Ducati Desert X Rally รถ Big Enduro สำหรับคนต้องการการลุย Off Road ที่ไปได้คล่องตัวกว่า Adventure Touring แต่ยังคงไประยะทางไกลได้ เป็น Adventure ในทาง Off Road กับรหัส Rally ต่อท้ายชื่อ อัพเกรดขึ้นไปอีกขั้น
Desert X Rally ปรับปรุงสมรรถนะด้าน Off Road ให้เป็นรถที่ผู้ขับขี่ Off Road ต้องการมากที่สุด โดยใช้ส่วนประกอบที่เอื้อต่อการใช้ในเส้นทาง Off Road มีความแข็งแกร่งเต็มพิกัด เป็นรถที่สร้างมาเพื่อเน้นการใช้งานในทาง Off Road ไปจนถึง Extreme Off Road และนี่ก็คือคอนเซ็ปต์ของรุ่นนี้ด้วย
อะไรใหม่บ้าง
ดีไซน์โดยรวมต่างจาก Desert X อย่างแรกคือบังโคลนหน้ามีการยกสูงติดตั้งใต้ชุดหน้ากากแบบเดียวกับรถเอ็นดูโร่ ประโยชน์การใช้งานจริงจะช่วยไม่ให้ดินเข้ามาติดระหว่างล้อกับบังโคลนจนล้อหมุนไม่ได้ (นำไปใส่กับ Desert X รุ่นมาตรฐานได้นะ) มีการ์ดเครื่องยนต์ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์แรงอัดสูง น้ำหนักเบาและทนทานกว่าปกติ
ลวดลายบนชุดพลาสติกไม่ใช่การพ่นสี เป็นการใช้สติ๊กเกอร์เช่นเดียวกับในรถเอ็นดูโร่ แต่จะเป็นสติ๊กเกอร์แบบหนาช่วยป้องกันชิ้นส่วนพลาสติกไปในตัว และเมื่อไปลุย Off Road ล้มหรือเกี่ยวอะไรมาก็ไม่ต้องเปลี่ยนชุดบอดี้พาร์ทแค่เปลี่ยนชุดสติ๊กเกอร์ก็จบช่วยประหยัดไปอีก
มีการเพิ่มชุดกันสะบัดของ Ohlins เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เบาะนั่งสีแดงมีความแคบและยาวเป็นชิ้นเดียวในแบบ Rally มีแถบสีดำตัดสีกันลงตัว เบาะที่แคบและยาวเอื้อประโยชน์เมื่อต้องเคลื่อนย้ายร่างกายในการคอนโทรลรถบ่อยๆ บนทาง Off Road และมีซับเฟรมสีแดงเพิ่มความโดดเด่นและดุดัน
แป้นเหยียบเบรกและคันเกียร์เปลี่ยนใหม่พับได้ลดการหักงอเมื่อขี่ไปชนหินหรืออุปสรรคในทาง Off Road และยังปรับได้ 2 ระดับให้เหมาะเมื่อใส่รองเท้าบูทเอ็นดูโร่ขี่รวมถึงการยืนขี่ไม่ให้เท้าไปเลียเบรกตลอดเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัว
ช่วงล่างก็อัพเกรดใหม่
ช็อคอัพหน้า KYB High Spec แบบ Upside Down ขนาด 48 มม. มีช่วงยุบ 250 มม. (Desert X รุ่นมาตรฐานมีขนาด 46 มม. มีช่วงยุบ 230 มม.) ช็อคอัพมีเทคโนโลยี Closed cartridge มีการเคลือบพื้นผิวแบบพิเศษทั้งภายนอกและภายในด้วยเทคโนโลยี Kashima Coating และ DLC ช็อคอัพสามารถปรับ Compression และ Rebound ได้
เทคโนโลยี Closed cartridge คือน้ำมันจะถูกอัดแรงดันในตลับที่อยู่ด้านในกระบอกช็อคอัพ เพื่อป้องกันการเกิดฟองอากาศเมื่อมีการยุบยืดหรือกระแทกของช็อคอัพ ทำให้การยุบตัวมีความเสถียรและสม่ำเสมอ รองรับการใช้งานรูปแบบ Off Road ที่สมบุกสมบันได้อย่างดี
ช็อคอัพหลังเดี่ยว KYB ลูกสูบขนาด 46 มม. มีระยะยุบ 240 มม. (Desert X รุ่นมาตรฐานมีขนาด 40 มม.และมีระยะยุบ 220 มม.) ช็อคอัพหลังปรับการไหลของน้ำมันช็อคให้เหมาะกับการใช้งานแบบ Off Road เต็มรูปแบบ มีระบบ Bladder Pressurized System และปรับได้แบบ Fully Adjustable
ล้อซี่ลวดของ Takasago EXCEL ล้อหน้าขนาด 21″ x 2.15″ ล้อหลังขนาด 18″ x 4″ ดุมหลังอลูมิเนียม ซี่ลวดเหล็กกล้าคาร์บอน ติดยาง Pirelli Scorpion Rally STR พร้อมลุย โดยชุดล้อพร้อมยางจะเบากว่าใน Desert X รุ่นมาตรฐานอยู่ 0.5 กก.
มีการแยกสายน้ำมันเบรกหน้าซ้ายขวา มีบาร์อเนกประสงค์สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมพวก GPS หรือมือถือได้สะดวก มีความสูงเบาะนั่งที่ 910 มม. มี Ground Clearnce 280 มม.(เกือบฟุต) ถังน้ำมันเชื้อเพลิงจุ 21 ลิตร โดยรวมจะมีน้ำหนักตัวรวมของเหลวที่ 225 กิโลกรัม หนักกว่า Desert X รุ่นมาตรฐาน 2 กิโลกรัม
เครื่องยนต์และระบบอิเล็กทรอนิกส์
เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ V-Twin รหัส Testastretta 11° มีปริมาตร 937 cc. Desmodromic Valve ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้าที่ 9,250 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุด 92 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ/นาที
มี 6 โหมดขับขี่ คือ Sport, Touring, Urban, Wet, Enduro และ Rally มี Cornering ABS มี Ducati Traction Control (DTC) มี Ducati Wheelie Control (DWC) ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดถูกปรับให้เหมาะกับการใช้งานบนทาง Off Road
ในรุ่นนี้ให้หน้าจอเรือนไมล์ TFT สี และเป็นจอ High-Resolution ขนาด 5 นิ้ว Multifunction เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ และจอ TFT รุ่นนี้ติดตั้งมาในแนวตั้งตามสไตล์หน้าจอของรถ Rally และมีระบบนำทางแบบ Turn by Turn ด้วนะ แต่เป็นออฟชั่นเสริม
Ducati Desert X Rally ราคา 869,000 บาท มีเวอร์ชั่นเดียวเหมือนกันทั่วโลก
ผมเองได้ลองขี่ 15 นาที ในสนามปิดวนในทาง Off Road กับสภาพสนามที่ฉ่ำฝน อย่างแรกเลยคือเบาะรถสูงในแบบฉบับรถ Off Road ขนาดใหญ่ ด้วยช็อคอัพหน้าที่สูงขึ้นกว่ารุ่นมาตรฐานด้วย แต่เมื่อขี่ออกไปรถมีบาลานซ์ที่ดีมากเลย ลองขี่เลี้ยววนไปมาบนทาง Off Road รู้สึกได้ว่าเบาแรง คล่องตัว ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยขี่ตอบสนองไว แต่อยากสนุกก็ต้องปิด DTC หน่อย
ผมขี่ออกจากสนาม Off Road มาในแทร็คทางดำ Desert X Rally เป็นรถที่ขี่ทางดำได้ดีเลยนะ ช่วงล่างก็ยังให้ฟีลหนึบหนับ เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเร้าใจแต่สมู้ท ทำให้ขี่สนุกขี่ง่าย
และผมก็ได้คุยกับ “บังฮีม-สมชาย และกา” อดีตนักแข่งเอ็นดูโร่ชื่อดังในมุมมองที่เขาได้ลองขี่รุ่นนี้ในทาง Off Road ได้ความว่า “เป็นรถที่ขี่สนุก ลุยได้มันส์ เบาแรง เบาะที่สูงไม่ได้มีผลอะไร แต่ใต้ท้องรถที่สูงทำให้มั่นในในการลุย โดยรวมเป็นรถที่ขี่ในทาง Off Road ง่ายและสนุก” นั่นคือคำบอกเล่าจากอดีตนักแข่งเอ็นดูโร่ ถ้าทักษะขี่รถดีรับรองรถพาไปเที่ยวได้อีกเยอะครับ คลิปรีวิวตามดูต่อที่ > Youtube : MotoMotion Special Thank : Ducati Thailand , Panda Rider สำหรับอุปกรณ์ขับขี่
บทความรีวิว Ducati Hypermotard 698 Mono
คลิปรีวิว 2023 Ducati Diavel V4
รีวิว Ducati Diavel V4
ขี่ Panigale V4S เที่ยวเขาใหญ่
สัมภาษณ์พิเศษผู้บริหารดูคาติไทยแลนด์ชุดใหม่
พรีวิว ดูคาติ มอนสเตอร์ 937
เปิดตัว โมโตเร อิตาเลียโน
คลิป ทดสอบรีวิว Panigale V2 ที่ประเทศสเปน คลิก
ทดสอบ รีวิว Streetfighter V4S ที่สนามช้างฯ คลิก
ทดสอบ รีวิว Panigale V2 ถึงประเทศสเปน คลิก
รีวิว Scrambler Icon และ Desert Sled คลิก
คลิป Panigale V4S แต่งใส่ท่อ Austi