพไว้ได้เช่นเดิม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็นไปได้ยากกับการวางท่อไว้ใต้เครื่องยนต์และผ่านมาตรฐาน EURO5+ เพิ่มตัวเก็บเสียงแบบช่องทางออกคู่ใหม่ทั้งหมดโดยใส่หัววัด Lambda เพิ่มอีก 2 ตัว (ผ่านการรับรองมาตรฐาน Euro 5+) เสริมหัววัด 4 ตัวที่มีอยู่ในระบบไอเสีย เพื่อตรวจสอบตัว catalysts ในส่วนของการระบายความร้อนได้มีการพัฒนาให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น 12% ในการใช้งานปกติ และ 7% เมื่อใช้ในสนามแข่ง Panigale V4 The 7th Generation ตัวนี้มาพร้อมสวิงอาร์มแบบใหม่ Hollow Symmetrical Swingarm ถูกออกแบบโดยวิศวกรผู้ออกแบบ และทีม Ducati Corse เพื่อหารูปทรงเรขาคณิตที่สวยงาม กลมกลืน และสง่างาม ที่ผสานเข้ากับ Panigale V4 The 7th Generation ใหม่ได้อย่างลงตัว
สวิงอาร์มสมมาตรแบบใหม่มาพร้อมกับตัวปรับความตึงโซ่ Monolithic tension แบบชิ้นเดียว เช่นเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขัน MotoGP ซึ่งช่วยประหยัดเวลา และ ความแม่นยำในการปรับแต่งรถลงสนามเฟรมหน้ามีเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale เป็นองค์ประกอบโครงสร้าง โดยที่ “เฟรมหน้า” เชื่อมต่อกับเครื่องยนต์โดยตรงทำให้เฟรมหน้ามีความแข็งแกร่งมากเมื่อขับขี่ และ มีน้ำหนักที่เบาลง 0.73 กิโลกรัมทำให้ความเร็วของการเข้าโค้งสูงขึ้นเนื่องจากผู้ขับขี่สามารถเอียงมุมโค้งได้มากขึ้น ซับเฟรมด้านท้ายใหม่ทำด้วยอลูมิเนียมหล่อสองชิ้นที่โอบรับส่วนใต้เบาะของถังไว้ ระบบ linkage กันสะเทือนหลังแบบใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Desmosedici GP ซึ่งติดเข้ากับเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale โดยตรงผ่านคอนเนคเตอร์อลูมิเนียมหล่อแบบชิ้นเดียวทำให้ลดน้ำหนักรวมของระบบกันสะเทือนด้านหลัง – 0.6 กก.และสามารถติดตั้งระบบกันสะเทือนบนลูกปืนเข็มแทนที่จะเป็นบูชแบบเดิมได้
Panigale V4 The 7th Generation ปรับปรุงเบาะให้ขยายออกด้านข้าง 50มม. และ มีความยาวเพิ่มขึ้น 35มม. เพื่อให้สามารถเคลื่อนตัวในแนวแกนกลางของตัวรถได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น ตำแหน่งพักเท้ายังมีการออกแบบให้ชิดเข้าด้านในตัวรถมากขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน 10มม. เพื่อเพิ่มระยะห่างจากพื้นในขณะเข้าโค้ง และช่วยให้ผู้ขับขี่ผ่อนคลายมากขึ้นไม่ต้องกังวลกับการกลัวที่พักเท้าโดนพื้นขณะเข้าโค้ง
V4 มีล้ออลูมิเนียมหล่อที่มีดีไซน์ก้านรูปตัว Y แบบ 5 ก้าน และ V4S เป็นล้อฟอร์จอลูมิเนียมนํ้าหนักเบาแบบใหม่ที่มีดีไซน์ก้าน 5 ก้านซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Desmosedici GP โดยล้อได้รับการออกแบบและพัฒนาตามโครงการของ Ducati เองเมื่อเทียบกับ Panigale V4 ล้อฟอร์จอลูมิเนียมมีน้ำหนักเบากว่าถึง 2.17กิโลกรัม ล้อทั้ง 2 ประเภท มาพร้อมกับยาง Pirelli DIABLO Supercorsa SP – V4 ใหม่ ซึ่งมีเนื้อยางแบบ 2 คอมปาวด์ โดยมีเนื้อยาง SC3บริเวณด้านข้าง และโปรไฟล์การแข่งขันที่นํามาจากการแข่งขัน WSBK Championship โดยตรง
สําหรับการใช้งานในสนามแข่งยางสลิก Pirelli ขนาด 125/70 สําหรับล้อหน้า และ 200/65 สําหรับล้อหลังสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องดัดแปลงตัวรถยางเหล่านี้ใช้ในการแข่งขัน WSBK Championship และถือเป็นยางระดับสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ “Racing” ของ Pirelli ระบบกันสะเทือนใหม่เฉพาะ Panigale V4S กับช็อคอับหน้า Öhlins NPX 25/30 (SV) S-EC และ ช็อคอับหลัง Öhlins TTX36 (SV) S-EC 3.0 ระบบช็อคอับ Öhlins ที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่มาพร้อมกับ “วาล์วแกนหมุน” (SV) ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ “วาล์วเข็ม” แบบดั้งเดิมแล้ว ส่งผลให้ช่วงการปรับแรงดันไฮดรอลิกที่กว้างขึ้นระหว่างเปิดเต็มที่และปิดเต็มที่ พร้อมด้วยความไวการตอบสนองและความเร็วในการปรับที่มากขึ้น
เบรก Brembo Hypure® เป็นเบรกรุ่นใหม่ล่าสุดที่ติดตั้งโดยเฉพาะบน Panigale V4 ครั้งแรกเท่านั้นในโลก โดยคาลิเปอร์รุ่นใหม่นี้ควบคุมด้วยกระบอกสูบหลัก PR 17/19 แบบเรเดียลใหม่ คาลิเปอร์ใหม่มีขนาดกะทัดรัดขึ้น เบากว่าเดิม 60 กรัม คาลิเปอร์มีการปรับปรุงการระบายอากาศภายในเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อน (+ 4%) คาลิเปอร์ใช้กระบอกสูบแบบเรเดียลใหม่ทีมีลูกสูบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 17 มม. และระยะห่าง 19 มม. (เทียบกับ PR 16/21 รุ่นก่อนหน้า) ช่วยให้การควบคุมเบรคมีเสถียรภาพมากขึ้นในระหว่างเซสชันรอบ ดิสก์ 2 x ∅ 330 มม. ของ Hypure®
มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 5 โหมด ได้แก่ Race A, Race B, Sport, Road, Wet และมีระบบควบคุมการขับขี่มีให้ทั้งหมด 6 โหมด โดยใช้อัลกอริทึม Ducati Vehicle Observer (DVO) จาก Ducati Corse ได้แก่ Race eCBS , Ducati Traction Control (DTC) DVO , Ducati Wheelie Control (DWC) DVO , Ducati Slide Control (DSC) , Ducati Power Launch (DPL) DVO , Ducati Quick Shift (DQS) 2.0 , Engine Brake Control (EBC) , Ducati Electronic Suspension (DES) 3.0
เป็นรถสปอร์รุ่นแรกที่มีระบบ Cornering ABS ที่ได้รับการปรับปรุงด้วยฟังก์ชัน Race eCBS ที่ปรับแต่งมาสําหรับสนามแข่ง (ชุดควบคุม ABS 10.3ME) ระบบนี้ช่วยปรับปรุงและเพิ่มความสามารถในการใช้รถอย่างเต็มประสิทธิภาพ และ ปลอดภัย ใน Panigale V4 The 7th Generation ใหม่ ระบบ DQS ที่ช่วยลดเวลาในการเปลี่ยนเกียร์และช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลงได้โดยไม่ต้องใช้คลัตช์ เป็นรุ่นที่สองแตกต่างจากระบบเดิมโดยใช้คันเกียร์แบบติดตั้งชุด “micro-switch” ที่มีกล่องควบคุมภายในทั้งหมด
กันสะบัดใหม่ได้รับการควบคุมด้วยระบบ DES ซอฟต์แวร์ Öhlins Smart EC 3.0 เป็นรุ่นที่ 3 พร้อมกับระบบควบคุมคันเร่งแบบเดียวกับ Panigale V4R ซึ่งช่วยให้ประกับคันเร่งมีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น และการใช้คันเร่งรู้สึกดีขึ้น Panigale V4 ใหม่ใช้หน้าจอแดชบอร์ดขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 480 พิกเซล และอัตราส่วนภาพ 8:3 ที่ให้ประสบการณ์ภาพแบบใหม่หมดจด หน้าจอสามารถแสดงผลได้ 2 โหมด ได้แก่ Road หน้าจอจะเน้นความคลีนของหน้าจอ และ โหมด Track แสดงผลด้วยแถบวัดรอบเครื่องยนต์ ที่มีมาตราส่วนบีบอัดได้ถึง 9,000 รอบต่อนาทีเกือบทั้งหน้าจอจุดโฟกัสของหน้าจอมีความสําคัญที่สุดสําหรับการใช้ประสิทธิภาพรถบนแทร็กตรงกลางคือตําแหน่งเกียร์
อุปกรณ์เสริมเพื่ออำนวยความสะดวกสบายที่ไม่เคยมีมาก่อนสําหรับรถซุปเปอร์ไบค์
Cruise control ช่วยให้การเดินทางไปยังสนามแข่งผ่อนคลายมากขึ้นและยังช่วยให้ปฏิบัติตามขีดจํากัดความเร็วได้ Cruise control นี้ใช้ได้เฉพาะในโหมด Info Mode Road เท่านั้น
ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) – TPMSจะแจ้งเตือนความดันลมยางที่ลดลงโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอด ภัยสูงสุด นอกจากนี้ TPMS ซึ่งมีความแม่นยําเท่ากับนาโนมิเตอรยังช่วยให้ตรวจสอบความดันลมยางขณะขับขี่ในแต่ละรอบได้อีกด้วย
Turn by Turn navigator – ทิศทางการเดินทางจะแสดงในรูปแบบคําแนะนําด้วยเสียงหรือคําแนะนําแบบภาพบนแผงหน้าปัด ต้องใช้ DMS และแอปเฉพาะ ใช้งานได้กับ Info Mode Road เท่านั้น
พอร์ต USB – ติดตั้งไว้ในส่วนของการออกแบบบริเวณแฟริ่งด้านหน้าช่วยให้สามารถชาร์จโทรศัพท์และชาร์จไฟไว้ระหว่างใช้งาน Panigale V4 The 7th Generation รุ่นใหม่นี้เปิดตัวมาในราคาสุดคุ้ม พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ 17 คัน แรก
Panigale V4 ราคา 1,199,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น1 และ Accessory package รวมมูลค่ากว่า 130,000 บาท
Panigale V4S ราคา 1,479,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น1 และ Accessory package รวมมูลค่ากว่า 130,000 บาท
คลิปรีวิว Ducati Multistrada V4
บทความรีวิว Ducati Desert X Rally
คลิปรีวิว Hypermotard 698 Mono
บทความรีวิว Ducati Hypermotard 698 Mono
คลิปรีวิว 2023 Ducati Diavel V4
รีวิว Ducati Diavel V4
ขี่ Panigale V4S เที่ยวเขาใหญ่
สัมภาษณ์พิเศษผู้บริหารดูคาติไทยแลนด์ชุดใหม่
พรีวิว ดูคาติ มอนสเตอร์ 937
เปิดตัว โมโตเร อิตาเลียโน
คลิป ทดสอบรีวิว Panigale V2 ที่ประเทศสเปน คลิก
ทดสอบ รีวิว Streetfighter V4S ที่สนามช้างฯ คลิก
ทดสอบ รีวิว Panigale V2 ถึงประเทศสเปน คลิก