Honda CB1000GT เปิดตัวที่งาน EICMA Show 2025 เป็นสปอร์ตทัวริ่งพี่ใหญ่สุดสำหรับสายเดินทาง พัฒนาขึ้นโดยใช้พื้นฐานจาก CB1000 Hornet ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานเช่นเดียวกัน โดยใช้แนวคิด “เร็วกว่า ไกลกว่า และสบายกว่าเดิม” ผสาน DNA ของ Hyper Naked สุดดิบเข้ากับความสะดวกสบายทรง Gran Turismo อย่างลงตัว

เครื่อง Fireblade จูนใหม่
ขุมพลังจาก CBR1000RR Fireblade ถูกนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับสายเดินทาง โดยเน้นแรงบิดรอบกลางที่มาไวและเน้นการส่งพลังอย่างต่อเนื่องตลอดรอบเครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC 999 ซีซี.
- กำลังสูงสุด 110.1 kW (150 แรงม้า) ที่ 11,000 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุด 102 นิวตันเมตร ที่ 8,750 รอบ/นาที
- Assist/Slipper Clutch ลดแรงดึงของเครื่องยนต์
- เกียร์ Quickshifter 6 สปีด 2 ทิศทาง
มีอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 16.5 กม./ลิตร บวกกับถังน้ำมัน 21 ลิตร ทำระยะทางยาว ๆ ได้มากกว่า 340 กม. ต่อการเติมน้ำมัน 1 ครั้ง

ระบบขับขี่ครบครัน
CB1000GT ได้เซ็นเซอร์ IMU 6 แกน ที่ประมวลผลการเคลื่อนไหวของรถแบบเรียลไทม์ จัดการระบบความปลอดภัยและการควบคุมต่าง ๆ ได้ภายในเสี้ยววินาที ทั้ง :
- Cornering ABS
- Honda Selectable Torque Control (HSTC) ปรับระดับแรงบิดได้ 3 ระดับ
- Engine Power (EP) และ Engine Brake (EB) ปรับได้ 3 ระดับ
- 4 โหมดขับขี่ + USER Mode ได้แก่ SPORT, STANDARD, TOUR, RAIN

โครงสร้างและช่วงล่าง
เฟรมเหล็ก Diamond Frame แบบเดียวกับ CB1000 Hornet ถูกปรับปรุงให้รับน้ำหนักได้ดีกว่าเดิม พร้อม Subframe ใหม่ ที่ขยายพื้นที่ผู้โดยสารตอนหลัง

ระบบกันสะเทือนระดับเทพจาก “Showa Electronically Equipped Ride Adjustment (Showa-EERA™)” ปรับค่าการหน่วงได้อัตโนมัติภายใน 0.015 วินาที และมีโหมดการทำงานให้เลือกถึง 5 แบบ:
- STANDARD – เน้นความสมดุลทุกพื้นผิว
- SPORT – หนึบแน่นตอบสนองไว
- RAIN – นุ่มและนิ่งในสภาพถนนลื่น
- TOUR – ความเสถียรสูงสุดสำหรับบรรทุกสัมภาระหรือมีผู้โดยสาร
- USER – ตั้งค่าเองได้อิสระ
เบรกหน้าใช้ดิสก์คู่ขนาด 310 มม. พร้อมคาลิเปอร์ Nissin 4 พ็อต แบบ Radial Mount, ด้านหลังใช้ดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มม. พร้อมคาลิเปอร์ 1 พ็อต





ความสะดวกครบสูตร
CB1000GT ให้ทุกอย่างเหล่านี้มาครบจากโรงงาน ไม่ต้องซื้อเพิ่ม :
- กล่องข้างสมัภาระข้าง ขนาด 37L / 28L
- ชิลด์หน้าแบบปรับได้ 5 ระดับ (ระยะปรับได้ 81 มม.)
- การ์ดแฮนด์
- Heated Grips
- Cruise Control (ที่ 50–160 กม./ชม.)
- ขาตั้งคู่
- Quickshifter และ Honda Smart Key
- หน้าจอ TFT 5 นิ้ว รองรับ Honda RoadSync และระบบนำทางผ่านมือถือ
- ช่องชาร์จ USB-C
ทั้งหมดนี้มาพร้อม ไฟ ESS (Emergency Stop Signal) ที่จะกระพริบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกอย่างกระทันหัน



สีสันและดีไซน์
ผลงานร่วมระหว่างทีมออกแบบญี่ปุ่นและอิตาลี ทำให้ Honda CB1000GT ดูเฉียบทั้งมุมสปอร์ตและฟีลพรีเมียม โดยมีให้เลือก 3 สี:
- Grand Prix Red (ตัดดำ)
- Pearl Deep Mud Gray
- Graphite Black

และจัดชุดแต่งออกมาเป็นแพ็กเกจครบ ๆ ให้เลือกตามสไตล์ที่ชื่นชอบได้:
- Comfort Pack – ชิลด์สูง / เบาะ Comfort / ชุด Deflector / ไฟตัดหมอก
- Sports Pack – ชุด Under Cowl / สติ๊กเกอร์ถัง / กันเครื่อง / ลายล้อ
- Urban Pack – กล่องหลัง 50L / แร็กหลัง / เบาะรองกล่อง / ระบบกันขโมย
และแน่นอน สามารถเลือกซื้อแยกชิ้นได้ทั้งหมด รวมถึงปลายท่อ Akrapovič Slip-on และชุด Billet Parts จาก Gilles Tooling

Honda EV Outlier ที่สุดแห่งอนาคตของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากฮอนด้า
2026 Honda CB1000F พี่ใหญ่ซูเปอร์โฟว์คัมแบ็ค!
Honda WN7 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเทียบเท่ารถมิดเดิลเวท เตรียมขายปี 2026









