2026 Yamaha R7 ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ ทั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ แชสซี และการควบคุม โดยยังคงเครื่องยนต์ CP2 ขนาด 689 ซีซี. เอาไว้เหมือนเดิม แต่เสริมเทคโนโลยีระดับเรือธงจากรุ่นพี่ R1 อย่างจัดเต็ม

เครื่อง CP2 เดิมๆ
ขุมพลัง CP2 2 สูบเรียง 689 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ โดดเด่นด้วยแรงม้าสูงสุด 72.4 แรงม้า (bhp) ที่ 8,750 รอบ/นาที และแรงบิด 68 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที เป็นเครื่องยนต์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน การใช้งานบนถนนทั่วไปได้รอบด้านและการตอบสนองที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งเพิ่งได้รับการอัปเดตให้ผ่านมาตรฐาน EURO 5+ ตามแบบ MT-07 ปีล่าสุดไป
“นี่จึงเป็นบล็อคขนาดมิดเดิลเวทที่ถือว่ากลมกล่อมในทุกด้านมากๆจาก Yamaha”

เทคโนโลยีจัดเต็มจาก R1
หัวใจสำคัญของการอัปเกรดครั้งนี้คือการติดตั้งระบบ IMU 6 แกน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับใน YZF-R1 ทำให้ได้ระบบช่วยเหลือการขับขี่มารอบคัน รวมถึงการประมวลผลต่างๆที่ต้องใช้ Cornering Sensitive .. ประกอบด้วย :
- Power Delivery ปรับแรงตอบสนองคันเร่งได้ 3 รูปแบบ
- Traction Control System (TCS) ปรับได้ 3 ระดับ พร้อม Slide Control
- Lift Control และ Brake Control
- Engine Brake Management (EBM) ปรับได้ 2 ระดับ เลือกแรงหน่วงเครื่องยนต์เมื่อทำการ Engine Brake
ใครสายแทร็กก็ไม่ผิดหวัง เพราะ Yamaha ใส่ Launch Control มาให้ด้วย พร้อมโหมดขับขี่หลัก 3 โหมด — Sport, Street และ Rain — รวมถึงโหมด Custom อีก 2 แบบที่สามารถตั้งค่าได้ผ่านแอป Yamaha MyRide

คันเร่งไฟฟ้า Y-CCT และ Quick Shift เจนฯ 3
R7 2026 ยังได้ระบบ Yamaha Chip Controlled Throttle (Y-CCT) ซึ่งเริ่มใช้ครั้งแรกใน YZF-R6 เมื่อปี 2006 และปัจจุบันถูกติดตั้งใน R1 และ R9 แล้ว ช่วยให้การตอบสนองคันเร่งมีความแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ ยังมาพร้อม Quick Shift System (QSS) รุ่นเจนฯที่ 3 ปรับได้ 2 โหมด โดยโหมดแรกรองรับทั้งการเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลงโดยไม่ต้องบีบคลัตช์ ส่วนโหมดที่สองออกแบบมาให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ลงได้เมื่อเร่งความเร็วขึ้น หรือเปลี่ยนเกียร์ขึ้นเมื่อลดความเร็วได้เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานนอกสนามแข่ง

เฟรมใหม่ ช่วงล่างเบา คล่องตัว
Yamaha ลงรายละเอียดโครงสร้างใหม่ โดยทำน้ำหนักเท่ารุ่นก่อนหน้า แต่ปรับตามจุดต่าง ๆ เพื่อความคล่องตัว
เฟรมหลักออกแบบใหม่ในลักษณะท่อเฟรม, เส้นผ่านศูนย์กลาง, ความหนา และโครงเสริมตรงกลางที่ใช้แผ่นเหล็กพร้อมฝาครอบพลาสติกเพิ่มความมั่นคง
ด้านหน้าใช้โช้ก USD ขนาด 41 มม. เปลี่ยนแกนลูกสูบจากเหล็กเป็นอะลูมิเนียม ลดน้ำหนักไป 350 กรัม และปรับได้ครบทั้ง Preload / Rebound / Compression
อีกหนึ่งไฮไลต์คือการใช้ ล้อขึ้นรูปลักษณะเดียวกับ R1 ซึ่งมีจุดเด่นด้านความแข็งแรงสูงและน้ำหนักเบา

ปรับมิติท่านั่งใหม่
Yamaha ปรับตำแหน่งแฮนด์ใหม่ให้ขยับตัวช่วงบนได้คล่องขึ้น ถังน้ำมันออกแบบใหม่ สามารถขยับตัวหน้า–หลังได้ง่ายในโค้ง ส่วนเบาะนั่งลดต่ำลง 5 มม. (จาก 835 เหลือ 830 มม.) ทำให้ยืนคร่อมรถได้ง่ายขึ้นด้วย
ดีไซน์โดยรวม ยกสไตล์มาจากรุ่นพี่ R1 และ R9 ทั้งเบาะนั่งและชุดพักเท้าใหม่ ขณะที่มีการเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆขึ้นมาอีกด้วย เช่น Cruise Control, Auto-Cancel Indicator, และ Emergency Stop Signal

สีใหม่ฉลองครบ 70 ปี Yamaha
R7 ใหม่จะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่
- Icon Blue (น้ำเงินไอคอนิค)
- Midnight Black (ดำด้านดุดัน)
- Anniversary White (ขาวพิเศษ ฉลอง 70 ปี Yamaha)

Yamaha XSR900 GP “Kenny Roberts” ซูเปอร์สปอร์ตเฮอริเทจ CP3
2026 Yamaha Tenere 700 World Raid อัปเกรดใหญ่! ลุยได้ไกลกว่าเดิม
เพิ่มเติม : Yamaha EU









