รีวิว SUNRA FUTURE 2500 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า มีทะเบียน มีรับประกัน มากับมอเตอร์พละกำลัง 2,500 วัตต์ ขี่ใช้งานในระยะ 60-80 กิโลเมตรแบบสบายๆ

0
Sunra Future

SUNRA FUTURE 2500 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สามารถนำมาขี่ใช้งานได้ทุกวัน ทำทะเบียนได้ถูกต้อง มอเตอร์และแบตเตอรี่มีรับประกัน เสียบชาร์จง่ายชาร์จไว คล่องตัว เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง แนะนำเลยครับ

Sunra Future 2500

สเปคดี เหมาะกับการใช้งานทุกวัน

มอเตอร์ขนาด 2,500 วัตต์ขับดุมล้อ แบตเตอรี่ลิเธียมให้กำลัง 72V26Ah ตามสเปคชีส เครมว่าสามารถทำความเร็วได้ถึง 65 กม./ชม. และใช้งานระยะทางสูงสุดที่ 85 กิโลเมตร ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีและสามารถนำมาขี่ใช้ไปทำงานได้เลย ใครมีระยะทางไปกลับบ้านกับที่ทำงานไม่เกิน 70 กิโลเมตรใช้งานได้สบาย ผมเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้จากตัวเลข 85 กม. ที่บริษัทเครมมา

Sunra Future 2500

มีระบบ Traction Control ที่เปิดปิดได้ มีการทำงานอัจฉริยะมากมาย เช่น การเชื่อมต่อด้วย แอปพลิเคชั่น FUNRIDE เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน มีระบบป้องกันการโจรกรรม ระบบสตาร์ทและหยุดรถอัจฉริยะ เรือนไมล์ LED ไฟส่องสว่างรอบคัน LED ที่ให้ความสว่างคมชัด  ดิสก์เบรกหน้าหลังพร้อมระบบกระจายแรงเบรก CBS มีวงล้อหน้าสีทองในสไตล์ EV Fashion มาพร้อมยางแบบTubeless ขนาด 12 นิ้วสำหรับล้อหน้าและล้อหลัง

ลองขี่กันเลย

เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีขนาดกระทัดรัด ดีไซน์ Retro Revolution มีความคลาสสิคผสมความทันสมัย มีสีสันที่สวยโดดเด่น ท่านั่งและเบาะนั่งสบาย พื้นที่วางเท้าเชื่อมต่อกันวางเท้าได้สบาย ที่คอรถมีขอแขวนของ ที่คอนโซลด้านซ้านมีช่องเก็บของ 1 ช่อง มีที่ชาร์จ USB-A มา 1 ช่อง คอนโซลขวาเป็นสวิตซ์เปิด/เปิดระบบรถและเปิดเบาะนั่ง ใต้เบาะนั่งเป็นที่เก็บแบตเตอรี่และชุดอแดปเตอร์ชาร์จไฟแต่ยังมีพื้นที่ใส่หรือเก็บของได้พอสมควร ฟังก์ชั่นการใช้งานถือว่าให้มาครบ

Future เป็นรถที่ให้ความคล่องตัวสูงจึงเหมาะในการใช้งานในเมืองมากๆ กอปรกับระยะทางที่แบตเตอรี่ไปได้ ก็ตอบโจทย์ใครหลายคนที่ใช้ไปกลับจากบ้านไปที่ทำงานได้สบายๆ โดยไม่ต้องแวะปั้มน้ำมันอีกต่อไป วันที่ผมใช้งานไปเจอเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังรถก็สามารถวิ่งลุยน้ำไปได้ดี ชุดมอเตอร์ที่ดุมล้อลุยผ่านไปได้สบายหายห่วง (ซึ่งตอนแรกก็แอบหวั่นแต่ก็ลองลุยดูปรากฏว่าผ่าน)

ผมให้เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เหมาะกับการใช้งานในทุกวันมากๆ โดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศ หรือนักเรียนนักศึกษาหรือใครก็ตามที่มีระยะการเดินทางประมาณ 60-70 กิโลเมตร/วัน ใช้งานได้สบายๆ คนมีบ้านก็จอดชาร์จไฟได้สะดวก คนอยู่คอนโดก็ถอดแบตเตอรี่หิ้วขึ้นไปชาร์จได้ลงตัว หรือใครยกขึ้นไปชาร์จที่ทำงานได้ก็จะได้ระยะทางการเดินทางต่อวันที่เพิ่มขึ้นอีก การไม่ต้องจ่ายเติมน้ำมันกับค่าตัวมรถที่เปิดมาคุ้มทุนได้ไม่ยาก

SUNRA FUTURE 2500 ราคา 72,900 บาท แต่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐจะมีราคาจำหน่ายเหลือเพียง 53,640 บาทเท่านั้น และมีให้เลือก 4 สี คือ สีขาว Cotton White สีเหลือง Honey Yellow สีแดง Rose Pink และสีเขียว Mint Green

พร้อมด้วย SUNRA warranty รับประกันมอเตอร์ 5 ปี / 50,000 กม. และรับประกันแบตเตอรี่ 3 ปี / 60,000 กม. 

ระบบเปิดปิดการทำงาน (สตาร์ทและหยุด) อัจฉริยะ

การจะเปิดระบบของรถอย่างแรกคือต้องเปิดเมนสวิตซ์ที่อยู่ใต้เบาะก่อน และสามารถทำการเปิดระบบหรือสตาร์ทรถได้ถึง 4 วิธี คือ 1. กดปุ่มปลดล็อค(ปุ่มกลาง)ที่ Keyless หนึ่งครั้งแล้วหมุนสวิตซ์ที่ตัวรถ 2. กดปุ่มที่ Keyless โดยกดปุ่มกลาง(ปลดล็อค) หนึ่งครั้งแล้วกดปุ่มที่ 3 (รูปไฟฟ้า) 2 ครั้ง รถจะเปิดระบบพร้อมให้ขี่ออกไปโดยไม่ต้องมาบิดที่สวิตซ์ที่ตัวรถ

3. กดปุ่มเปิดระบบในแอปพลิเคชั่น FUNRIDE ได้เลย และสุดท้าย 4. ใช้ลูกกุญแจที่เหน็บให้มาในตัว Keyless ไขที่สวิตซ์บนตัวรถและบิดเพื่อเปิดการทำงาน รวมถึงบิดเพื่อเปิดใต้เบาะได้ด้วย

การปิด/เปิดระบบ Traction Control

ต้องบอกก่อนว่าระบบ Traction Control จะไม่มีไฟหรือสัญลักษณ์บอกสถานะบนเรือนไมล์ การปิดหรือเปิดระบบ Traction Control จะต้องปิดระบบของรถ ขึ้นขาตั้งคู่กดปุ่ม Mode ค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาทีแล้วเปิดระบบรถอีกครั้งโดยที่ยังกดปุ่ม Mode ค้างต่อไปอีกประมาณ 5-10 วินาที ก็จะเสร็จไม่ว่าจะเปิดหรือปิดระบบให้ทำตามขั้นตอนเดียวกัน

และจะรู้ได้ไงว่าระบบ Traction Control เปิดหรือปิดการทำงาน โดยการลองบิดคันเร่งในขณะขึ้นขาตั้งคู่ถ้าล้อหลังมีอาการหมุนกระตุกเป็นจังหวะคือระบบ Traction Control ทำงาน แต่ถ้าล้อหลังหมุนปกตินั้นคือระบบ Traction Control ปิดแล้วนั่นเอง

การชาร์จไฟทำได้ 2 วิธี

วิธีแรกการชาร์จแบบปลั๊กอินคือเสียบอแดปเตอร์จากไฟบ้านเข้าช่องชาร์จได้เลยใครที่มีที่จอดรถใกล้ปลั๊กไฟก็เสียบได้เลย การชาร์จแบบปลั๊กอินนี้จาก 0 – 100% จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง หรือ 1 ชั่วโมงจะชาร์จได้ 40%

วิธีที่สองคือการชาร์จตรงที่แบตเตอรี่ สามารถถอดแบตเตอรี่ที่อยู่ใต้เบาะยกไปชาร์จได้ โดยใช้อแดปเตอร์ชาร์จไฟตัวเดิมต่อไฟบ้านแล้วเสียบเข้าที่แบตเตอรี่โดยตรงจะเข้าสู่โหมด Slow Charge เพื่อลดความร้อนของแบตเตอรี่และจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงในการชาร์จ เหมาะกับคนที่อยู่คอนโดหรือจะยกแบตไปชาร์จในออฟฟิศที่ทำงานได้

โหมดขี่มี่ 3 โหมด

โหมด ECO ทำความเร็วสูงสุด 46 กม./ชม. ระยะทางสูงสุด 80 กิโลเมตร โหมด Normal ทำความเร็วสูงสุด 61 กม./ชม. ทำระยะทางได้ประมาณ 60-70 กิโลเมตร และโหมด Sport จะทำความเร็วได้สูงสุด 75 กม/ชม. กับระยะทางวิ่ง 50 กิโลเมตร ทั้ง 3 โหมดจะจำกัดความเร็วเท่านั้น ระยะทางจะขึ้นอยู่กับการใช้คันเร่ง ถ้าใช้โหมด Sport แต่ขี่ 40 ก็วิ่งได้ระยะทาง 80 กิโลเมตรได้เช่นกัน

ความเร็วสูงสุดในแต่ละโหมดจะลดลงตามกำลังไฟของแบตเตอรี่ถ้าแบตเตอรี่มีเปอร์เซ็นน้อยลงความเร็วสูงสุดในแต่ละโหมดก็จะลดลงตามไปด้วย เป็นระบบ intelligent BMS Controler เพื่อถนอมแบตเตอรี่

SUNRA หนึ่งในผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีนและของโลก

SUNRA คือหนึ่งในผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดใน 3 อันดับแรกของประเทศจีน  ซึ่งมีความสามารถในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ของโลก ในการสร้างสังคมไร้คาร์บอน Zero Co2 ลดโลกร้อนอย่างยั่งยืน เพื่อก้าวสู่ความยั่งยืนของโลกสีเขียวในอนาคต โดยให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพและการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองกับกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ และในเวลาเดียวกันมอบประสบการณ์การเดินทางที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ทั่วโลก

ด้วยความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ก้าวล้ำนำหน้าในอุตสาหกรรมยานยนต์สองล้อ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ SUNRA ได้ขยายสู่ระดับสากล ถูกส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลกและภูมิภาคทั่วโลกจนกลายเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันดีและได้รับความนิยมอย่างยิ่ง

บริษัท ซินเนอจิ มอเตอร์ จำกัด ได้รับสิทธิ์เป็นผู้นำเข้า ประกอบและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อ SUNRA ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยเล็งเห็นว่าตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบทั้งการผลักดัน และส่งเสริมจากภาครัฐ ภายใต้โครงการ EV3.0 และ EV3.5 ตามลำดับ ซึ่งจะมีการส่งเสริมถึงปี 2570 ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจากราคาจำหน่ายที่ได้รับการส่งเสริม

สำหรับ SUNRA ในประเทศไทย ได้มีการพัฒนาภาพลักษณ์ของแบรนด์ ในส่วนของพื้นที่จำหน่าย โดยใช้ชื่อว่า “SUNRA EV STATION” ที่มีการผสมผสานคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเข้าด้วยกัน ที่มีความเรียบง่าย ในรูปแบบมินิมอล ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย ในบรรยากาศความเป็นกันเอง เบื้องต้นได้มีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายไปแล้วกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ และเพิ่มขึ้นเป็น 100 แห่งภายในสิ้นปี 2567 เพื่อเป็นการขยายเครือข่ายการจำหน่ายและการบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

คลิปรีวิว Sunra Future 2500

คลิปรีวิว Keeway Gemma125
รีวิว Keeway Gemma125
คลิปรีวิว Keeway Versilia 125 Max
รีวิว Keeway Victoria200
คลิปรีวิว Keeway Victoria200

คลิปรีวิว Keeway V302C
รีวิว Keeway V302C

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่