BMW F850GS ความชัดเจนของรถลุยสาย Dirt ด้วยวงล้อซี่ลวด มีล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว มีโหมด Enduro และความสูงของรถที่เพิ่มขึ้น รองรับเส้นทาง Enduro ที่ยากจะเข้าถึงมากขึ้นไปอีกขั้น
รถ Adventure Touring ขนาดกลางของ BMW มีด้วยกัน 3 รหัส F750GS , F850GS และ F850GS Adventure ทุกรหัสจะใช้เครื่องยนต์เดียวกันแต่มีการปรับย่านกำลังต่างกันระหว่างรหัส 750 กับ 850 รวมถึงออฟชั่นที่ต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานที่ตรงโจทย์ แยกการใช้งานได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น
ก่อนหน้านี้เราได้รีวิว F750GS กันไปแล้ว ครั้งนี้มาดู F850GS กันบ้าง ซึ่งการออกแบบรวมถึงออฟชั่นที่ใส่มา ทำให้ทั้ง 2 รุ่นนี้มีจุดประสงค์การใช้งานที่ค่อนข้างต่างกัน แม้จะเป็นรถ Adventure Touring หรือ Dual Purpose ประเภทเดียวกันก็ตาม
Parallel Twin 853 cc.
เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 2 สูบเรียง DOHC 4 วาล์ว/สูบ ปริมาตร 853 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้าที่ 8,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 92 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบ/นาที มีอัตราส่วนกำลังอัด 12.7:1 คลัทช์เปียก เกียร์ 6 สปีด ขับโซ่
จากตัวเลข F850GS มีแรงม้าและแรงบิดมากกว่า F750GS และใช้รอบเครื่องสูงกว่าตามไปด้วย นี่คืออีกหนึ่งในความต่างของทั้ง 2 รหัส ให้ผู้ขี่ได้เลือกใช้ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากขึ้น
ช่วงล่างไฟฟ้า Dynamic ESA
Dynamic ESA ช่วงล่างไฟฟ้าที่เป็นมาตรฐานของรุ่นนี้ ก็ขอพูดถึงอีกที่ ระบบจะมีเซ็นเซอร์ที่โช้คหลังและเซ็นเซอร์จับความเอียงของรถ จะสั่งการทำงานไปโช้คหลังโดยมีกระบอกสีทองที่เหน็บอยู่ที่ซับเฟรมด้านซ้ายของตัวรถ กระบอกนี้ทำหน้าที่เก็บและควบคุมแรงดันน้ำมันที่มีผลต่อ Compression และ Rebound เพื่อให้สัมพันธ์กับโหมดขับขี่ที่เราเลือกใช้และสภาพถนนที่เราจะขี่ไปแบบ Real Time
กันสะเทือนเลือกโหมดได้
นอกจากนี้ยังเลือกโหมดการทำงานของโช้คอัพได้ 2 โหมดคือ Road และ Dynamic และยังเลือก Preload ได้ 3 รูปแบบการใช้งานคือ ขี่คนเดียว, ขี่คนเดียวมีสัมภาระ และ มีผู้ซ้อนท้าย เลือกโหมดและรูปแบบการใช้งงานได้สวิตซ์แฮนด์และจะแสดงโหมดที่เลือกบนเรือนไมล์ LCD
โหมดขับขี่ ระบบช่วยขับขี่ต่างๆ
โหมดขับขี่มีให้เลือก 4 โหมด คือ Road, Rain, Dynamic และ Enduro ตรงโจทย์สายลุย ระบบช่วยขับขี่ที่ให้มม่ก็จะมีระบบ ASC Automatic Stability Control หรือระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอัตโนมัติ ระบบจะจำกัดแรงบิดที่ลงสู่ล้อหลังเมื่อล้อหลังมีอาการเสียหลัก หรือลื่น สามารถควบคุมรถให้ผ่านไปได้โดยปลอดภัย และระบบ ABS ที่ขึ้นชื่อของ BMW Motorrad
ส่วนตัวผมเองคิดว่าทั้ง Traction Control กับระบบ ASC มีการทำงานที่คล้ายกันอยู่ อาจจะมีการทำงานที่แตกต่างกันในบางเงื่อนไขหรือบางกรณี เช่นอัตราการทำงานของระบบจะแปลผันตามโหมดขับขี่ ซึ่งการทำงานต่างหรือไม่ต่างกันอย่างไรถ้ามีข้อมูลจะนำมาบอกกล่าวให้ทราบกันอีกทีครับ ชื่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ในหลายค่ายใช้เรียกต่างกัน แต่การทำงานเหมือนกันซึ่งในปัจจุบันแบบนี้มีค่อนข้างเยอะอยู่
เพื่อการลุยหรือการเดินทางที่ไกลกว่า
ชัดเจนที่มีโหมด Enduro และที่สำคัญคือ ล้อซี่ลวด เป็นล้อยางแบบ Tubeless โดยล้อหน้าให้มาถึง 21 นิ้ว เท่ากับรถ Enduro แท้ๆ เลยล่ะครับ รวมถึงความสูงของรถที่ค่อยข้างสูง เบาะนั่งสูง 860 มม. ผมที่สูง 172 พร้อมรองเท้าบูทยังต้องเขย่งนิดๆ นอกจากจะเอียงก้นช่วยวางเท้าเดียวก็ได้เต็มพื้นอยู่
ลองขี่กันหน่อย
ผมลองขี่ F850GS แบบ One Day Trip ใกล้ๆ แต่ก็ได้ระยะทางราว 400 กิโลเมตร นอกจากฝนหนักๆ ก็มีออกนอกเส้นทางเป็นทาง Off Road เล็กน้อย ผมอาจจะเทียบกับรุ่น F750GS ให้เห็นความต่างบ้าง มาเริ่มกันเลย เรื่องการขี่บนทางดำ ทางนั่งสบาย สไตล์รถ Adventure Touring การทางตัวดี แต่จะไม่เท่ากับรุ่น F750GS ที่มีล้อยางหน้ากว้างกว่า เพื่อขี่บนทางดำได้ดีกว่า
เบาะนั่งค่อยข้างสูง การเดินทางทั่วไปไม่มีอะไรเป็นปัญหา ช่วงล่างรูดอุปสรรคบนถนนได้เลย สบายมาก พละกำลังของเครื่องยนต์มากเลยล่ะ ในระดับความเร็วเท่ากันกับ F750GS จะใช้รอบเครื่องที่สูงนิดนึง ในรอบต่ำจะแซงให้มั่นใจมากขึ้น เชนเกียร์ช่วยจะเร้าใจกว่า
ทาง Off Road คือทางของ F850GS เลย ทุกอย่างที่ผมได้พูดไปในข้างต้นออกแบบมาเพื่อลุย ขนาดของล้อหน้าที่ใช้งานบนทางดำกับความเร็วสูงๆ ไม่ดีนัก แต่ในทางลุยสาดได้เลย
ยิ่งถ้าได้เปลี่ยนยางหน่อยก็รูดทางลูกรังหรือทาง Off Road ด้วยความเร็วแบบติดปีก ช่วงล่างเก็บหลุมบ่อได้เนียนสุดๆ รวมถึงล้อที่เป็นแบบซี่ลวดมีความยืดหยุ่นในตัวเองรองรับแรงกระแทกได้อย่างเด็ดขาด
BMW F850GS ราคา 459,000 บาท
สรุป
ใครที่ชอบในตระกูล GS อยุ่แล้วก็ไม่ต้องลังเล F850GS สร้างมาเพื่อใช้งานแบบ Dual Purpose จริงๆ คือใช้ได้ทั้งทางดำและทาง Off Road และเด่นในทาง Off Road ด้วยช่วงล่างทั้งหมดที่ให้มา ความสูงของรถและโหมด Enduro ที่ให้มาแบบเจาะจง แต่การเดินทางบนทางดำยาวๆ จะเป็นรอง F750GS ในเรื่องการทรงตัวด้วยเพราะหน้ายางของ 750 กว้างกว่าและมีแรงบิดที่ใช้รอบเครื่องต่ำกว่า คนขาสั้นขี่สบายกว่าด้วย ดังนั้ง F850GS ค่อนข้างจะเจาะกลุ่มคนที่เอาไปใช้ในทาง Off Road บ่อยๆ ออกนอกเส้นทางได้ไกลกว่า ใส่ยางหนาม ทักษะถึง แรงดีๆ ถึงไหนถึงกัน ที่สำคัญล้อซี่ลวดนี่มันเท่จริงๆ ครับ
Special Thank : BMW Motorrad Thailand , REV’IT! , CABERG Helmet , PANDA RIDER
คลิปรีวิว BMW F850GS
คลิป ริวิว F750GS
บทความรีวิว BMW R18 First Edition
คลิป รีวิว BMW R18
คลิป เรียน California Superbike School คลิก
บทความเรียน California Superbike ที่สนามช้างบนรถ S1000RR
ทดสอบ ขี่ BMW C400X ออกทริป คลิก
ทดสอบ 2019 BMW R1250GSA คลิก
ทดสอบ 2018 BMW F850GS / F750GS คลิก
คลิปทดสอบ BMW R1250GSA คลิก
คลิปทดสอบ BMW C400X คลิก