Honda ADV150 สตรีทแอดเวนเจอร์ รถสไลต์ใหม่ล่าสุดจากฮอนด้า เป็นการผสานเอารถแบบสกู๊ตเตอร์รวมเข้ากับรถสไตล์แอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่ง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือร่างย่อส่วนของ Honda X-ADV750 นั่นเอง พิเศษกว่าสกู๊ตเตอร์ในท้องตลาดอย่างไร มีคำตอบ
การทดสอบครั้งนี้เป็นรูปแบบท่องเที่ยว ซึ่งผมก็เลือกที่จะไป จ.ราชบุรี เนื่องจากมีสภาพเส้นทางที่หลากหลาย โค้งขึ้นลงเขาและมีเส้นทาง Enduro ที่เป็นไฮไลท์คือ “เขากระโจม” และรองลงมาก็เป็น “ห้วยคอกหมู” ครั้งนี้ผมก็ได้พาพี่ใหญ่ Honda X-ADV 750 ที่เพิ่งออกจากโชว์รูมมาสดๆ ร้อนๆ ซึ่งเป็นรถส่วนตัวของ “แอดมินต่อ” คนที่ดูแลเว็บ MotoMotion ของเรามาร่วมทริปอีกด้วย
ช่วงล่างอันเป็นจุดเด่น กับออฟชั่นที่ออกแบบมาเพื่อลุย
เรียกได้ว่าจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือช่วงล่างนั่นล่ะครับ โช้คอัพทั้งหน้าและหลังมีระยะยุบมากกว่ารถในสกู๊ตเตอร์คลาสเดียวกัน โดยโช้คหลังคู่นั้นยังเป็นแบบมีซับแท็งก์ ที่คอยซับและคายแรงดันน้ำมันโช้คภายในกระบอกอย่างเป็นระบบอีกด้วย
ระบบเบรกก็เป็นดิสก์เบรกทั้งหน้าและโดยจะมีระบบ ABS ติดมาเป็นมาตรฐานด้วย แต่จะให้มาเฉพาะในเบรกหน้าเท่านั้น ประโยชน์ที่ไม่ใส่ ABS มาในเบรกหลัง เพราะด้วยสไตล์รถเป็นรถที่สามารถนำไปลุยได้ เมื่อลุยในทาง Enduro การใช้เบรกหลังให้มีประสิทธิภาพในเส้นทางแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีระบบ ABS เช่นเดียวกับรถ Enduro แท้ๆ ที่จะไม่มีระบบ ABS มาให้ รวมถึงรถ Adventure Touring ขนาดใหญ่ที่จะมีตัวตัดการทำงานของระบบ ABS ออก เมื่อต้องการลุย
แฮนด์แบบ Tapered Bar แบบเดียวกันรถลุย คอนโทรลรถได้ดี ปลายท่อไอเสียก็ออกแบบให้ยกเชิดขึ้นสไตล์แอดเวนเจอร์ส่วนประโยชน์เมื่อต้องลุยน้ำท่วมขัง โอกาสที่น้ำจะเข้าท่อก็เป็นไปได้ยากขึ้น
ยางที่ให้มาขนาด 110/80 -14 และ 130/70-13 ยังเป็นยางแบบ Semi Dual Purpose คือมีดอกยางขนาดใหญ่คล้ายกับยาง Off Road พร้อมลุย
ฟังก์ชั่นทันสมัย ใช้งานสะดวก
อุปกรณ์มาตรฐานที่ติดรถทันสมัย ไฟส่องสว่างรอบคันเป็น LED มี Daytime Running Light (DRL) เป็นแนวยาวต่อจากไฟหน้าเห็นได้ชัดเจน และ Emergency Stop Signal (ESS) ไฟฉุกเฉินที่จะกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน ให้รถคันที่ตามหลังมาได้เห็นและเพิ่มความระมัดระวัง
ระบบกุญแจเป็น Honda Smart Key System หรือ Keyless ที่มีฟังก์ชั่นใช้ระบุตำแหน่งรถได้ เป็นสัญญาณกันขโมย ระบบนี้จะติดรถเป็นมาตรฐานของรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นใหม่ๆ เกือบทุกรุ่นไปแล้ว
มี Power Charge ที่ชาร์จไฟอุปกรณ์ภายนอกขนาด 12V. ซ่อนอยู่ในช่องเก็บของที่คอนโซลด้านซ้าย หัวต่อเป็นแบบที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ ต้องซื้อหัวต่อแบบ USB มาเพิ่ม ใช้ชาร์จ Gagged ต่างๆ โดยเฉพาะมือถือได้ แต่ช่องคอนโซลที่ว่านี่ล็อคไม่ได้นะครับ ฉะนั้นจะชาร์จอะไรแล้วใส่ไว้ในนี้ จอดรถแล้วก็อย่าลืมเอาออกไปด้วย
เรือนไมล์แบบ Full LCD บอกข้อมูลระเอียดมากๆ ดีไซน์คล้ายๆ พี่ใหญ่ X-ADV หล่อ ดูแพง และชิลด์บังลมหน้าหรือ Windscreen ก็สามารถปรับได้ 2 ระดับ
Trip Test มาขี่กันหน่อย
เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมได้ขี่ Honda ADV150 ครั้งแรกเมื่อตอนเปิดตัวและเปิดให้จองที่เซ็นทรัลเวิลด์และทำสถิติกวาดยอดจอง 2 วันไปถึง 555 คัน โดยฮอนด้าเปิดให้สื่อมวลชนได้ลองขี่ทดสอบต่อที่สนามฮอนด้าเซฟตี้ฯ สุขาภิบาล 3 ก็เป็นการขี่แบบคร่าวๆ ครั้งนี้ผมจึงพาออกมาออกกำลังใช้งานจริง(เกินจริง)กันหน่อย
เส้นทางที่ผมเลือกไว้ คือขี่ขึ้น เขากระโจม และ ห้วยคอกหมู จ. ราชบุรี เป็นเส้นทางธรรมชาติและถือเป็นไฮไลท์สำหรับสายเอ็นดูโร่ แน่นอนมันเป็นเส้นทางที่ “เกินจริง” ที่จะเจอในชีวิตประจำวัน (ถ้าเราไม่ใช่ จนท.ที่ทำงานข้างบนนั้นนะ ฮ่า)
ครั้งนี้มี “แอดมินต่อ” ที่เพิ่งจะถอย X-ADV750 มาสดๆ ร้อนๆ ขี่มาร่วมทริปด้วย จึงทำให้ได้ภาพคุ่กันของรถสไตล์เดียวกันแต่ขนาดต่างกันให้ได้ดูกัน แต่ด้วยการเดินทางของเราเรทเวลาไปมาก บ่ายสองเรายังขี่เล่นบนพื้นราบกันอยู่เลย
ซึ่งการขี่เดินทางไกลบนเส้นทางหลวงทางหลักปกตินั้น ADV150 ทำได้ดีเลยทีเดียว ท่านั้งสบายๆ ผมขี่ยืนพื้นที่ 100 กม./ชม. พร้อมผู้ซ้อนท้าย ช่วงล่างที่ฮอนด้าบอกมีระยะยุบกว่ารุ่นอื่นๆ ทำงานได้ดีเลยล่ะ นิ่ง แน่น ไม่ย้วย ไม่เป๋ แม้จะกำคันเร่งเข้าโค้งต่อเนื่องแบบติดๆ กัน จะมีก็แต่เสียงยางดอกใหญ่ที่บดกับถนนให้ได้ยินอยู่บ้างเท่านั้น
แฮนด์ที่กว้างแต่กระชับแข็งแรง และช่วงขากับพักเท้าที่มีระยะยาวพอสมควร ยาวกว่ารถสกู๊ตเตอร์ขนาดเดียวกัน เหมือนนั่งเก้าอี้ ไม่เมื่อยดี แต่ที่วางเท้าหรือ Floorboard มีพื้นที่น้อยไปนิดสำหรับผม แต่ก็อาจด้วยปัจจัยที่ผมเองนั้น ดันใส่รองเท้าเอ็นดูโร่ที่มีขนาดใหญ่ไปด้วยนั่นเอง
อีกเรื่องคือความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่งที่ 795 มม. ที่ทางฮอนด้าออกแบบให้ค่อนข้างสูงตามสไตล์รถ Adventure Touring กับเบาะนั่งที่กว้างสบายนั้น ถือว่าสูงอยู่ ผมสูง 172 ซม. วางเท้า 2 ข้างลงพื้นได้เต็มเท้า แต่ก็ต้องเหยียดขาเกือบสุดแทบจะไม่งอเข่า ถ้าคนที่สูงน้อยกว่า 160 จะค่อนข้างสูงพอสมควร ถ้าทางเรียบก็สบายๆ แต่ถ้าต้องลุยก็อาจต้องระวังพื้นหายในทางต่างระดับอยู่บ้าง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ Inseam length หรือระยะความยาวช่วงขาด้านในแต่ละคนด้วย
เวลาล่วงเลยจนจะบ่าย 2 โมง ด้วยปัจจัยด้ายเวลาและ X-ADV750 ที่แอดมินต่อคุมบังเหียนอยู่นั้นจึงเป็นปัญหา ที่เราต้องคิดใหม่ในเรื่องที่จะขึ้น “เขากระโจม” ด้วยเพราะแอดมินต่อยังเป็นมือใหม่ในเส้นทางนี้และเรามีกัน 3 คน รถ 2 คัน ผมซ้อน 2 ด้วย และต้องสลับมาขี่ X-ADV เพื่อผ่านอุปสรรคต่างๆ ด้วย และต้องถ่ายงานนี้ไปด้วย ผมต้องเหนื่อยและมืดค่ำแน่นอน
จังหวะเดียวกับแอดมินต่อติดธุระต้องขี่ X-ADV750 กลับก่อนพอดี ผมจึงตัดสินใจขี่ซ้อนสองเหมือนเดิม แต่ขึ้น “ห้วยคอกหมู” พอ เซฟทั้งความปลอดภัย เซฟทั้งเวลา และได้งานชัวร์ๆ แฮร่ แน่นอนครับเส้นทางขึ้นห้วยคอหมูสั้นและโหดน้อยกว่าทางขึ้นเขากระโจม แต่ก็โหดและสนุกพอจะทดสอบรถสกู๊ตเตอร์ขนาด 150 ซีซี ในทางลุยได้อยู่
ผมขี่ซ้อนสองขึ้นห้วยคอกหมูโดยไม่ลังเล เพราะเดี๋ยวเวลาจะเย็นและมืดซะก่อน ตายิ่งสั้นๆ มองไม่เห็นทางอยู่… เส้นทางเป็นเนินชันเป็นช่วงๆ แต่ตลอดเส้นทางจะมีฝุ่นแป้งหนาๆ “ลื่น” พอสมควรโดนเฉพาะถ้าอยู่บนเนินหินชันๆ แต่กำลังของเครื่องยนต์ 150 ลูกนี้ขึ้นได้สบายครับ แม้จะซ้อน 2
บางช่วงก็มีให้คนซ้อนลงเดินครับ เพราะท้องรถไม่สูงนัก ติดคาเนินหินได้ ถึงแม้จะเป็นรถแนวใหม่เอื้อต่อการลุย แต่ก็ลุยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นนะครับ ทางเนินหินยาวๆ กับรอยล้อ 4 wd ลึกๆและฝุ่นแป้ง ในภาวะซ้อนสองดันเนินชันๆนี้ จะมีกลิ่นคลัทช์ไหม้บางๆ โชยมาอยู่บ้าง เพราะรถออกแรงเยอะ ทำให้ต้องเบามือลงบ้าง แต่รถก็ยังมีแรงบิดเฉื่อยๆ พร้อมช่วงล่างที่มีระยะยุบรองรับแรงกระแทกได้ดี กับยางบั้งใหญ่ๆ ที่ช่วยให้ไต่พ้นอุปสรรคไปได้ดีกว่ารถสกู๊ตเตอร์พิกัดเดียวกันแน่นอน
ในขาลงยิ่งเห็นการทำงานของช่วงล่าง เพราะมีแรงส่งจากการไหลลงเขาช่วย หลายอุปสรรคบนพื้นอาทิ หลุม เนิน กรวด หินลอย ถูกช่วงล่างของ ADV150 เก็บงานเป็นอย่างดี(ถ้าไม่ใหญ่เกินไปนะ) สามารถคอนโทรลรถเลี้ยวหลบอุปสรรคได้
ดิสก์เบรกหลังที่ไม่มีระบบ ABS เราสามารถกำเบรกให้ล้อล็อคสไลด์เปลี่ยนไลน์เพื่อหลบอุปสรรค หลบรถสวนขึ้นมา หรือเลี้ยวตามทางวิ่งได้ไม่ยาก และอย่าลืมว่ารถสกู๊ตเตอร์แบบนี้ไม่มี Engine Brake ช่วยเวลาไหลลงเนินหินเนินดินชันๆ ในทาง Enduro เบรกและช่วงล่างที่ดีจะทำให้เราข้ามผ่านอุปสรรคได้ไม่ยาก
ผมลงมาจาก ห้วยคอกหมู ไม่เย็นมากนัก คือใช้เวลาขึ้นและลงแป๊บเดียวเท่านั้น ADV150 พึ่งพาทำเวลาได้ดี โดยไม่มีอะไรเสียหาย แต่ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปเราคงไม่เจอสภาพทางแบบนี้ทุกวัน!!
สรุป ว่า….
ที่ผมจะบอกหรือสรุปในที่นี้คือ Honda ADV150 รถ Street Adventure A.T. รถสไตล์ใหม่ล่าสุดนี้ สามารถใช้งานได้แบบรถ A.T. หรือรถสกู๊ตเตอร์ทั่วไป ใช้ได้ทุกวัน แต่เหนือกว่าด้วยช่วงล่างที่จะมีระยะยุบและการซับแรงกระทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะเมื่อเราใช้งานใน กทม. นี่แหล่ะ หลุม บ่อ ถนนที่ถูกขุดแล้วกลบไม่เหมือนเดิม เนินลูกระนาดตามหมู่บ้าน ฝาท่อ และอุปสรรคบนถนนอื่นๆ อีกมากมาย ADV150 จะพารูดผ่านไปได้สบายๆ แรงกระแทกที่จะมากระทำต่อคนขี่และคนซ้อนจะน้อยลงกว่ารถสกู๊ตเตอร์ทั่วไป
กำลังเครื่องยนต์ อย่างที่รู้กันว่าพัฒนามาจาก PCX150 มีการปรับเปลี่ยนในทางกลไกหรือทางเทคนิคบ้างเพื่อให้เข้ากับสไตล์ของรถ ใช้งานได้ปกติเลยครับ อัตราเร่งดี คือผมไม่ได้วิ่งวัดกับ PCX นะแต่ก็แทบไม่ต่าง คือถ้า PCX วัยรุ่นนิยมมาแต่งซิ่งเพราะเครื่องยนต์เฟี้ยว เจ้า ADV150 ก็ซิ่งบนทางเรียบได้ไม่แพ้กันล่ะนะ
อุปกรณ์ติดรถก็ทันสมัย ครบถ้วนการใช้งาน จะมีข้อสังเกตก็คือพื้นที่ใต้เบาะเล็กไปนิดนึง ด้วยดีไซน์จึงเป็นเช่นนั้น แต่ก็ยังใหญ่พอจะเก็บหมวกกันน็อคแบบ Open Face ได้อยู่ มีที่ชาร์จไฟ ใช้งานสะดวก หรือจะหาขายึดมือถือมาติดแล้ววิ่งงานจาก Application ยอดฮิตต่างๆ พวก Grab , Panda ได้ดีเลยล่ะ
Honda ADV150 ราคา 97,900 บาท มีใช้เลือก 3 สี ออฟชั่นเดียวกัน คือ Adventure Red (สีแดงคาดสติ๊กเกอร์) , Tough Matte Black (สีดำมีโลโก้เป็นเอมเบรมตัวนูน) และสี Tough Matte Brown (สีน้ำตาลมีโลโก้เป็นเอมเบรมตัวนูน)
ขอบคุณ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด
เสื้อ REVIT! รุ่น SAND3 จาก PANDA RIDER
คลิปรีวิวทดสอบ คลิก
พรีวิวเปิดตัว ADV150 คลิก
ทริป Grand Touring ครั้งที่ 9 ขึ้นเหนือ คลิก