ยกระดับไฮเปอร์เน็กเก็ตของตัวเองไปอีกขั้นด้วยไฮเปอร์เน็กเก็ตโฉมล่าสุดอย่าง 2025 BMW S 1000 R และ M 1000 R ใส่ความแรงมากขึ้นพร้อมรูปโฉมโฉบเฉี่่ยวจากชุดไฟหน้าและสัญลักษณ์ “M” บริเวณช่องแรมแอร์หน้า..
สำหรับ M 1000 R นั้นจะได้ชุดสีเฉพาะรหัส M คือสี Light white uni พร้อมแพทเทิร์นสี M Motorsport, White Aluminium Metallic Matt และสี Blackstorm metallic พร้อมลวดลาย M Motorsport.. และไม่ว่าคุณจะเลือกสีสันอะไรก็ตามแต่จะได้สวิงอาร์ม+เฟรมสี Platinum Grey Metallic มาด้วย..
นอกจากนี้ยังได้รับการปรับปรุงระบบแทรคชั่นคอนโทรล ให้สามารถขับขี่เปิดคันเร่งได้ดียิ่งขึ้น แม้จะยังคงเครื่องยนต์บล็อคเดิมเอาไว้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากโฉมก่อนหน้า (210 bhp เหนาะๆ)
แน่นอนว่าระบบช่วงล่างของรหัส M จะได้ชุดโช้คไฟฟ้าปรับอัตโนมัติ (DDC) ตามโหมดการขับขี่และค่าที่ถูกเซ็ตไว้ ภายใต้สเป็คพื้นฐานอย่างโช้คอัพหัวกลับด้านหน้าขนาดแกน 45 มม.
ขณะที่รุ่น S1000R รุ่นพื้นฐานจะได้อัปเกรดเครื่องยนต์มาด้วยในตัวเลขแรงม้ากว่า 170 ตัว (เพิ่มขึ้น 5 bhp) และปรับโฉมไฟหน้าแบบใหม่เช่นเดียวกัน แค่ไม่มีรหัส M แปะอยู่ด้วยก็เท่านั้น พร้อมตัวเลือก 3 สีสันที่ดูเป็นสตรีทไบค์มากกว่า โดยรุ่นพื้นฐานได้สี Blackstorm Metallic, รุ่นสปอร์ตได้ Bluefire/Mugiallo Yellow และรุ่น M package ได้ Lightwhite uni/M Motorsport
ส่วนฟีเจอร์อื่นๆของ S1000R นั้นได้เพิ่ม ระบบ Engine drag torque control (MSR) ที่สามารถเลือกปรับระดับของ Engine Brake ได้, ท้ายสั้นทรงสปอร์ตติดรถมาให้, ช่องชาร์จ USB-C ใต้เบาะ และระบบโทรออกฉุกเฉินเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือ E-Call ของ BMW มาด้วย
2025 BMW S 1000 R และ M1000R เตรียมวางจำหน่ายปีหน้า พร้อมราคาที่ไม่ขยับจากเดิมมากนัก.. รอติดตามการเปิดตัวในประเทศไทยอีกครั้งได้เลย!
รีวิว 2023 BMW S1000RR อัพเกรดใหม่ ใส่เทคโนโลยี M1000RR พร้อมปะทะสปอร์ตคลาสพันทุกค่าย
เผยโฉม 2021 BMW S1000R ซิงเกิ้ลอาร์ใหม่ ตาไม่เหล่แล้ว
BMW M1000RR มอเตอร์ไซค์ รหัส M ที่มี 500 คันทั่วโลก