บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เปิดตัว “บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition)” ปลุกจิตวิญญาณนักผจญภัยบนเส้นทางบทใหม่กับบิ๊กไบค์ระดับตำนานตระกูล GS

0

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กลับมาปลุกจิตวิญญาณการผจญภัยบทใหม่ที่มาพร้อมกับความท้าทายให้กับนักบิดชาวไทยอีกครั้ง เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานในตระกูล GS กับบีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition) สานต่อเอกลักษณ์อันโดดเด่นของตระกูล F-Series ที่พกพาทั้งสมรรถนะออนโรดและออฟโรดมาอย่างเต็มเปี่ยม นอกจากจะให้กำลังและแรงบิดที่มากขึ้นแล้ว ยังนำเสนอคุณลักษณะที่โดดเด่นของมอเตอร์ไซค์แบบทัวริ่งพร้อมกับความสามารถในการขับขี่แบบวิบากที่เหนือชั้นอีกด้วย

รูปลักษณ์ที่ดุดันและเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ของ F 850 GS (Sport Edition) สะท้อนการออกแบบที่ให้ความรู้สึกของการผจญภัยที่สัมผัสได้ในทุกผิวสัมผัส ทุกมุมมอง และทุกเส้นสายของตัวรถ จากด้านท้ายจนถึงถังน้ำมัน ไปจนถึงไฟหน้าในแบบฉบับของ GS เน้นความโดดเด่นของระบบกันสะเทือนด้านหน้า องค์ประกอบการออกแบบตั้งแต่หน้าจรดท้าย เพิ่มความเท่และความเร้าใจให้กับทั้งการขับขี่บนถนนและเส้นทางออฟโรด มร. มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “หลังจากการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีแห่งความสำเร็จของมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งเอ็นดูโร่ จากตระกูล GS ในปีที่ผ่านมา ในปีนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ยังคงเดินหน้ายกระดับประสบการณ์และความสนุกในแบบ GS ขึ้นไปอีก ด้วยการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition) ที่จะมาสร้างความเร้าใจให้กับนักบิดสายผจญภัย ด้วยเอกลักษณ์จากบิ๊กไบค์ระดับตำนานตระกูล GS ที่มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ที่ตอบสนองการขับขี่ในทุกโอกาส ช่วยให้ผู้รักมอเตอร์ไซค์ชาวไทยได้สัมผัสกับสุดยอดการผจญภัยในเส้นทางใหม่ ๆ อันน่าตื่นเต้นได้”

บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition)

ราคาจำหน่าย 489,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition) ผสานเอกลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์แบบทัวริ่งเข้ากับสมรรถนะออฟโรดเหนือชั้นไว้ได้อย่างลงตัว มาพร้อมพละกำลังของเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด
853 ซีซี ทรงพลังด้วยกำลัง 70 กิโลวัตต์ (95 แรงม้า) ที่ 8,250 รอบต่อนาที และแรงบิด 92 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาที พร้อมระบบควบคุมไอเสียแบบ Closed-Loop ชนิด 3 ทาง Catalytic Converter

เฟรมโครงสร้างได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เสริมประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนด้วยโช้คหัวกลับและสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียม ให้การควบคุมการขับขี่ไม่เหมือนใครบนเส้นทางออฟโรด พร้อมโหมดการขับขี่มาตรฐาน ‘Rain’ และ ‘Road’ ให้ผู้ขับขี่ผจญภัยได้ในทุกสภาพถนน นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่ ‘Dynamic’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ Dynamic ESA, Dynamic Traction Control (DTC), Keyless Ride และ ABS Proนอกจากนั้น บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition) มาในสี Pollux Metallic Matte แบบ exclusive พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ว่าจะเป็น ท่อไอเสียแบบสปอร์ต HP Akrapovic แบบ Slip-Onดำ ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม มาพร้อมการ์ดกันความร้อนแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยให้เสียงท่อมีความหนักแน่นน่าประทับใจ และให้ความรู้สึกถึงการแข่งรถเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ ส่งความแรงทั้งในด้านรูปลักษณ์ดีไซน์และเสียงอันเร้าใจ โดยท่อคุณภาพสูงแบบ Slip-On รุ่นนี้มีน้ำหนักเบาลงจากรุ่นเดิมถึง 2.3 กิโลกรัม

ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Gear Shift Assistant Pro ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงได้โดยไม่ต้องกำคลัตช์ นอกจากจะช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้น ยังเป็นการเพิ่มไดนามิกให้กับการขับขี่ นอกจากนั้น ชุดแครชบาร์สแตนเลสสตีล ช่วยป้องกันความชำรุดเสียหายที่อาจเกิดกับฝาครอบเครื่องยนต์หากรถล้ม นอกจากนั้น กระจกบังลมขนาดใหญ่ยังช่วยป้องกันลมและอากาศที่มาปะทะอย่างเหนือชั้นให้กับผู้ขับขี่ และเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางสไตล์ทัวริ่งอีกด้วยกล่องสัมภาระแบบอะลูมิเนียมกันน้ำ มีความจุถึง 32 ลิตร และเบาะรองหลังที่เสริมเข้ามาบนกล่องท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการนั่งให้กับผู้โดยสารอีกด้วย ไฟเลี้ยว LED ที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงดีไซน์ที่เพรียวบางและเทคโนโลยีไฟส่องสว่างที่ทันสมัย ไฟชุดดังกล่าวสามารถตอบสนองได้เร็วกว่าหลอดแบบไส้ ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบด้านความปลอดภัยที่เห็นได้อย่างชัดเจน

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.5 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 194,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 5.222 พันล้านยูโรจากรายได้รวม 98.990 พันล้านยูโรโดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 120,726 คนทั่วโลกความสำเร็จของบีเอ็ มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี โดยวางรากฐานความสำคัญสำหรับอนาคตตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตั้งแต่กระบวนการการผลิตสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือซัพพลายเชนในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยองในปี 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 11,032 คัน โดยแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 9,982 คัน และยอดจดทะเบียนรถยนต์มินิ 1,050 คัน ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดรวม 1,197 คัน

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่าง ๆ ทั้งหมด 18 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู X6 และบีเอ็มดับเบิลยูู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
1397

www.bmw.co.th     www.mini.co.th     www.bmw-motorrad.co.th      

สื่อมวลชนติดต่อ  บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)

เบญจา หวังพีระวงศ์ (08-1629-5924 or 0-2627-3501 ต่อ 218)
ปวริศา ธนวจีรัณ (08-6564-4726 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 125) 

จิรวัฒน์ อรรคจันทร์ (09-3636-1241 or 0-2627-3501 ต่อ 101)
sboonsaeng@carlbyoir.combwangpeerawong@carlbyoir.compthanawajeran@carlbyoir.comjakachan@carlbyoir.com