ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เราจะได้เห็นอัปเดตของ 2025 Honda CBR 1000 RR-R จากการเปิดตัว Fireblade ที่พ่วงมาด้วยรหัส R ตัวที่สาม ตั้งแต่ปี 2021.. หลังทาง HRC สร้าง RR-R มาด้วยข้อมูลจากยุครุ่งเรืองของ RC213V แล้วนำข้อมูลจากรายการแข่งรถโปรดักชั่นไบค์หลายรายการที่นำ Fireblade เจนฯนี้ไปลงแข่งมาร่วมด้วยแล้วปรับนู่นนิดนี่หน่อยจนออกมาซูเปอร์ไบค์ที่ขับขี่ได้กลมกล่อมได้มากขึ้นไปอีกในขวบปีที่ 5 ของ RR-R
ภาพรวมของระบบเครื่องยนต์จะมีการปรับอัตราส่วนกำลังอัดสูงขึ้น, ปรับการทำงานของระบบวาล์ว, ลดน้ำหนักแคร้งเครื่องยนต์, เปลี่ยนวัสดุชุดเพลาลูกเบี้ยวและชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้มีน้ำหนักของชุดเครื่องยนต์โดยรวมที่น้อยลง และยังปรับส่วนประกอบของชุดเกียร์ ที่มาพร้อมอัตราทดช่วงเกียร์สุดท้ายใหม่ รวมถึงชุดท่อ Akrapovič ใบใหม่ก็เปลี่ยนติดรถมาด้วย
โดยสำหรับรถปี 2025 เป็นต้นไปจะมีอัตราส่วนความกว้างกระบอกสูบที่ 81 x 48.5 มม. ซึ่งจะเป็นแบบเดียวกับในรถ RC213V ตัวโปรโตไทป์ ทำให้ได้กำลังอัดเพิ่มขึ้น จาก 13.4:1 เป็น 13.6:1 ขณะที่วาล์ว intake จะมีน้ำหนักเบาลง มีสปริงวาล์วชิ้นใหม่ที่ทางฮอนด้าเรียกว่า “3-stage elliptical units” พร้อมเคลือบโค้ตติ้ง Carbon ในกระบอกสูบซึ่งฮอนด้าเคลมว่าจะลดแรงต้านและการสึกหรอไปได้มากกว่าเดิมถึง 35 เปอร์เซ็นต์
ในส่วนของระบบไฟฟ้า.. 2025 Honda CBR 1000 RR-R ได้มีการปรับมาใช้คันเร่ง throttle-by-wire แบบ 2 มอเตอร์ พร้อมปรับเซ็ตอัพของระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของ Riding โหมด ที่จะมีการตอบสนองต่างจากเดิมด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนที่ถูกปรับหนักที่สุดเลยต้องยกให้เรื่องของ “โครงสร้าง” ที่มีการปรับปรุงตั้งแต่ชุดเฟรมอลูมิเนียมใหม่ที่ลดความแข็งตัวลงไปเล็กน้อยเพื่อความคล่องตัวและเพิ่มการยึดเกาะถนน โดยเฉพาะกับการขับขี่ในสนาม มีปรับองศาท่านั่ง ตำแหน่งแฮนด์สูงขึ้น พร้อมพักเท้าขยับต่ำลงมา ได้ระบบกันสะเทือนจาก Öhlins 43มม. NPX (SV) ด้านหน้า และ TTX 36 ด้านหลัง ซึ่งเจ้า 2025 Fireblade คันนี้ยังเป็นซูเปอร์ไบค์คันแรกที่ได้ใช้งานระบบโช้คไฟฟ้า Öhlins Smart Electronic Control (S-EC3.0) เจนฯที่ 3 ด้วย
ระบบเบรกได้ Brembo Stylema R คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ ทำงานร่วมกับจานดิสก์คู่ขนาด 330 มม. มีระบบ Cornering ABS ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่มาช่วยควบคุมการทำงานของการเบรกในโค้งอีก 3 โหมด คือ Standard, Track และ Race.
หน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้วยังมีติดตั้งมาให้เหมือนเดิม เพิ่มเติมการปรับปรุงปุ่มกดบริเวณประกับแฮนด์ด้านซ้าย ยังคงใช้เพื่อควบคุมระบบช่วยเหลือการขับขี่อื่นๆไม่ว่าจะเป็น Wheelie Control, Start mode และ Quickshifter ที่ปรับระดับได้ ..โดยตัวรถจะเปิดตัวในสีไตรคัลเลอร์ขาว-น้ำเงิน-แดง สุดเร้าใจ .. และไม่แน่ เราอาจจะได้เห็นการเปิดตัวฉบับปรับปรุงของรถคันนี้ช่วงงานใหญ่ปลายปีของบ้านเราก็เป็นได้.. !
รีวิว All New Honda CBR1000RRR SP ดาบไฟเล่มใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
สวมวิญญาณนักแข่ง ฮอนด้าจัด CBR1000RR-R Fireblade Trophy เปิดประสบการณ์แข่งขันระดับประเทศ
เปรียบม้า CBR1000RR-R SP, S1000RR, Panigale V4S งานนี้ญี่ปุ่นมาเหนือ